รีเซต

"สุขภาพคือเสรีภาพใหม่ ถอดรหัสสสส.-อปท. ร่วมปักหมุดเมืองปลอดบุหรี่"

"สุขภาพคือเสรีภาพใหม่ ถอดรหัสสสส.-อปท. ร่วมปักหมุดเมืองปลอดบุหรี่"
TNN ช่อง16
23 เมษายน 2568 ( 19:25 )
19

สสส. จับมือ อปท.ทั่วประเทศ ใช้กลไก Benchmarking และเครือข่ายสุขภาพชุมชน ขับเคลื่อนแผนลดผู้สูบบุหรี่เหลือไม่เกิน 9 ล้านคนภายในปี 2568 หวังลด NCD ก่อนไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยเต็มรูปแบบ


วิเคราะห์ยุทธศาสตร์ลดผู้สูบบุหรี่: พันธกิจท้องถิ่นสู่สังคมปลอดภัยจาก NCD


เป้าหมายชาติ ลดผู้สูบบุหรี่ไม่เกิน 15% ภายในปี 2568

นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รองประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และประธานกรรมการบริหารแผนคณะที่ 1 เปิดเผยว่า หนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญของ สสส. คือ การลดจำนวนผู้บริโภคยาสูบในประเทศไทย โดยตั้งเป้าหมายไม่ให้เกิน 9 ล้านคนในปี 2568 หรือคิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 15% ของประชากรไทย

แนวทางสำคัญคือการป้องกันไม่ให้เกิดผู้บริโภครายใหม่ ควบคู่กับการลดจำนวนผู้สูบบุหรี่เดิม ผ่านการสร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการสูบบุหรี่ และพัฒนากลไกควบคุมการบริโภคยาสูบในระดับพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพ

บทเรียนจากต่างประเทศ บุหรี่ไฟฟ้าไม่ใช่คำตอบ

แม้หลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร จะอนุญาตให้จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างถูกกฎหมาย แต่ก็พบปัญหาเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีติดบุหรี่ไฟฟ้าในวงกว้างภายในเวลาไม่ถึง 10 ปี เช่นเดียวกับในประเทศไทยที่ปัจจุบันพบเด็กนักเรียนชั้นประถมและมัธยมปลายสูบบุหรี่ไฟฟ้าในสัดส่วนเฉลี่ยกว่า 10% ซึ่งเสี่ยงต่อการพัฒนาสู่การเสพติดสารอื่นๆ และพฤติกรรมเสี่ยงต่อสังคม เช่น การพนัน

กลไกความร่วมมือ เมื่อท้องถิ่นต้องเป็นแกนนำ

นพ.ยงยุทธ์ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ประธานมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาการเรียนรู้ ระบุว่า การขับเคลื่อนชุมชนปลอดบุหรี่จำเป็นต้องอาศัยระบบสนับสนุนและระบบหลักที่ทำงานคู่ขนานกัน โดยใช้แนวคิด Benchmarking ซึ่งเป็นกระบวนการเรียนรู้จากพื้นที่ต้นแบบ เพื่อพัฒนาแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศให้กับ อปท. อื่นๆ ทั่วประเทศ

ระบบสนับสนุน ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก

1. การกำหนดนโยบายชุมชนปลอดบุหรี่ เช่น ธรรมนูญสุขภาพ และพื้นที่ปลอดบุหรี่

2. การเสริมพลังชุมชน เช่น การมีภาคีร่วมมือ การจัดสรรงบประมาณในและนอก อปท.

3. ระบบสารสนเทศ เช่น ฐานข้อมูลผู้สูบบุหรี่และผลกระทบ

ระบบหลัก ประกอบด้วย 3 แกนการทำงาน

1. การสร้างสิ่งแวดล้อมปลอดบุหรี่ในบ้าน ชุมชน โรงเรียน

2. การพัฒนาทักษะของประชาชน เช่น การมีต้นแบบ การจัดกิจกรรมให้กลุ่มเป้าหมาย

3. การให้บริการสุขภาพ เช่น คลินิกช่วยเลิกบุหรี่ในระดับชุมชน

อปท. = ด่านหน้าในการลด NCD

นพ.ชัย กฤตยาภิชาตกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมยาสูบ ย้ำว่า อปท. คือ “รัฐบาลท้องถิ่น” ที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในการดูแลสุขภาพประชาชนในพื้นที่ ทั้งด้านงบประมาณ โครงสร้าง และอำนาจการออกนโยบาย ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้กับเป้าหมายการลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs)

ข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติ (UN) ระบุว่า ประเทศสมาชิกทั่วโลกควรลดอัตราการเสียชีวิตจาก NCD ลง 25% ภายในปี 2568 ขณะที่ในประเทศไทย NCD เป็นสาเหตุการตายถึง 76% เช่น โรคหัวใจ สมอง มะเร็ง เบาหวาน ซึ่งส่วนใหญ่มี "บุหรี่" เป็นปัจจัยหลัก

มิติเร่งด่วน เตรียมรับมือสังคมสูงวัย

การควบคุมบุหรี่ไม่ใช่เพียงภารกิจสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นนโยบายรองรับสังคมผู้สูงอายุ เนื่องจากหากไม่มีการลดผู้สูบบุหรี่และควบคุม NCD ประชากรสูงอายุจะกลายเป็นภาระต่อระบบสุขภาพของประเทศในอนาคต

แนวทางที่ยั่งยืนคือการให้ผู้นำท้องถิ่น หน่วยงานรัฐ ผู้นำชุมชน และประชาชนมีส่วนร่วมออกแบบเมืองปลอดบุหรี่ทั้งเชิงนโยบายและปฏิบัติการ เพื่อป้องกันการเกิดโรคจากต้นเหตุ ก่อนที่ต้นทุนทางสุขภาพจะสายเกินแก้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง