รีเซต

จีนทดสอบ “รถบรรทุกไร้คนขับ” ในเหมืองที่สูงที่สุดของโลก ทำงานได้อัตโนมัติ ตลอด 24 ชั่วโมง

จีนทดสอบ “รถบรรทุกไร้คนขับ” ในเหมืองที่สูงที่สุดของโลก ทำงานได้อัตโนมัติ ตลอด 24 ชั่วโมง
TNN ช่อง16
20 ธันวาคม 2568 ( 15:33 )
14

จีนประกาศความสำเร็จในการทดสอบ “รถบรรทุกไร้คนขับ” (Unmanned Mining Trucks) ที่เหมืองตะกั่ว-สังกะสี Huoshaoyun ในเขตซินเจียง ซึ่งตั้งอยู่บนระดับความสูงกว่า 5,600 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และได้ชื่อว่าเป็นเหมืองที่สูงที่สุดในโลก 

การทดสอบครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเหมืองอัจฉริยะในพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมสุดขั้ว และถือเป็นการยืนยันศักยภาพด้านเทคโนโลยีการขุดแร่อัตโนมัติของประเทศ

ทำไมเหมือง Huoshaoyun ถึงท้าทายที่สุดในโลก ?

พื้นที่ทำเหมือง Huoshaoyun อยู่ในเทือกเขาคุนหลุนที่มีสภาพเป็นเหมือนกับ "เขตมรณะ" สำหรับมนุษย์ ไม่ว่าจะในเรื่องของปริมาณออกซิเจน ที่มีเพียงครึ่งหนึ่งของระดับน้ำทะเล อุณหภูมิที่ติดลบตลอดทั้งปี มีลมแรงและมีน้ำแข็งเกาะถาวร เป็นพื้นที่เสี่ยงสำหรับร่างกายมนุษย์ หากต้องทำงานในระยะยาว

โดยประเทศจีนตั้งเป้าพัฒนาเหมือง Huoshaoyun ให้เป็นเหมืองอัจฉริยะ ที่ใช้ระบบอัตโนมัติในกระบวนการทั้งหมด ภายในเหมืองมีปริมาณแร่รวมมากกว่า 21 ล้านตัน มูลค่ากว่า 370,000 ล้านหยวน หรือประมาณ 1.66 ล้านล้านบาท เป็นแหล่งตะกั่ว-สังกะสีที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่จีนเคยค้นพบ

รถบรรทุกไร้คนขับที่ขับเคลื่อนด้วย 5G และ AI

รถบรรทุกไร้คนขับคันนี้ถูกพัฒนาโดยบริษัทในเครือสำนักการรถไฟที่ 19 ของจีน Beijing Linghang Zhitu Technology ให้เป็นรถที่มีระบบอัตโนมัติขั้นสูง 

ตัวรถมีลักษณะภายนอกเหมือนกับรถบรรทุกทั่วไป แต่ด้านหน้าไม่มีห้องสำหรับคนขับ ภายในมาพร้อมกับการประมวลผลแบบหลายเซ็นเซอร์ ติดตั้ง AI ที่ใช้ตรวจจับสิ่งกีดขวางและวางแผนเส้นทางได้แบบเรียลไทม์ มีระบบ 5G และคลาวด์ภายใน เพื่อประสานงานกับรถบรรทุกไร้คนขับคันอื่น ๆ ได้แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ยังได้ติดตั้งระบบควบคุมจากระยะไกล ที่สามารถฉายภาพออกมาได้แบบ 360 องศา 

ตัวรถบรรทุกไร้คนขับสามารถทำงานอัตโนมัติได้เต็มรูปแบบตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถให้เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมได้ทันที เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น หยุดรถ เลี้ยว หลบ หรือควบคุมการขนถ่ายแร่

สำหรับด้านการทดสอบ การใช้งานในเหมือง Huoshaoyun พบว่าตัวรถสามารถผ่านการทดสอบด้านการทำงานได้ทั้งหมด

  1. ทดสอบการขนส่งแร่ - ตัวรถสามารถขับตามเส้นทางที่กำหนดในพื้นที่สูง 5,600 เมตร โดยขนส่งแร่ไปยังจุดปลายทางได้อย่างถูกต้อง และสามารถทำงานร่วมกับยานพาหนะคันอื่น ๆ แบบประสานข้อมูลผ่านระบบ 5G ได้อย่างสมบูรณ์

  2. ทดสอบการบรรทุกแร่ - ด้วยระบบ AI และเซ็นเซอร์ ทำให้ตัวรถเข้าเทียบจุดโหลดแร่ได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งยังสามารถรักษาสมดุลบนพื้นที่ลาดชัน ควบคุมน้ำหนักและตำแหน่งบรรทุกได้อย่างปลอดภัย

  3. ระบบนำทางอัตโนมัติทำงานสมบูรณ์ - ตัวรถสามารถจับสิ่งกีดขวางได้แม่นยำ และวางแผนเส้นทางได้แบบเรียลไทม์ แม้เส้นทางดังกล่าวจะมีทั้งเส้นทางที่ขรุขระ เป็นพื้นที่ไต่ระดับ มีหินหรือหิมะปกคลุมอยู่ก็ตาม

  4. ทดสอบเหตุฉุกเฉิน - เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยแม้อยู่ไกล “หลายพันกิโลเมตร” สามารถเข้าควบคุมรถทันที ทั้งการสั่งหยุดรถ ควบคุมพวงมาลัย เบรก และเทแร่ผ่านค็อกพิทได้ อีกทั้งยังสามารถมองเห็นทัศนวิสัยได้รอบคันรถ

แหล่งที่มา :  interestingengineering.com/innovation

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง