"สุขภาพคือเสรีภาพใหม่ ถอดรหัสสสส.-อปท. ร่วมปักหมุดเมืองปลอดบุหรี่"

สสส. จับมือ อปท.ทั่วประเทศ ใช้กลไก Benchmarking และเครือข่ายสุขภาพชุมชน ขับเคลื่อนแผนลดผู้สูบบุหรี่เหลือไม่เกิน 9 ล้านคนภายในปี 2568 หวังลด NCD ก่อนไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยเต็มรูปแบบ
วิเคราะห์ยุทธศาสตร์ลดผู้สูบบุหรี่: พันธกิจท้องถิ่นสู่สังคมปลอดภัยจาก NCD
เป้าหมายชาติ ลดผู้สูบบุหรี่ไม่เกิน 15% ภายในปี 2568
นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รองประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และประธานกรรมการบริหารแผนคณะที่ 1 เปิดเผยว่า หนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญของ สสส. คือ การลดจำนวนผู้บริโภคยาสูบในประเทศไทย โดยตั้งเป้าหมายไม่ให้เกิน 9 ล้านคนในปี 2568 หรือคิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 15% ของประชากรไทย
แนวทางสำคัญคือการป้องกันไม่ให้เกิดผู้บริโภครายใหม่ ควบคู่กับการลดจำนวนผู้สูบบุหรี่เดิม ผ่านการสร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการสูบบุหรี่ และพัฒนากลไกควบคุมการบริโภคยาสูบในระดับพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพ
บทเรียนจากต่างประเทศ บุหรี่ไฟฟ้าไม่ใช่คำตอบ
แม้หลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร จะอนุญาตให้จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างถูกกฎหมาย แต่ก็พบปัญหาเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีติดบุหรี่ไฟฟ้าในวงกว้างภายในเวลาไม่ถึง 10 ปี เช่นเดียวกับในประเทศไทยที่ปัจจุบันพบเด็กนักเรียนชั้นประถมและมัธยมปลายสูบบุหรี่ไฟฟ้าในสัดส่วนเฉลี่ยกว่า 10% ซึ่งเสี่ยงต่อการพัฒนาสู่การเสพติดสารอื่นๆ และพฤติกรรมเสี่ยงต่อสังคม เช่น การพนัน
กลไกความร่วมมือ เมื่อท้องถิ่นต้องเป็นแกนนำ
นพ.ยงยุทธ์ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ประธานมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาการเรียนรู้ ระบุว่า การขับเคลื่อนชุมชนปลอดบุหรี่จำเป็นต้องอาศัยระบบสนับสนุนและระบบหลักที่ทำงานคู่ขนานกัน โดยใช้แนวคิด Benchmarking ซึ่งเป็นกระบวนการเรียนรู้จากพื้นที่ต้นแบบ เพื่อพัฒนาแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศให้กับ อปท. อื่นๆ ทั่วประเทศ
ระบบสนับสนุน ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก
1. การกำหนดนโยบายชุมชนปลอดบุหรี่ เช่น ธรรมนูญสุขภาพ และพื้นที่ปลอดบุหรี่
2. การเสริมพลังชุมชน เช่น การมีภาคีร่วมมือ การจัดสรรงบประมาณในและนอก อปท.
3. ระบบสารสนเทศ เช่น ฐานข้อมูลผู้สูบบุหรี่และผลกระทบ
ระบบหลัก ประกอบด้วย 3 แกนการทำงาน
1. การสร้างสิ่งแวดล้อมปลอดบุหรี่ในบ้าน ชุมชน โรงเรียน
2. การพัฒนาทักษะของประชาชน เช่น การมีต้นแบบ การจัดกิจกรรมให้กลุ่มเป้าหมาย
3. การให้บริการสุขภาพ เช่น คลินิกช่วยเลิกบุหรี่ในระดับชุมชน
อปท. = ด่านหน้าในการลด NCD
นพ.ชัย กฤตยาภิชาตกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมยาสูบ ย้ำว่า อปท. คือ “รัฐบาลท้องถิ่น” ที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในการดูแลสุขภาพประชาชนในพื้นที่ ทั้งด้านงบประมาณ โครงสร้าง และอำนาจการออกนโยบาย ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้กับเป้าหมายการลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs)
ข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติ (UN) ระบุว่า ประเทศสมาชิกทั่วโลกควรลดอัตราการเสียชีวิตจาก NCD ลง 25% ภายในปี 2568 ขณะที่ในประเทศไทย NCD เป็นสาเหตุการตายถึง 76% เช่น โรคหัวใจ สมอง มะเร็ง เบาหวาน ซึ่งส่วนใหญ่มี "บุหรี่" เป็นปัจจัยหลัก
มิติเร่งด่วน เตรียมรับมือสังคมสูงวัย
การควบคุมบุหรี่ไม่ใช่เพียงภารกิจสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นนโยบายรองรับสังคมผู้สูงอายุ เนื่องจากหากไม่มีการลดผู้สูบบุหรี่และควบคุม NCD ประชากรสูงอายุจะกลายเป็นภาระต่อระบบสุขภาพของประเทศในอนาคต
แนวทางที่ยั่งยืนคือการให้ผู้นำท้องถิ่น หน่วยงานรัฐ ผู้นำชุมชน และประชาชนมีส่วนร่วมออกแบบเมืองปลอดบุหรี่ทั้งเชิงนโยบายและปฏิบัติการ เพื่อป้องกันการเกิดโรคจากต้นเหตุ ก่อนที่ต้นทุนทางสุขภาพจะสายเกินแก้