ฝุ่นพิษปกคลุมทั่วปากีสถาน AQI พุ่งทะลุ 422 ปัญหาเรื้อรังที่แก้ไม่เคยหาย

วันที่ 28 ต.ค. ที่ผ่านมา เมืองลาฮอร์ ประเทศปากีสถาน ถูกปกคลุมด้วยหมอกควันพิษหนาแน่นที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพประชาชน โดยดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) พุ่งสูงถึง 422 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับอันตรายอย่างยิ่ง การเกิดมลพิษรุนแรงเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับเมืองที่มีประชากรมากกว่า 13 ล้านคน แต่ครั้งนี้สร้างความตระหนกและเป็นเหตุให้มีคำเตือนด้านสุขภาพทั่วเมือง

มลพิษในลาฮอร์ครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันอย่างชัดเจน ทั้งการลดทัศนวิสัย การเดินทาง การทำงาน และกิจกรรมภายนอกบ้าน โรงพยาบาลท้องถิ่นรายงานว่า มีผู้ป่วยเกี่ยวกับโรคทางเดินหายใจและการติดเชื้อที่ตาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประชาชนแสดงความไม่พอใจต่อสาเหตุหลักของปัญหา ซึ่งมาจากโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งในเมือง โดยเฉพาะโรงงานที่เผาพลาสติกและขยะ การปล่อยควันพิษเหล่านี้เป็นต้นเหตุของหมอกควันร้ายแรง ผู้คนเรียกร้องให้รัฐบาลมีมาตรการควบคุมอย่างจริงจัง เช่นเดียวกับครูสอนโยคะ ซาบีร์ ฮุสเซน จุตต์ ที่กล่าวว่า “มีโรงงานมากมายทั้งสองฝั่งของลาฮอร์ที่ควรปิดตัวเพื่อให้เมืองสะอาด”

ความรุนแรงของมลพิษยังกระทบต่อเด็กและครอบครัวอย่างหนัก ผู้ปกครองหลายคนกังวลเรื่องสุขภาพของบุตรหลาน ทำให้ทางการในจังหวัดปัญจาบต้องสั่งปรับเวลาการเรียนการสอน โดยลดชั่วโมงเรียนตั้งแต่วันที่ 27 ต.ค. เพื่อป้องกันเด็กจากช่วงเวลาที่มลพิษสูงสุดในตอนเช้า

เหตุการณ์หมอกควันพิษในลาฮอร์ครั้งนี้ชี้ให้เห็นถึงปัญหามลพิษทางอากาศที่เรื้อรังในเมืองใหญ่ของปากีสถาน การที่ AQI พุ่งสูงถึงระดับอันตรายไม่เพียงส่งผลต่อสุขภาพประชาชน แต่ยังกระทบต่อชีวิตประจำวันและความเป็นอยู่ของชุมชน ปัญหานี้สะท้อนความจำเป็นที่รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องออกมาตรการเข้มงวด ควบคุมการปล่อยมลพิษจากโรงงาน และให้ความสำคัญกับสุขภาพของประชาชนโดยเฉพาะเด็กและกลุ่มเปราะบาง