PTG หยุดยาวดันยอดพุ่ง เล็งอัพผลิตB100เท่าตัว

ทันหุ้น –PTG รับโชควันหยุดยาวหนุนคนใช้รถเพิ่มขึ้น คาดไตรมาส 4/2563 ปริมาณขายโต 8-12% ค่าการตลาดยังอยู่ระดับที่ดีราว 1.8-1.9 บาท พร้อมประเมินปีหน้าปริมาณขายโต 10% ส่วนธุรกิจ Non-Oil โต 20% เร่งลงทุนขยายสาขาต่อเนื่อง เล็งเพิ่มกำลังผลิต B100เท่าตัวในปีหน้า รองรับความต้องการใช้เพิ่ม ฟากโบรกมองธุรกิจยังน่าสนใจ จับตาไตรมาส 4/2563 ดีต่อเนื่อง เคาะเป้าหมาย 22.40 บาท

นายรังสรรค์ พวงปาง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ใหญ่บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า สำหรับภาพรวมปริมาณการจำหน่ายน้ำมันไตรมาส 4/2563 จะเติบโตอยู่ที่ 8–12% จากความต้องการใช้น้ำมันที่ดีต่อเนื่อง รวมถึงวันหยุดยาวช่วงเดือนธันวาคมส่งผลให้คนใช้รถเพิ่มขึ้นส่วนค่าการตลาดยังอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพราว 1.8-1.9 บาท เชื่อว่าจะยังรักษาระดับนี้ไว้ได้ต่อเนื่อง ส่วนปี 2564 คาดว่าปริมาณการจำหน่ายน้ำมันจะเติบโตขั้นต่ำราว 10% เพราะมองว่าภาพรวมเศรษฐกิจอาจจะยังไม่ได้ขยายตัวมากนัก จนกว่าจะมีวัคซีนที่มีความชัดเจน

ขณะที่ธุรกิจไม่ใช่น้ำมัน (Non-Oil)คาดว่ารายได้ปีหน้าจะเติบโตกว่า 20% ซึ่งปีหน้าบริษัทยังเดินหน้าในการขยายธุรกิจในส่วนของ Non-Oil ต่อเนื่อง โดยวางงบลงทุนไว้ราว 400-500 ล้านบาท สำหรับการขยายร้านกาแฟพันธ์ไทย อีกราว 150-200 สาขา ส่วนร้านคอฟฟี่ เวิลด์ (Coffee World) อาจจะยังชะลอการทุนเพิ่มไปก่อน เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ขณะเดียวกันยังเตรียมเงินลงทุนกว่า 3.5 พันล้านบาท เพื่อรองรับการขยายสถานีบริการ(ปั๊มน้ำมัน PT) อีกกว่า 150-200 สาขา เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่บริษัทขยายสาขาเพียง 50-100 สาขา โดยเชื่อว่าจะช่วยผลักดันส่วนแบ่งการตลาด(มาร์เก็ตแชร์)ของบริษัทให้ดีขึ้นต่อเนื่อง

*เล็งอัพกำลังผผลิต B100

ส่วนโครงการปาล์มคอมเพล็กซ์ นั้นมีสายการผลิตอย่างครบวงจร นั้นยังให้ผลตอบแทนที่ดีต่อเนื่อง บริษัทรอประเมินนโยบายของภาครัฐในการใช้น้ำมันหากมีความต้องการใช้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทมีแผนขยายกำลังการผลิตโรงกลั่นน้ำมันไบโอดีเซล (B100) เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวจากปัจจุบันมีกำลังผลิต 500,000 ลิตรต่อวัน คาดว่าจะชัดเจนในช่วงปลายปี 2564

พร้อมกันนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาที่จะขยายธุรกิจอาหารและเครื่องดิ่ม (Food & Beverage) รวมไปถึงธุรกิจเกี่ยวข้องกับน้ำมัน อย่างเอทานอลเพิ่ม โดยตั้งงบลงทุนสำหรับการลงทุนธุรกิจใหม่ราว 1 พันล้านบาท หากมีดีลที่ดี ที่จะสร้างผลตอบแทนและสนับสนุนการเติบโตของบริษัทได้บริษัทก็พร้อมที่จะเข้าไปลงทุน

*ปีหน้าโตต่อเนื่องเป้า 22.40 บ.

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด ระบุถึง PTG ว่าคาดว่าผลประกอบการไตรมาส 4/2563 จะยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากปริมาณการจ้าหน่ายน้ามันที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นใน ไตรมาส 4/2563 จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั้ งการท่องเที่ยวและธุรกิจขนส่ง โดยคาดว่าในไตรมาส 4/2563 ปริมาณการจำหน่ายนำช้ำมันจะเพิ่มขึ้น จากช่วงเดียวกันปีก่อน และจากไตรมาสก่อนหน้า

และค่าการตลาดคาดว่าจะยังอยู่ในระดับที่สูงราว 1.9-2.0 บาท จากการบริหารสินค้าคงคลังให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้กำไรสุทธิไตรมาส 4/2563 โตต่อไปได้ อีกทั้งโครงการปาล์มน้ำมันครบวงจรคาดว่าในไตรมาส 4/2563 บริษัทจะได้รับส่วนแบ่งก้าไรจากปาล์มน้ำมันครบวงจรเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็น High Season ของธุรกิจปาล์มน้ำมัน

ทั้งนี้คาดว่า ในปี 2564 บริษัทจะฟื้นตัวจากการคลายมาตรการความคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 บริษัทคาดว่าจะลงทุนราว 5,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มสถานีบริการ 150-200 สาขา รวมทั้งLPG และสถานีบริการน้ามัน โดยจะลงทุนปรับปรุงสถานีบริการน้ำมันเดิม และเปิดสถานีบริการเพิ่มในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ขณะที่ธุรกิจ LPG ส้าหรับรถยนต์และภาคครัวเรือนยังสามารถขยายได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ธุรกิจ Non-Oil อย่างธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทยที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าธุรกิจน้ำมัน บริษัทจะเน้นการสร้างแบรนด์เพื่อให้คนรู้จักมากขึ้นผ่านบัตรสมาชิก แม็ก การ์ด ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” คงราคาเป้าหมายในปี 2564 อยู่ที่ 22.40 บาท