‘ก้องศักด’ มั่นใจปลดล็อกให้แฟนบอลเข้าสนามได้ก่อนไทยลีกกลับมาเตะ
‘ก้องศักด’ มั่นใจปลดล็อกให้แฟนบอลเข้าสนามได้ก่อนไทยลีกกลับมาเตะ
เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จัดงานเสวนางาน “ปลุกไทย เที่ยวไทย ปลกุเศรษฐกิจ ให้เดินหน้า” ที่โรงแรมพูลแมน คิงเพาเวอร์ รางน้ำ กทม. โดยมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดงาน ทางด้านบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) มี น.ส.ปานบัว บุนปาน กรรมการผู้จัดการบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และคณะผู้บริหารให้การต้อนรับ โดยมีผู้ร่วมรับฟังการเสวนาอย่างคับคั่ง
ตอนหนึ่งของงานเสวนางาน “ปลุกไทย เที่ยวไทย ปลุกเศรษฐกิจ ให้เดินหน้า” นั้น ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ที่ร่วมปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ไทยพร้อมแล้วกับการท่องเที่ยววิถีใหม่” กล่าวว่า ถ้าย้อนกลับไปวันแรกที่มีผู้ติดเชื้อ จนถึงวันที่ประกาศล็อกดาวน์ ผ่านมาหลายเดือน ถือว่าไทยมาไกลพอสมควรแล้ว ไม่ใช่เรื่องของการกีฬาองค์กรเดียว แต่ทั้งกรมอนามัยและกระทรวงสาธารณสุขได้ทำงานร่วมกันมาทุกระยะ จนทำการปลดล็อกเฟสแรกจนมาถึงปัจจุบัน
ดร.ก้องศักดกล่าวอีกว่า ช่วงต้นที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ต้องห้ามกิจกรรมกีฬาทั้งหมด เพราะมีส่วนในเรื่องของการติดเชื้อ สถานการณ์ตอนนั้นไม่มีใครคาดคิด เพราะไม่ได้เป็นประกาศด้วยผลของกฎหมาย แต่เมื่อมีการล็อกดาวน์ 100 เปอร์เซ็นต์ ทุกภาคส่วนได้รับผลกระทบในวงกว้าง ไม่ใช่แค่ธุรกิจท่องเที่ยวเท่านั้น แต่กีฬาก็ต้องหยุดทั้งหมดเช่นกัน การหารือกับกรมอนามัยในการปลดล็อกมาเรื่อยๆ จนกระทั่งกลับมาแข่งขันกีฬาต่างๆ จนมาไกลมากเกือบครบทุกชนิดกีฬาแล้ว มีบางส่วนที่ต้องพิจารณาในรายละเอียด โดยเฉพาะกีฬาที่สัมผัสตัวกันมากๆ
ผู้ว่าการ กกท.กล่าวต่อว่า ช่วงที่ผ่านมาเห็นชัดเจนว่าพี่น้องชาวกีฬาได้จัดการแข่งขันตามคู่มือที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาทำไว้อย่างเคร่งครัด ก็จะช่วยให้กรมอนามัยและกระทรวงสาธารณสุขปลดล็อกเพิ่มเติมอีก การไปจัดฟุตบอลแมตช์พิเศษ จ.ระยอง เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา มีการทำตามมาตรการต่างๆ ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเข้มงวด และผ่านไปด้วยความเรียบร้อย หลังจากนี้จะทำเป็นรายงานสรุปส่งไปยัง ศบค. เพื่อจะได้ปลดล็อกให้แข่งขันและแฟนกีฬาเข้าชมการแข่งขันตามความเหมาะสม
ดร.ก้องศักดกล่าวอีกว่า ส่วนการจัดมหกรรมกีฬามีความเกี่ยวกับการท่องเที่ยวค่อนข้างสูง การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก “โมโตจีพี” มีเงินหมุนเวียน 3,200 ล้านบาท มีคนเข้าชมกว่า 50,000 คน หลังจากมีการประกาศยกเลิกของปีนี้ไป หลายจังหวัดในแถบ จ.บุรีรัมย์ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก สำหรับฟุตบอลไทยลีก สามารถจัดการแข่งขันได้แล้ว แต่เป็นระบบปิดไม่ให้คนดู เหมือนที่หลายลีกในยุโรปจัดขึ้น ซึ่งถ้าจัด ณ วันนี้ก็ยังไม่มีคนดูในสนาม อย่างไรก็ตามจากการไปจัดการแข่งขันฟุตบอลแมตช์พิเศษที่ จ.ระยอง ที่มีแฟนบอลเข้าชมได้ 2,500 คน ทำให้เป็น “ระยองโมเดล” ที่จะช่วยให้ไทยลีกที่จะกลับมาเตะอีกครั้งในเดือนกันยายนนั้น อาจจะปลดล็อกให้มีคนดูได้
“การที่ไทยไม่มีคนติดเชื้อกว่า 70 วัน ถือว่าไทยเดินหน้าหลายเรื่องไปไกลกว่าประเทศอื่นๆ แล้ว การร่วมมือกันของกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา น่าจะช่วยปลดล็อกให้แฟนบอลเข้าชมได้ก่อนการกลับมาแข่งขันได้แน่นอน” ผู้ว่าก้องศักดกล่าว