Tesla เผยรายได้ไตรมาส 2/2025 ร่วง 12% ปรับกลยุทธ์ AI - หุ่นยนต์สู้

เทสลา (Tesla) เผยผลประกอบการทางการเงินไตรมาส 2 ปี 2025 รายได้รวม 22,500 ล้านดอลลาร์ (ราว 7.5 แสนล้าบาท) สําหรับไตรมาส 2 ปี 2025 ลดลง 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่รายได้จากการดำเนินงานตามมาตรฐาน GAAP ลดลง 42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เหลือน้อยกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนกำไรก็ลดลงอย่างมาก โดยร่วง 16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เหลือกำไรสุทธิ 1,170 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 39,000 ล้านบาท)
สาเหตุเทสลากำไรร่วง
สำหรับสาเหตุที่ทำให้รายได้และกำไรร่วงลงอย่างต่อเนื่อง มาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น รายได้จจากการขายรถยนต์ที่ลดลง 16.6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2024 โดยยอดส่งมอบรถมีเพียง 384,122 คัน ลดลง 13% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2024
นอกจากนี้รายได้จากการขายคาร์บอนเครดิตหรือเครดิตกำกับดูแลให้ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นก็ลดลงเหลือ 439 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 14,000 ล้านบาท) ซึ่งรายได้ส่วนนี้ก็จะหายไปหลังจบไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ อันเป็นผลกระทบมาจากกฎหมาย One Big Beautiful Bill Act ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะยกเลิกค่าปรับสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเกินเป้าหมาย
กลยุทธ์ที่ไม่รู้จะสำเร็จหรือไม่
อีกทั้งกฎหมายดังกล่าวยังทำให้การกระตุ้นของรัฐบาลสหรัฐฯ ในนโยบายเครดิตภาษี EV มูลค่า 7,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อคัน หายไปด้วย ทำให้รายได้ของเทสลา (Tesla) ลดลงเป็นเงาตามตัว เพราะว่าสายพานการผลิตรถยนต์รุ่นประหยัด (คาดว่าเป็น Model 3 และ Model Y เวอร์ชันที่ตัดฟีเจอร์ออก) จะเดินหน้าเต็มกำลังในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 ทำให้ไม่ทันกับอานิสงค์กับนโยบายดังกล่าว
ทั้งนี้เทสลา (Tesla) ยังคงเดินหน้าด้าน AI หุ่นยนต์ และรถยนต์ไร้คนขับ อย่างเมื่อไม่นานมานี้ ได้มีการเปิดบริการแท็กซี่ไร้คนขับ (Robotaxi) ออกมาโลดแล่นในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส แต่ก็ยังเป็นพื้นที่เล็ก ๆ ที่สร้างแรงกระเพือมไม่ได้มาก
โดยนักวิเคราะห์หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า จากปัจจัยต่าง ๆ ทั้งสถานการณ์อุตสาหกรรม EV นโยบายภาษีของทรัมป์ นโยบายการกระตุ้นภายในประเทศ ไปจนถึงพฤติกรรมส่วนตัวของอีลอน มัสก์ หลังจากเข้าไปสู่โลกการเมือง ทำให้ภาพรวมของบริษัทเทสลา (Tesla) ยังน่าเป็นห่วง ซึ่งยังไม่นับรวมราคาหุ้นที่พร้อมจะดิ่งลงทุกเมื่อ
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
