รีเซต

วัคซีนโควิด mRNA อาจเพิ่มอัตรารอดชีวิตจากโรคมะเร็งได้

วัคซีนโควิด mRNA อาจเพิ่มอัตรารอดชีวิตจากโรคมะเร็งได้
TNN ช่อง16
6 พฤศจิกายน 2568 ( 15:13 )
11

รายงานจากงานประชุมระดับโลก European Society for Medical Oncology Congress (ESMO) ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเบอร์ลิน เมื่อเดือนตุลาคม ชี้ว่าผลพลอยได้จากวัคซีน mRNA ที่ใช้ป้องกันโรคโควิด-19 อาจสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ให้ต่อสู้กับโรคมะเร็งได้ดีขึ้น

การศึกษาชิ้นนี้ ยังได้ถูกเผยแพร่ในวารสาร Nature พบว่า ในผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับการรักษาด้วยยาภูมิคุ้มกันบำบัดจะมีอัตราการรอดชีวิตยาวนานขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หากได้รับวัคซีน Pfizer หรือ Moderna ภายใน 100 วันหลังเริ่มการรักษา 

โดยกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับการศึกษาครั้งนี้ เป็นผู้ป่วยมะเร็งปอดและมะเร็งผิวหนังชนิดเมลาโนมาระยะลุกลาม

ผลพลอยได้จากการฉีดวัคซีน mRNA

โดยจากข้อมูลผู้ป่วยมะเร็งมากกว่า 1,000 รายที่ได้รับการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัดที่ศูนย์มะเร็ง พบว่าผู้ป่วยที่บังเอิญได้รับวัคซีนโควิดในช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่เริ่มการรักษาภูมิคุ้มกันบำบัด มีโอกาสรอดชีวิตมากกว่าผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนนั้นอย่างมีนัยสำคัญ

ผู้ป่วยที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ของไฟเซอร์หรือโมเดอร์นา ภายใน 100 วันหลังเริ่มการรักษาภูมิคุ้มกันบำบัด มีโอกาสมีชีวิตรอดหลังผ่านไป 3 ปี มากกว่าผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนกว่า 2 เท่าอย่างมีนัยสำคัญ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ป่วยที่มีเนื้องอกซึ่งปกติไม่ตอบสนองต่อภูมิคุ้มกันบำบัดก็ยังได้รับประโยชน์อย่างเด่นชัด โดยมีอัตราการรอดชีวิต 3 ปีเพิ่มขึ้นเกือบ 5 เท่า ความเชื่อมโยงระหว่างการมีอัตรารอดชีวิตที่ดีขึ้นกับการได้รับวัคซีนโควิดแบบ mRNA นี้ ยังคงมีความแข็งแรงแม้เมื่อนำปัจจัยอื่นๆ เช่น ระดับความรุนแรงของโรค หรือโรคร่วม มาควบคุมในการวิเคราะห์แล้ว

เพื่อทำความเข้าใจกระบวนการเบื้องหลัง นักวิจัยศึกษาจากแบบจำลองสัตว์ทดลอง และพบว่าวัคซีนโควิดชนิด mRNA ทำหน้าที่เสมือนสัญญาณเตือน ปลุกระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ตรวจจับและทำลายเซลล์มะเร็ง พร้อมทั้งเอาชนะกลไกที่มะเร็งใช้ในการปิดการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกัน เมื่อใช้ร่วมกัน วัคซีนและยากลุ่มยับยั้งจุดตรวจภูมิคุ้มกัน (immune checkpoint inhibitors) จะทำงาน

ทำไมการค้นพบครั้งนี้จึงสำคัญ? 

ต้องบอกว่า การรักษามะเร็งด้วยภูมิคุ้มกันบำบัดโดยใช้ตัวยับยั้งจุดตรวจภูมิคุ้มกัน พลิกโฉมวงการรักษามะเร็งในช่วงสิบปีที่ผ่านมา โดยสามารถทำให้ผู้ป่วยจำนวนมากที่เคยถูกมองว่าไม่สามารถรักษาได้ หายขาดจากโรคมะเร็ง อย่างไรก็ตาม การรักษานี้กลับไม่ได้ผลในผู้ป่วยที่มีเนื้องอกแบบเย็น หรือ cold tumors ซึ่งเป็นเนื้องอกที่สามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับของระบบภูมิคุ้มกันได้สำเร็จ 

วัคซีนชนิด mRNA อาจเป็นตัวจุดประกาย ที่ระบบภูมิคุ้มกันต้องการ เพื่อเปลี่ยนเนื้องอกแบบเย็ ให้กลายเป็นเนื้องอกแบบร้อนได้ หากผลการทดลองทางคลินิกขั้นต่อไปยืนยันสิ่งนี้ นักวิจัยหวังว่าการแทรกแซงทางการแพทย์ที่เข้าถึงได้ง่ายและมีต้นทุนต่ำนี้ จะสามารถขยายประโยชน์ของภูมิคุ้มกันบำบัดให้แก่ผู้ป่วยมะเร็งนับล้านคน ที่ปกติแล้วจะไม่ได้รับประโยชน์จากการรักษาประเภทนี้

การศึกษาในขั้นต่อไป

เพื่อค้นหาวิธีการที่ปลอดภัยและใช้ได้จริง นักวิจัยกำลังเตรียมทดสอบแนวทางการรักษานี้ในการทดลองทางคลินิกระดับประเทศในกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งปอด โดยผู้ป่วยที่ได้รับยากลุ่มยับยั้งจุดตรวจภูมิคุ้มกันจะถูกสุ่มแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ได้รับวัคซีนโควิดชนิด mRNA ระหว่างการรักษา และกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีน

การศึกษานี้จะช่วยพิสูจน์ว่า วัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ควรถูกบรรจุเป็นส่วนหนึ่งของมาตรฐานการรักษาสำหรับผู้ป่วยที่ได้รับยากลุ่มยับยั้งจุดตรวจภูมิคุ้มกันหรือไม่ ในท้ายที่สุด นักวิจัยหวังว่า แนวทางนี้จะช่วยผู้ป่วยจำนวนมากที่ได้รับการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ปัจจุบันยังไม่มีทางเลือกการรักษาที่ได้ผล

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง