รีเซต

ป่าทับลาน มรดกโลกผืนใหญ่ กับอนาคตที่แขวนอยู่บนเส้นด้าย

ป่าทับลาน มรดกโลกผืนใหญ่ กับอนาคตที่แขวนอยู่บนเส้นด้าย
TNN ช่อง16
8 กรกฎาคม 2567 ( 15:34 )
39
ป่าทับลาน มรดกโลกผืนใหญ่ กับอนาคตที่แขวนอยู่บนเส้นด้าย

ป่าทับลาน: มรดกโลกผืนใหญ่ กับอนาคตที่แขวนอยู่บนเส้นด้าย



อุทยานแห่งชาติทับลาน ป่ามรดกโลกผืนใหญ่ที่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1.3 ล้านไร่ในภาคอีสานและภาคตะวันออกของไทย กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญ เมื่อมีแผนการเพิกถอนพื้นที่ป่ากว่า 260,000 ไร่ เพื่อจัดสรรให้ประชาชนเข้าทำกิน ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากนักอนุรักษ์และความหวังของชาวบ้านที่ต้องการที่ดินทำกิน อนาคตของผืนป่าแห่งนี้จึงแขวนอยู่บนเส้นด้าย



รู้จัก ป่าทับลาน มรดกโลก


อุทยานแห่งชาติทับลาน เป็นอุทยานแห่งชาติที่ครอบคลุมพื้นที่ในจังหวัดนครราชสีมาและปราจีนบุรี มีเนื้อที่ประมาณ 1.3 ล้านไร่ ซึ่งถือเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ รองจากอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสลับซับซ้อน มียอดเขาสูงที่สำคัญหลายแห่ง เช่น เขาละมั่ง ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานฯ มีระดับความสูง 992 เมตรจากระดับน้ำทะเล พื้นที่แห่งนี้ยังเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารสำคัญที่หล่อเลี้ยงแม่น้ำมูลและแม่น้ำบางปะกง


ด้วยสภาพภูมิประเทศและระบบนิเวศที่หลากหลาย ตั้งแต่ป่าดิบชื้น ป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ ไปจนถึงป่าเต็งรัง ทำให้ป่าทับลานมีความอุดมสมบูรณ์ของพรรณพืชและสัตว์ป่านานาชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ป่าลาน" ซึ่งเป็นป่าที่มีต้นลานขึ้นหนาแน่นตามธรรมชาติอย่างหาได้ยาก จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ในกลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ เมื่อปี พ.ศ. 2548 สะท้อนให้เห็นคุณค่าและความสำคัญของผืนป่าทับลานที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์เอาไว้


ความหลากหลายทางชีวภาพของป่าทับลาน: ทำไมจึงเป็นมรดกโลก?

ป่าทับลานได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกในปี 2548 ร่วมกับอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในกลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ด้วยคุณค่าความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพที่โดดเด่น ป่าทับลานเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารสำคัญ เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด รวมถึงสัตว์หายากใกล้สูญพันธุ์ นอกจากนี้ยังมีป่าลานขึ้นอย่างหนาแน่นซึ่งหาได้ยาก การรักษาผืนป่าแห่งนี้จึงมีความสำคัญต่อการอนุรักษ์มรดกทางธรรมชาติของโลก


เสียงสะท้อนจากชาวบ้าน: ความต้องการที่ดินทำกิน vs. การอนุรักษ์ป่า

ผู้คนจำนวนมากได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานและทำกินในพื้นที่ป่าทับลาน ท่ามกลางกฎระเบียบและข้อจำกัดของกรมอุทยานฯ ชาวบ้านหลายคนจึงต้องการให้มีการเพิกถอนพื้นที่ป่าเพื่อจัดสรรเป็นที่ดินทำกินอย่างถูกกฎหมาย ให้พวกเขามีความมั่นคงในการดำรงชีพและสร้างรากฐานให้ลูกหลาน อย่างไรก็ตาม ในขณะที่พวกเขาต้องการที่ดินทำกิน ผู้คนส่วนใหญ่ก็ตระหนักถึงคุณค่าของผืนป่าและต้องการให้มีการอนุรักษ์ควบคู่กันไป


ข้อกังวลของนักอนุรักษ์: ผลกระทบต่อระบบนิเวศและสถานะมรดกโลก

นักอนุรักษ์และเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ หลายคนไม่เห็นด้วยกับการเพิกถอนพื้นที่ป่า ด้วยเกรงว่าจะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อระบบนิเวศป่าไม้ และอาจกลายเป็นบรรทัดฐานให้มีการบุกรุกผืนป่าอื่นๆ ตามมา การสูญเสียพื้นที่ป่าจำนวนมากจะทำให้ความหลากหลายทางชีวภาพลดลง สัตว์ป่าสูญเสียถิ่นที่อยู่ นอกจากนี้ยังอาจส่งผลต่อสถานะการเป็นมรดกโลกของผืนป่าแห่งนี้ด้วย



ทางออกที่เป็นไปได้: การจัดการที่ดินอย่างยั่งยืนและเป็นธรรม

การแก้ปัญหาที่ดินทำกินในผืนป่าอย่างยั่งยืน จำเป็นต้องสร้างสมดุลระหว่างการตอบสนองความต้องการของมนุษย์และการอนุรักษ์ธรรมชาติ รัฐบาลควรมีแผนการจัดสรรที่ดินให้ชาวบ้านอย่างเป็นธรรม พร้อมกับการควบคุมการขยายตัวของชุมชน และส่งเสริมวิถีเกษตรกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงการสร้างอาชีพทางเลือกและการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เพื่อลดการพึ่งพาทรัพยากรป่าไม้ นอกจากนี้ควรอนุญาตให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาผืนป่า เพื่อสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของและหวงแหน


บทเรียนจากป่าทับลาน: แนวทางการจัดการพื้นที่อนุรักษ์อื่นๆ ในประเทศไทย

ความขัดแย้งระหว่างการอนุรักษ์ผืนป่ากับการจัดสรรที่ดินทำกินให้ชาวบ้าน เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่อนุรักษ์หลายแห่ง บทเรียนจากป่าทับลานชี้ให้เห็นว่าการจัดการพื้นที่อย่างบูรณาการ โดยคำนึงถึงความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายและใช้ฐานความรู้ทางวิทยาศาสตร์ จะช่วยหาทางออกที่เหมาะสมได้ รวมถึงต้องสร้างความตระหนักรู้ให้คนในสังคมเห็นคุณค่าของผืนป่า และร่วมมือกันปกป้อง เพื่อความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติและการพัฒนาที่สมดุลในระยะยาว


อุทยานแห่งชาติทับลาน เป็นมรดกทางธรรมชาติอันล้ำค่าที่ควรอนุรักษ์ไว้ให้คงความอุดมสมบูรณ์ต่อไป อย่างไรก็ตาม การเติบโตของชุมชนโดยรอบและความต้องการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ป่า ทำให้เกิดแนวคิดในการเพิกถอนพื้นที่บางส่วนของอุทยานฯ ออกไปจัดสรรเป็นที่ดินทำกิน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและสถานะการเป็นมรดกโลก


ทั้งนี้กรมอุทยานแห่งชาติได้เปิดรับฟังความเห็นจากประชาชนเกี่ยวกับการเพิกถอนแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ตามมติคณะรัฐมนตรี ทั้งการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็น และการแสดงความคิดเห็นผ่านช่องทางออนไลน์ ระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน ถึง 12 กรกฎาคม 2567 ผ่านทางเว็บไซต์ https://portal.dnp.go.th/Content/nationalpark?contentId=37163 


เพิกถอนป่าทับลาน 2.6 แสนไร่: จุดเปลี่ยนมรดกโลกหรือหายนะระบบนิเวศ?


การเพิกถอนพื้นที่ป่าทับลานกว่า 265,000 ไร่ตามมติ ครม. เมื่อ 14 มี.ค. 2566 เพื่อจัดสรรเป็นที่ดินทำกินให้ชาวบ้าน กำลังจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของผืนป่ามรดกโลกแห่งนี้ นักวิชาการและนักอนุรักษ์จำนวนมากมองว่าการสูญเสียพื้นที่ป่าจำนวนมหาศาลเช่นนี้ จะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อระบบนิเวศ ความหลากหลายทางชีวภาพ แหล่งต้นน้ำลำธาร ตลอดจนวิถีชีวิตของสัตว์ป่านานาชนิด บางส่วนเกรงกันว่าความเสียหายอาจลุกลามไปถึงการสูญเสียสถานะการเป็นมรดกโลกในที่สุด อย่างไรก็ดี ยังมีความหวังว่ากระบวนการรับฟังความคิดเห็นที่กำลังดำเนินอยู่นี้ จะช่วยให้ทุกภาคส่วนได้แสดงทัศนะและข้อกังวล เพื่อนำไปสู่การกำหนดแนวทางการใช้ประโยชน์พื้นที่อย่างสมดุลและยั่งยืน โดยที่ยังสามารถรักษาผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์เอาไว้ได้ในระยะยาว เพื่อเป็นมรดกธรรมชาติล้ำค่าสำหรับลูกหลานในอนาคต


ภาพ TNN / อุทยานแห่งชาติทับลาน - Thap Lan National Park


ข่าวที่เกี่ยวข้อง