รีเซต

หลักเกณฑ์-วิธีการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าพนักงานของรัฐ

หลักเกณฑ์-วิธีการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าพนักงานของรัฐ
TNN ช่อง16
5 สิงหาคม 2566 ( 08:00 )
173
หลักเกณฑ์-วิธีการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าพนักงานของรัฐ

หลักเกณฑ์และวิธีการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าพนักงานของรัฐต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. 


เปิดรายละเอียดหลักเกณฑ์และวิธีการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าพนักงานของรัฐต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. 


“ผู้ยื่นบัญชี” ได้แก่ เจ้าพนักงานของรัฐ

“สํานักงาน ป.ป.ช.” ได้แก่ สํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ 

สํานักงาน ป.ป.ช. ภาค หรือสํานักงาน ป.ป.ช. ประจําจังหวัด แล้วแต่กรณี


วิธีการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน


ผู้ยื่นบัญชีสามารถยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินได้ด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่ง  ดังต่อไปนี้

(1)  จัดส่งด้วยตนเอง  หรือมอบหมายให้บุคคลอื่นจัดส่งแทน 

ให้จัดส่งต่อสํานักงาน ป.ป.ช. โดยให้ถือว่าวันที่พนักงาน เจ้าหน้าที่ออกใบรับบัญชีเป็นวันยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ  ป.ป.ช.

(2)  จัดส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ

ให้ถือวันที่เจ้าพนักงานไปรษณีย์ได้รับลงทะเบียนเป็นวันยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสาร ประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.

(3)  ยื่นบัญชีด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์

เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กําหนด

ผู้ยื่นบัญชีจะต้องแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรส และบุตรที่ยัง ไม่บรรลุนิติภาวะ  ตามที่มีอยู่จริงในวันที่มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน  


ผู้ที่ต้องแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน


ผู้ที่ซึ่งดำรงตำเเหน่งตําแหน่งต่อไปนี้ ได้แก่ 

นายกรัฐมนตรี , รัฐมนตรี , สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร  , สมาชิกวุฒิสภา  และข้าราชการตุลาการศาลปกครอง 

ให้แสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินในวันที่เข้ารับตําแหน่ง และพ้นจากตําแหน่ง

หากพ้นจากตําแหน่งและได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งเดิมหรือตําแหน่งใหม่ภายในหนึ่งเดือน ผู้นั้นไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินแต่ไม่ต้องห้ามที่ผู้นั้น จะยื่นเพื่อเป็นหลักฐาน

ผู้ที่ซึ่งดำรงตำเเหน่งตําแหน่งต่อไปนี้ ได้แก่ 

ข้าราชการการเมืองอื่น , ข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง , ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ , ผู้ดํารงตําแหน่งในองค์กรอิสระ  , ข้าราชการตุลาการ , และตําแหน่งอื่นที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กําหนด 

ให้แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินในวันที่เข้ารับตําแหน่งและพ้นจากการเป็น เจ้าหน้าที่ของรัฐ และทุกสามปีตลอดเวลาที่ยังดํารงตําแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ

กรณีผู้ยื่นบัญชีผู้ใดได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งอื่นใดที่มีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ผู้ยื่นบัญชีไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินใหม่ แต่ไม่ต้องห้ามที่ผู้นั้นจะยื่นเพื่อเป็นหลักฐาน

ผู้ยื่นบัญชีซึ่งดํารงตําแหน่งดังต่อไปนี้ มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบจํานวนสองชุด ชุดหนึ่งเป็นต้นฉบับ อีกชุดหนึ่งเป็นสําเนาคู่ฉบับ 

โดยในเบื้องต้น ให้ผู้ยื่นบัญชีปกปิดข้อความในสําเนาบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบตามหลักเกณฑ์ ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กําหนด

(1) นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ตุลาการ ศาลรัฐธรรมนูญ  ผู้ดํารงตําแหน่งในองค์กรอิสระ  ผู้ดํารงตําแหน่งระดับสูง

(2) ผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่น ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กําหนดให้เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน


เอกสารประกอบการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน


- หลักฐานที่พิสูจน์ความมีอยู่จริงของทรัพย์สินและหนี้สิน 

- หลักฐานการเสียภาษีเงินได้ บุคคลธรรมดาในรอบปีภาษีที่ผ่านมา

กรณียื่นเป็นเอกสารผู้ยื่นจะต้องลงลายมือชื่อรับรองความถูกต้องกํากับไว้ในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินรวมถึงสําเนาหลักฐานที่ยื่นไว้ทุกหน้า พร้อมทั้งจัดทํารายละเอียดของเอกสารประกอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่ยื่นด้วย  


ทรัพย์สินและหนี้สินที่ต้องแสดงรายการ


สำหรับทรัพย์สินและหนี้สิน ที่ต้องแสดงรายการได้แก่ 

- ทรัพย์สินและหนี้สินในต่างประเทศ 

- ทรัพย์สินของบุคคลดังกล่าวที่มอบหมายให้อยู่ในความครอบครองหรือดูแลของบุคคลอื่นไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม


ระยะเวลาการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน


ระยะเวลาการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน กำหนดเวลาดังต่อไปนี้

(1) ในกรณีที่เป็นการเข้ารับตําแหน่ง ให้ยื่นภายใน 60 วัน นับแต่วันถัดจากวันเข้ารับตําแหน่ง

(2) ในกรณีที่เป็นการพ้นจากตําแหน่งหรือพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ให้ยื่นภายใน 60 วัน นับตั้งแต่วันถัดจากวันพ้นจากตําแหน่งหรือพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ

(3) ในกรณีทุกสามปีตลอดเวลาที่ยังดํารงตําแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ให้ยื่นภายใน 60 วัน นับตั้งแต่วันถัดจากวันดํารงตําแหน่งครบทุกสามปี


ขอขยายระยะเวลายื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน


ก่อนครบกําหนดระยะเวลาผู้ยื่นบัญชีอาจยื่นคําขอขยายระยะเวลายื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินได้ 

โดยต้องระบุเหตุผลและความจําเป็นต่อสํานักงาน ป.ป.ช. หากเลขาธิการหรือบุคคลที่เลขาธิการมอบหมายเห็นสมควร จะอนุญาตขยายระยะเวลาได้ แต่ต้องไม่เกิน สามสิบวันนับแต่วันที่ครบกําหนดระยะเวลาที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน

คําขอขยายระยะเวลาให้จัดทําเป็นหนังสือ ต้องระบุรายละเอียด ดังต่อไปนี้

(1)  ชื่อตัวและชื่อสกุลของผู้ยื่นบัญชี

(2)  ตําแหน่งที่ยื่น

(3) ยื่นบัญชีกรณีเข้ารับตําแหน่ง กรณีพ้นจากตําแหน่งหรือพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือทุกสามปีตลอดเวลาที่ยังดํารงตําแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ

(4)  วันที่มีหน้าที่ยื่นบัญชี


ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบเกินกําหนดระยะเวลา


กรณียื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบเกินกําหนดระยะเวลา

ผู้ยื่นบัญชีต้องชี้แจงเหตุของการยื่นบัญชีล่าช้า ต่อคณะกรรมการ  ป.ป.ช.  โดยจัดทําเป็นหนังสือ ต้องระบุรายละเอียด  ดังต่อไปนี้

(1)  ชื่อตัวและชื่อสกุลของผู้ยื่นบัญชี

(2)  ตําแหน่งที่ยื่น

(3) ยื่นบัญชีกรณีเข้ารับตําแหน่ง กรณีพ้นจากตําแหน่งหรือพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือทุกสามปีตลอดเวลาที่ยังดํารงตําแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ

(4) วันที่มีหน้าที่ยื่นบัญชี

(5) เหตุผลของการยื่นบัญชีล่าช้าพร้อมทั้งแนบเอกสารหลักฐานประกอบ (ถ้ามี)


การขอแก้ไขบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน


กรณีก่อนวันครบกําหนดระยะเวลา ผู้ยื่นบัญชี อาจยื่นคําขอแก้ไขบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบที่ได้ยื่นไว้แล้ว หรือยื่นคําขอยื่นบัญชี ทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบเพิ่มเติมได้

กรณีเมื่อครบกําหนดระยะเวลา หากผู้ยื่นบัญชีมีความประสงค์ จะขอแก้ไขบัญชี และเอกสารประกอบที่ได้ยื่นไว้แล้ว หรือขอยื่นเอกสารประกอบเพิ่มเติม สามารถยื่นคําขอแก้ไขบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน หรือยื่นคําขอ ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบเพิ่มเติม พร้อมคําชี้แจงต่อคณะกรรมการ  ป.ป.ช.

ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการบังคับใช้หรือการปฏิบัติตามประกาศนี้ ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอํานาจตีความและวินิจฉัยชี้ขาด คําวินิจฉัยของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้เป็นที่สุด

ท่านผู้ชมสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติ่มเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าพนักงานของรัฐต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตได้ที่ www.nacc.go.th


 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง