ภาพงานศพสะเทือนใจ โลงสามี-ภรรยาเหยื่อโควิด วางเคียงข้างกัน

ภาพงานศพสะเทือนใจ โลงสามี-ภรรยาเหยื่อโควิด วางเคียงข้างกัน

ภาพงานศพสะเทือนใจ - เดลีเมล์ รายงานประเด็นเศร้าจากวิกฤตโรคโควิด-19 คร่าชีวิตผู้คนในหลายประเทศ ด้วยภาพโลงศพ 2 โลงตั้งเคียงกัน บรรจุร่างของสามีภรรยาวัยชราที่อยู่คู่กันตราบจนวาระสุดท้ายและจากไปพร้อมกันด้วยโรคโควิด-19

ผู้อำนวยการบริษัทรับจัดพิธีศพ เอ ดับเบิลยู ลิมน์ ในเมืองน็อตติงแฮมของอังกฤษ กล่าวว่าครอบครัวรับจัดพิธีศพมาตั้งแต่ปี 2450 ไม่เคยเจอเหตุการณ์ที่น่าเทือนใจเช่นนี้เลย

ผู้วายชนม์จากไปอย่างโดดเดียว โดยไม่มีญาติมาร่วมงานศพเลยสักคนเดียว ไม่มีการกล่าวไว้อาลัย มีเพียงสัปเหร่อ 2 คนในห้อง ซึ่งต้องยืนห่างกัน 2 เมตรตามมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมและโค้งศีรษะเคารพศพ ขณะที่มีการถ่ายทอดสดการทำพิธีศพผ่านอินเทอร์เน็ต

เจ้าหน้าที่บริษัทรับทำพิธีศพอยู่ในความสงบและให้เกียรติผู้จากไป ท่ามกลางภาระมากมายที่สร้างความกดดันเนื่องจากมีศพจำนวนมากที่เสียชีวิตจากการติดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

ธรรมเนียมปฏิบัติในงานศพผิดแผกแตกต่างไปจากเดิม เพราะรัฐบาลออกกฎจำกัดผู้ร่วมงานศพและญาติๆ โอบกอดปลอบใจกันเหมือนก่อนไม่ได้ และยังมีกฎห้ามดองศพและห้ามเปิดดูหน้าศพอย่างเด็ดขาด

ระหว่างที่ผู้กล่าวไว้อาลัยก้าวช้าๆ ไปเบื้องหน้ารถบรรจุศพ ผู้หามหีบศพแบกโลงศพทั้ง 2 โลงไว้บนบ่าซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวเท่านั้น ที่มีการใกล้กันน้อยกว่า 2 เมตร โดยพิธีศพทุกขั้นตอน มีช่างภาพบันทึกกระบวนการพิธีศพตั้งแต่แรกจนถึงขั้นสุดท้าย เริ่มจากการทำโลงศพ การนำร่างผู้เสียชีวิตมายังสถานที่ประกอบพิธีศพ ไปจนถึงขั้นตอนการบรรจุศพใส่ถุงและติดป้ายว่าเสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 แล้วนำศพลงโลงอย่างเงียบๆ

ด้านไนเกล ลิมน์ ประธาน ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 4 ของบริษัทลิมน์ กล่าวว่าช่วงนี้ยุ่งกว่าปกติและมีศพจำนวนมากพอๆ กับในช่วงฤดูหนาว เมื่อ 3-4 สัปดาห์ที่แล้ว บริษัทได้รับศพมากขึ้นร้อยละ 80 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วเพราะมีผู้เสียชีวิตหลายร้อยรายจากโรคโควิด-19 แต่จัดพิธีให้ได้หมดทุกรายเพราะพิธีกรรมง่ายกว่าและรวดเร็วเมื่อก่อน

เนื่องจากไม่มีผู้ร่วมงานศพ งานศพจึงดำเนินไปด้วยความเศร้าอย่างแท้จริงเพราะไม่มีแม้แต่ญาติมาร่วมส่งผู้เสียชีวิตเป็นครั้งสุดท้าย แต่ใช้วิธีร่วมงานผ่านการถ่ายทอดสดทางอินเทอร์เน็ตแทนและใช้วิธีขับรถขนศพผ่านถนนที่ผู้วายชนม์เคยอาศัย ญาติๆ จึงตั้งแถวรริมถนนเพื่อบอกลา

ส่วนเจ้าหน้าที่จัดพิธีศพก็สัมผัสศพไม่ได้เพราะต้องป้องกันตัวเองไม่ให้ติดเชื้อไวรัส แม้โอกาสติดไวรัสจากผู้เสียชีวิตน้อยก็ตาม แต่สิ่งที่กลัวที่สุด คือ ผู้มาร่วมงานศพ เพราะต้องทำตามกฎห้ามใกล้กันน้อยกว่า 2 เมตร ระหว่างประกอบพิธีศพ แต่ละคนต้องอยู่ห่างกัน 2 เมตร ทั้งเจ้าหน้าที่ด้วยกันเองและผู้ร่วมงานศพ

สิ่งที่น่าเศร้าใจ คือ ญาติๆ ของผู้เสียชีวิตไม่อาจร่ำลาดูหน้าเป็นครั้งสุดท้ายได้ แต่ก็ไม่เคยมีปัญหากับญาติๆ ตั้งแต่มีกฎใหม่ขึ้นมาเพราะทุกคนกลัวไวรัส โดยเฉพาะผู้ที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักซึ่งจากไปเพราะไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ จึงเข้าใจเป็นอย่างดี และเมื่อถึงเวลาอันสมควร ญาติๆ คงจะได้มาพบกันอีกในภายหลังและมอบความรักให้แก่กันตามที่ควรจะได้รับ
////////

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

โควิด:สเปนส่งศพเหยื่อไวรัส แบบไดรฟ์ทรู 5นาทีจบ แทบไม่ได้บอกลา