ARWN ชูความงามมาแรง ขวัญใจ GENZ ปูพรมสาขา

#ARWN #ทันหุ้น - บิ๊ก ออร่าเวลเนส หรือ ARWN ลั่นตลาดความงามไทยสู่โหมดโตแรง แต่จะส่งผลดีกับบริษัทใหญ่ได้มาตรฐานเท่านั้น ชูเจ้าตลาด เจน Y – เจน Z ใน Aura Bangkok Clinic รุกแบรนด์ใหม่ Aura Xpress จับกลุ่มอายุน้อยลงไปอีก วางสูตรฝีมือผลลัพธ์ชัดคุ้มค่า มั่นรายได้ปีนี้ทะยานสู่ 1,600 ล้านบาท เร่งเครื่องขยายสาขาก้าวกระโดด 10 สาขาต่อปี เล็งเข้าตลาดปี 2570

               นายเจตบดินทร์  ประคุณศึกษาพันธ์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออร่า เวลเนส จำกัด หรือ ARWN ผู้ดำเนินธุรกิจคลินิกความงาม Aura Bangkok Clinic และ Aura Xpress (อยู่ภายใต้กลุ่มธุรกิจ Aura Wellness) เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า ธุรกิจความงามของไทยกำลังเติบโตอย่างมาก จากฐานข้อมูลจาก JERA Cloud ซึ่งเป็นระบบ POS ที่ใช้ในคลินิกกว่า 1,700 แห่ง แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมคลินิกความงามไทยปีนี้จะเติบโตต่อเนื่อง 12% และยังคงเติบโตในระดับ 10-15% ใน 5 ปี

@ ผลงานโดดเด่น

               สอดคล้องกับการดำเนินงานของบริษัทที่เริ่มต้นดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ 9 ปีที่ผ่านมา (ปี 2559) โดย 5 ปีแรกก่อนเกิดโควิด-19 บริษัทมียอดขายประมาณ 100 กว่าล้านบาท แต่หลังช่วงโควิดเป็นต้นมา การเติบโตพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก โดยบริษัทมีการเติบโตของรายได้เป็นตัวเลขสองหลัก (Double Digit) อย่างต่อเนื่อง ทั้งจากยอดขายของสาขาเดิม (SSSG) และการขยายสาขาใหม่

ยอดขายรวมของกลุ่มปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 1,200 ล้านบาท และคาดว่าปีนี้น่าจะปิดที่ประมาณ 1,600 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 33% ขณะที่กำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ปีที่แล้วอยู่ที่ 10% และคาดว่าปีนี้จะสูงขึ้นอีกหลายเปอร์เซ็นต์

“ผลประกอบการที่เติบโตอย่างน่าประทับใจ เราสามารถทำรายได้จาก 160 ล้านบาท กระโดดขึ้นเป็น 1,600 ล้านบาท ในปีนี้ พร้อมเตรียมยื่นไฟลิ่งเพื่อเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในช่วงกลางปีหน้า โดยคาดว่าจะเข้าซื้อขายในต้นปี 2570 เป้าหมายหลักของเราคือการสร้างรากฐานให้แข็งแรง เพื่อให้บริษัทสามารถเติบโตได้ในระยะยาว 20-30 ปี” นายเจตบดินทร์ กล่าว

@ ARWN เจ้าตลาด GEN Y-Z 

               สำหรับปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทเป็น “ผู้ชนะในตลาด” และมีอัตราการเติบโตที่รวดเร็ว เนื่องจากบริษัทเป็นคลินิกที่เข้ามาจับกลุ่มลูกค้า Gen Y และ Gen Z อย่างเต็มตัว

โดยแบรนด์ Aura Bangkok Clinic มีฐานลูกค้าหลักเป็น Gen Y และ Gen Z ตอนต้น ส่วนแบรนด์ที่เพิ่งเปิดตัวในปีนี้อย่าง Aura Xpress มุ่งเน้นลูกค้าที่เป็นกลุ่มที่อายุน้อยกว่า โดยลูกค้าอายุน้อยที่สุดที่เข้ามาใช้บริการมีอายุ 18 ปี

               จุดแข็งของบริษัทนั้นมาจากการบริการที่ดี และคุณภาพของแพทย์ โดยแพทย์ของบริษัทมีความเชี่ยวชาญสูง และได้ฉีดมาแล้วเป็นหมื่นเคส ทำให้ลูกค้าเกิดการกลับมาใช้บริการซ้ำและบอกต่อกันอย่างแพร่หลาย จนเกิดเป็นกระแส

นอกจากนี้บริษัทยังใช้ยาแท้และมีเจ้าของเป็นคุณหมอที่จบจากจุฬาฯ ซึ่งช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ แม้ว่าราคาจะไม่ได้ถูกที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่นๆ แต่บริษัทเน้นที่ความคุ้มค่า โดยเชื่อว่าเมื่อลูกค้ามาแล้วต้องสวยขึ้นจริงและเห็นผล

@ รุกขยายสาขาเพิ่ม

               ปัจจุบัน Aura Wellness มีคลินิกทั้งสิ้น 21 สาขา แบ่งเป็น Aura Bangkok Clinic จำนวน 17 สาขา และ Aura Xpress จำนวน 4 สาขา ซึ่งสาขาทั้งหมดในปัจจุบันยังคงอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยสาขาส่วนใหญ่อยู่ติดรถไฟฟ้า และอยู่ในห้างสรรพสินค้า

               สำหรับแผนการขยายสาขา บริษัทมีแผนจะเพิ่มสาขาจากเดิมปีละ 4-5 สาขา เป็น 9-10 สาขาต่อปีในปีหน้าเนื่องจากมี 2 แบรนด์ที่ขยายตัว และจะเริ่มขยายออกไปในต่างจังหวัดเป็นครั้งแรก โดยจะเริ่มที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ขอนแก่นและอุดรธานี) ก่อน

               บริษัทมีฐานลูกค้าประจำและสมาชิกอยู่มากกว่า 100,000 คน โดยการเติบโตยังมาจากทั้งสามกลุ่มหลัก ได้แก่ ลูกค้าใหม่ที่ไม่เคยฉีดหน้ามาก่อน, ลูกค้าเก่า/ลูกค้าที่เคยไปใช้บริการคู่แข่งที่ไม่พอใจ และกลุ่มลูกค้าต่างชาติ

@ เจาะลึกตลาดความงาม

นายเจตบดินทร์ กล่าวด้วยว่า ตลาดความงามกำลังเข้าสู่ช่วงที่ตลาดเติบโต แต่จะส่งผลดีกับคลินิกที่มีมาตรฐานเท่านั้นที่ ที่จะได้รับอานิสงส์ ขณะที่ผู้เล่นที่ไม่ได้มาตรฐานอาจจะไม่สามารถอยู่รอดได้ ขณะเดียวกันการที่แพทยสภาออกกฎที่เข้มงวดขึ้นเกี่ยวกับการโปรโมตสินค้า ก็ยิ่งทำให้คลินิกขนาดเล็กที่เจ้าของเป็นแพทย์ออกมาเปิดเอง ประสบปัญหาในการเกิดใหม่ ซึ่งสถานการณ์นี้จะส่งผลให้ตลาดมีการรวมศูนย์ และเป็นผลดีต่อเจ้าใหญ่ที่มีมาตรฐาน มีบุคลากรการแพทย์ที่เก่ง และการบริการที่ดี