รีเซต

โควิด-19 : สถานการณ์ระบาดในอังกฤษจะเป็นอย่างไรหลัง "วันเสรีภาพ" ที่ให้คลายล็อกดาวน์วันแรก

โควิด-19 : สถานการณ์ระบาดในอังกฤษจะเป็นอย่างไรหลัง "วันเสรีภาพ" ที่ให้คลายล็อกดาวน์วันแรก
ข่าวสด
19 กรกฎาคม 2564 ( 10:06 )
72

 

ไม่จำกัดจำนวนคนที่จะมาพบปะกัน ไม่ต้องเว้นระยะห่างเกิน 1 เมตร และไม่มีข้อบังคับทางกฎหมายให้ใส่หน้ากากอนามัย เหล่านี้คือส่วนหนึ่งของความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอังกฤษและสกอตแลนด์ที่จะเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ (19 ก.ค.) ซึ่งเรียกกันว่า "Freedom Day" หรือ "วันเสรีภาพ" จากการคลายมาตรการรับมือโควิด-19

 

 

แต่นี่ไม่ใช่การเริ่มต้นที่ราบรื่นนักหลังจากเมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน และนายริชี สุนัค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ต้องเริ่มกักตัวหลังจากได้ไปพบปะกับนายซาจิด จาวิด รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งติดโควิดแม้จะฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว

 

 

การตัดสินใจกักตัวดังกล่าวเป็นการกลับตัวอย่างกะทันหัน ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้น นายกฯ และ รมว.คลัง บอกว่าพวกเขาจะไม่กักตัวเพราะจะเป็นส่วนหนึ่งของโครงการทดลองที่จะให้คนติดเชื้อตรวจเชื้อทุกวันแทนการกักตัว แต่ก็โดนเสียงวิพากษ์จากหลายฝ่าย รวมถึงฝ่ายค้านที่บอกว่า "มีกฎหนึ่งสำหรับพวกเขา และอีกกฎหนึ่งสำหรับพวกเราที่เหลือ"

 

 

แม้ว่ายังมีคำแนะนำให้เว้นระยะห่างในบางสถานที่อย่างโรงพยาบาล และรัฐบาลก็ยัง "แนะนำ" ให้ใส่หน้ากากอนามัยอยู่ จะไม่มีข้อจำกัดใด ๆ อีกต่อไปในสถานที่ที่มีความแออัด ไม่ว่าจะเป็นไนต์คลับ ผับและร้านอาหาร หรือคอนเสิร์ตและโรงละคร

นอกจากนี้ การคลายล็อกดาวน์อื่น ๆ ยังรวมถึง

  • ไม่จำกัดแขกที่ไปร่วมงานแต่งงานและงานศพ
  • ยกเลิกคำแนะนำไม่ให้ไปเที่ยวในกลุ่มประเทศสีเหลืองอำพัน (amber list) ซึ่งมีไทยอยู่ในนั้นด้วย
  • คนอายุต่ำกว่า 18 ปี และผู้ใหญ่ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วไม่ต้องกักตัวแล้วหลังกลับมาจากประเทศเหล่านั้น
  • จะค่อย ๆ ให้คนที่ทำงานอยู่บ้านกลับไปทำงานที่ออฟฟิศ

 

 

"ฤดูร้อนที่ยากลำบาก"

อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญหลายคนก็ออกมาเตือนเรื่องการคลายล็อกดาวน์ครั้งใหญ่นี้ โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วสหราชอาณาจักรยังมีผู้ป่วยรายใหม่รายวันเพิ่มมากกว่า 5 หมื่นราย ซึ่งสูงเท่ากับเมื่อตอนกลาง ม.ค. ที่สถานการณ์ยังแย่อยู่

 

 

ศาสตราจารย์นีล เฟอร์กูสัน สมาชิกกลุ่มที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์สำหรับเหตุฉุกเฉิน (SAGE) ซึ่งให้คำแนะนำแก่รัฐบาลสหราชอาณาจักร บอกว่า "แทบจะแน่นอน" ที่สหราชอาณาจักรจะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงเป็น 100,000 ราย และคนต้องถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาล 1,000 ราย ต่อวัน หลังจากเลิกล็อกดาวน์วันนี้และเมื่อโรงเรียนเริ่มปิดเทอม

 

 

 

เขาเสริมว่า การคงระดับไว้เท่านั้นได้อาจเรียกได้ว่าเป็น "ความสำเร็จ"

 

 

"คำถามที่แท้จริงคือเราจะทำให้ตัวเลขเพิ่มขึ้นกว่านั้นอีกเท่าตัว หรือมากกว่านั้นอีก" ศ.เฟอร์กูสัน บอกกับรายการ แอนดรูว์ มาร์ โชว์ (Andrew Marr Show) ของบีบีซี เขาบอกอีกว่าจะมีคนอีก 5 แสนคนที่อาจมีอาการ "ลองโควิด" (long Covid) หรือได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในระยะยาว

 

 

สมาชิกกลุ่ม SAGE ผู้นี้บอกว่าจากการคาดเดาที่ดีที่สุด ตัวเลขผู้ติดเชื้อระลอกใหม่นี้น่าจะเพิ่มขึ้นสูงสุดระหว่างเดือน ส.ค. ถึงกลาง ก.ย. และต้องใช้เวลาราว 3 สัปดาห์ถึงจะรู้ว่าการคลายล็อกดาวน์ตั้งแต่ "วันเสรีภาพ" ทำให้เกิดผลกระทบจริง ๆ อย่างไรบ้าง

 

 

ก่อนหน้านี้ นายกฯ บอริส จอห์นสันบอกว่า การคลายล็อกดาวน์ของอังกฤษจะดำเนินไปอย่าง "ระมัดระวังแต่ไม่อาจถอยหลังกลับได้"

 

 

"มันจะเป็นฤดูร้อนที่ยากลำบากด้วยเหตุผลหลายประการ" ศ.เฟอร์กูสันกล่าว นอกจากนี้ เขาบอกว่าพอเข้าฤดูหนาวแล้ว คนน่าจะมีภูมิคุ้มกันต่อโควิดสูง แต่ที่น่ากังวลมากคือไข้หวัดใหญ่ซึ่งอาจกลับมาระบาดหลังจากไม่เกิดขึ้นมา 18 เดือนแล้ว

 

 

เขาบอกว่า เมื่อถึงเดือน ธ.ค. หรือ ม.ค. ไข้หวัดใหญ่ "อาจสร้างความเสียหายต่อสุขภาพและระบบสาธารณสุขเท่ากับโควิดในช่วงที่ผ่านมาปีนี้"

 

 

ข้อกังวลต่อ "วันเสรีภาพ"

เมื่อวานนี้ (18 ก.ค.) หนังสือพิมพ์อังกฤษหลายฉบับต่างตีพิมพ์ข่าวเรื่องความกังวลต่อการคลายล็อกดาวน์วันนี้ เดอะเมลออนซันเดย์ (The Mail on Sunday) อ้าง "แหล่งข่าววงใน" ที่คาดว่าครึ่งหนึ่งของคณะรัฐมนตรีจะต้องกักตัวในที่สุด ส่วนเดอะซันเดย์ไทมส์ (The Sunday Times) คาดว่าจะเกิดความโกลาหลขึ้น โดยยกตัวอย่างกรณีที่รถไฟฟ้าใต้ดินบางสายในกรุงลอนดอนที่ต้องหยุดทำการเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากเจ้าหน้าที่ต้องกักตัว

 

 

ดิอินดิเพนเดนท์รายงานว่า นักวิทยาศาสตร์หลายคนออกมาเร่งให้รัฐบาลเสนอฉีดวัคซีนให้เด็กวัยรุ่นโดยไว โดยบอกว่าเด็กหลายแสนอาจติดโควิดในช่วงฤดูร้อน และมีหลายหมื่นคนที่อาจมีอาการลองโควิดในเวลาต่อมา

 

 

โรเบิร์ต เจนริค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเคหะ ชุมชน และรัฐบาลท้องถิ่น บอกว่า จะตัดสินใจเรื่องการเสนอให้วัคซีนแค่เด็กอายุระหว่าง 12-17 ปี ในอีกไม่กี่วันนี้ หลังจากที่ตอนนี้สหราชอาณาจักรได้เสนอให้วัคซีนกับผู้ใหญ่ทุกคนแล้ว โดยถึงตอนนี้ มีผู้ใหญ่ในสหราชอาณาจักรราว 88% ได้รับวัคซีนโดสแรกแล้ว และอีกราว 68% ได้วัคซีนครบโดสแล้ว

 

 

ดูประเทศอื่น

อิสราเอลแซงหน้าหลายประเทศทั่วโลกในเรื่องอัตราการฉีดวัคซีน ทำให้เริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคต่าง ๆ ได้เร็วกว่าเพื่อนตั้งแต่เดือน ก.พ. เป็นต้นมา และเมื่อถึงช่วงกลางเดือน มิ.ย. ที่ประชากรรับการฉีดวัคซีนครบโดสไปแล้วกว่าครึ่งประเทศ ชีวิตปกติเหมือนช่วงก่อนเกิดโรคระบาดก็หวนคืนกลับมา ผู้คนไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัย ส่วนบรรดาร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม และโรงภาพยนตร์ ก็กลับมาเปิดให้บริการเต็มเวลาได้

 

 

G

แต่หลังจากนั้นตัวเลขยืนยันจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันกลับเพิ่มสูงขึ้น เนื่องมาจากเชื้อไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตาที่ติดต่อกันได้ง่าย การที่ยอดผู้ติดเชื้อกลับมาพุ่งสูงขึ้นอีกครั้งนี้ ทำให้นายกรัฐมนตรีนาฟทาลี เบนเนตต์ ของอิสราเอล ต้องคิดทบทวนเรื่องผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคอีกรอบ ซึ่งก็ทำให้ได้แนวทางใหม่ที่เรียกว่า "การควบคุมอย่างอ่อน" ซึ่งจะเรียกร้องให้ชาวอิสราเอลปรับตัวใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับโรคโควิด-19 ให้ได้ในระยะยาว

 

 

ส่วนที่เนเธอร์แลนด์ เมื่ออัตราการฉีดวัคซีนเพิ่มสูงขึ้นและยอดผู้ติดเชื้อลดลง เนเธอร์แลนด์จึงเริ่มใช้มาตรการผ่อนคลายและเปิดกว้างทางสังคมอีกครั้งในช่วงปลายเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยยกเลิกการสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่เกือบทุกแห่ง และสนับสนุนให้คนหนุ่มสาวออกมาใช้ชีวิตกลางแจ้ง แต่ทว่าหลังจากนั้นไม่นาน จำนวนผู้ติดเชื้อกลับมาพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง โดยก้าวกระโดดขึ้นไปถึงระดับสูงสุดนับแต่เดือน ธ.ค.ของปีที่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ป่วยหนักที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลไม่ได้เพิ่มขึ้น

G

ออสเตรเลียก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง เมื่อช่วงกลางเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ชาวนครซิดนีย์เริ่มกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติก่อนการระบาดกันอีกครั้ง หลังไม่พบกรณีการติดเชื้อในชุมชนท้องถิ่นมานานถึงหนึ่งเดือน ในขณะที่หลายพื้นที่ของประเทศก็มีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคเช่นกัน แต่ทว่าในช่วงปลายเดือน มิ.ย. นครซิดนีย์กลับถูกล็อกดาวน์อีกครั้งเพราะการระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตา มีรายงานเมื่อวันที่ 14 ก.ค. ว่า มาตรการล็อกดาวน์ดังกล่าวจะถูกขยายออกไปอีกสองสัปดาห์ เนื่องจากรัฐนิวเซาท์เวลส์พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เกือบ 100 คนภายในวันเดียว บางรัฐเช่นควีนส์แลนด์ เวสเทิร์นออสเตรเลีย และนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี ก็ประกาศล็อกดาวน์เช่นกัน หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวนไม่มากนัก

 

 

การที่ประชากรออสเตรเลียกว่า 90% ยังไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด ทั้งยังขาดแคลนวัคซีน mRNA ของไฟเซอร์ที่คนส่วนใหญ่ต้องการ หมายความว่าชาวออสเตรเลียหลายล้านคนจะยังไม่ได้ฉีดวัคซีนไปจนถึงช่วงสิ้นปีนี้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง