รีเซต

"Meta" ทุ่มหลายพันล้าน ซื้อ"พลังงานนิวเคลียร์" หนุนดาต้าเซ็นเตอร์ถึงปี 2047

"Meta" ทุ่มหลายพันล้าน ซื้อ"พลังงานนิวเคลียร์" หนุนดาต้าเซ็นเตอร์ถึงปี 2047
TNN ช่อง16
4 มิถุนายน 2568 ( 13:41 )
14

เมต้า (Meta) ประกาศเมื่อเช้าวันอังคารที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา ถึงการลงทุนครั้งใหญ่เพื่อสนับสนุนพลังงานสะอาด โดยจะทุ่มเงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือหลายหมื่นล้านบาท เพื่อเข้าซื้อ "พลังงานสะอาด" ทั้งหมดจากโรงไฟฟ้าคลินตั้น คลีน เอนเนอร์จี้ เซ็นเตอร์ (Clinton Clean Energy Center) ของคอนสตะเลเชิน เอเนอร์จี (Constellation Energy) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาด 1.1 กิกะวัตต์ในรัฐอิลลินอยส์ตอนกลาง โดยข้อตกลงนี้มีผลตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2027 และจะช่วยให้โรงไฟฟ้าแห่งนี้สามารถเดินเครื่องต่อไปได้จนถึงปี 2047

อุตสาหกรรมนิวเคลียร์ พลังงานสะอาดเพื่อรองรับการเติบโตของ AI

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ หนึ่งในนั้นรวมถึงเมต้า (Meta) ได้กลายเป็นผู้สนับสนุนหลักของอุตสาหกรรมนิวเคลียร์ ที่จากเดิมที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ต้องเผชิญกับอนาคตที่มืดมิดเนื่องจากต้นทุนพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ และก๊าซธรรมชาติ นั้นต่ำกว่า 

อย่างไรก็ตาม การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของปัญญาประดิษฐ์ AI และคลาวด์คอมพิวติ้ง ได้ผลักดันให้บริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้ต้องเร่งค้นหาแหล่งพลังงานที่เชื่อถือได้และมีเสถียรภาพ ซึ่งนำไปสู่การลงทุนจำนวนมากในสตาร์ทอัพด้านนิวเคลียร์

การลงทุนของ Meta ในนิวเคลียร์

การลงทุนครั้งนี้จึงถือเป็นการตอกย้ำบทบาทของเมต้า (Meta)ในการขับเคลื่อนเป้าหมายด้านความยั่งยืน แม้ว่ากระแสไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าแห่งนี้จะยังคงไหลเข้าสู่โครงข่ายไฟฟ้าในพื้นที่ และไม่ได้จ่ายไฟโดยตรงให้กับศูนย์ข้อมูลของเมต้า (Meta) ก็ตาม แต่ข้อตกลงนี้มีจุดประสงค์หลักเพื่อการคำนวณคาร์บอน เพื่อลดผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศโดยรวมของบริษัท โดยการป้องกันการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่อาจเพิ่มขึ้นในอนาคต

แม้ว่ารายละเอียดทางการเงินที่แน่นอนจะไม่ถูกเปิดเผย แต่เป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นข้อตกลงมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์หรือหลายพันล้านบาท ซึ่งจะช่วยให้ คอนสตะเลเชิน เอเนอร์จี (Constellation Energy) สามารถต่ออายุใบอนุญาตการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า และรับประกันลูกค้าหลักตลอดระยะเวลาการขยายใบอนุญาต

ความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของข้อตกลง

ทั้งนี้เมต้า (Meta) และ คอนสตะเลเชิน เอเนอร์จี (Constellation Energy) ต่างกล่าวเป็นนัยว่าข้อตกลงนี้เป็นหนึ่งในแนวทางที่จะช่วยรักษาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้จากการปิดตัวลง แม้ว่าจะไม่มีการระบุว่ามีความเสี่ยงที่จะปิดตัวลงในทันทีก็ตาม โรงไฟฟ้าคลินตั้น (Clinton) เคยมีแผนจะปิดตัวลงในเดือนมิถุนายน 2017 เนื่องจากเผชิญกับการแข่งขันจากก๊าซธรรมชาติราคาถูก แต่ได้รับการช่วยเหลือจากเงินอุดหนุนของรัฐอิลลินอยส์ ซึ่งจะหมดอายุในปี 2027 ข้อตกลงกับ เมต้า (Meta) จึงเข้ามาช่วยเติมเต็มช่องว่างนี้และรับประกันการดำเนินงานในระยะยาว

แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า คอนสตะเลเชิน เอเนอร์จี (Constellation Energy) ไม่ได้ขู่ที่จะปิดโรงไฟฟ้าคลินตั้น (Clinton) ตั้งแต่ปี 2017 และในปี 2022 ได้ยื่นขอขยายใบอนุญาตการดำเนินงานของเครื่องปฏิกรณ์ไปจนถึงปี 2047 ซึ่งทาง คอนสตะเลเชิน เอเนอร์จี (Constellation Energy) ระบุว่าข้อตกลงกับ เมต้า (Meta) แท้จริงแล้วเป็นการแทนที่โปรแกรมเครดิตการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ (ZEC) และรับประกันการดำเนินงานระยะยาวของโรงไฟฟ้าโดยไม่ต้องพึ่งพาการสนับสนุนจากผู้เสียค่าบริการ

ความหลงใหลในพลังงานนิวเคลียร์ของ เมต้า (Meta) ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ข้อตกลงนี้ ก่อนหน้านี้ Meta ได้ประกาศเมื่อต้นปีว่าจะเปิดรับข้อเสนอสำหรับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใหม่ที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ระหว่าง 1 ถึง 4 กิกะวัตต์ และได้รับข้อเสนอที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกว่า 50 รายการจาก 20 รัฐทั่วประเทศ

ด้วยข้อตกลงกับ เมต้า (Meta) ทำให้ คอนสตะเลเชิน เอเนอร์จี (Constellation Energy) ได้ลูกค้ารายใหญ่อีกรายในกลุ่มเทคโนโลยีสำหรับกลุ่มโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของตน ก่อนหน้านี้ในเดือนกันยายน ผู้ให้บริการพลังงานรายนี้ยังได้ประกาศว่าจะเริ่มเดินเครื่องปฏิกรณ์อีกครั้งหลังจาก Microsoft ได้ตกลงที่จะซื้อไฟฟ้าทั้งหมดที่ผลิตได้จากโรงไฟฟ้าแห่งนั้น สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่กำลังหันมาให้ความสำคัญกับพลังงานนิวเคลียร์มากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจากเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น AI และคลาวด์คอมพิวติ้ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง