สธ. เร่งหามาตรการป้องกันฝุ่น PM2.5 หลังป่วยพุ่งกว่า 1,700 คน

วันนี้ ( 25 ม.ค. 67 )นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับหน่วยงานต่างๆของกระทรวงสาธารณสุข พร้อมแถลงนโยบายและการดำเนินงานแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ปี 2567 โดยระบุว่า กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญในเรื่องของการแจ้งเตือน และเฝ้าระวังเป็นมาตรการแรก โดยเฉพาะการแจ้งเตือนแจ้งเหตุ ว่าพื้นที่ใดมีลักษณะเสี่ยง ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะใช้ตัวเลขคุณภาพอากาศของ PM 2.5 ที่จะต้องไม่เกินค่า 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่ง 75 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จะถือว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และหากมากกว่า 75 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรขึ้นไป ก็จะถือว่าเป็นอันตรายกับกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะกลุ่ม 608 กลุ่มที่มีโรคเรื้อรัง , โรคทางด้านระบบทางเดินหายใจ , โรคหัวใจ , ผู้ที่อยู่ในภาวะเกี่ยวกับปอดหรือเด็กเล็ก และหญิงตั้งครรภ์
ขณะที่กรมควบคุมโรคระบุว่า ตั้งแต่กุมภาพันธ์เป็นต้นไป ไปจนถึงเดือนเมษายนประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูฝุ่น ทำให้มี 5 กลุ่มโรคสำคัญที่ต้องเฝ้าระวัง โดยกรมควบคุมโรค จึงมีมาตรการสื่อสารประชาชน ได้แก่
1.หลีกเลี่ยงการสัมผัสฝุ่นโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ควรงดออกจากบ้าน
2.ปิดประตูปิดหน้าต่าง
3.ใช้หน้ากากป้องกันฝุ่น PM 2.5
4.เลี่ยงการออกกำลังกายหรือทำงานกลางแจ้ง
5.รณรงค์ลดการก่อฝุ่น PM 2.5 ของประชาชน
สำหรับการดูแลรักษานั้นปัจจุบันกรมการแพทย์ ได้จัดตั้งคลินิกมลพิษ ซึ่งได้มีการสร้างห้องคลีนรูม ที่กระจายไปทุกอำเภอแล้วจำนวน 2,000 แห่ง ซึ่งสำหรับห้องคลีนรูมนั้น ประชาชนทั่วไปก็สามารถที่จะจัดทำห้องในลักษณะดังกล่าวได้ด้วยเช่นเดียวกัน เพียงแค่ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด ก็จะเป็นห้องปลอดฝุ่นได้ในระดับหนึ่ง และยังสามารถเติมในเรื่องของเครื่องฟอกอากาศเข้าไปเพิ่ม เพื่อที่จะลดปัญหาฝุ่นได้มากกว่าร้อยละ 60 และการลดความดันบวกของเครื่องฟอกอากาศ
ยกระทรวงสาธารณสุขจะดูแลในส่วนของห้องใน 2 ลักษณะหลัง ในลักษณะของคลินิกมลพิษ ของกรมการแพทย์ เพื่อให้ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงได้เข้ามาใช้บริการ โดยขณะนี้มีประชาชนเข้ามาใช้บริการผ่านแอปพลิเคชั่น DMS telemedicine จำนวน 150,000 ครั้ง ได้รับการประเมินให้เข้ารับการรักษา 1,764 ราย ส่วนใหญ่มีอาการด้านทางเดินหายใจ ได้แก่ ไอ , จาม โรคตา ได้แก่ แสบ , คันตา และอาการทางผิวหนังอักเสบที่พบมาก
ภาพจาก: AFP