AOTส่งซิกคิงเพาเวอร์ดี อัพค่าPSCกว่า200บาท

#AOT #ทันหุ้น - AOT ยืนยันไม่ยกเลิกสัญญาดิวตี้ฟรี กับคิงเพาเวอร์  แค่เตรียมปรับเงื่อนไขตามข้อเสนอของที่ปรึกษา ชี้ต้องรักษาสมดุลผลประโยชน์รัฐ–เอกชน พร้อมเร่งเพิ่มรายได้หลักจากธุรกิจการบิน โดยเสนอปรับค่า PSC ขึ้นกว่า 200 บาท เพื่อชดเชยขาดทุน ฝ่ายวิจัยกรุงศรีคงคำแนะนำ “ถือ” มองหากปรับค่า PSC สำเร็จ ราคาพื้นฐานปี 2569 จะเพิ่มเป็น 43.50 บาท ด้านบัวหลวงแนะ “ซื้อ” ให้เป้าหมาย 47 บาท คาดรายได้โตจากการขึ้นค่า PSC และขยายธุรกิจบริการภาคพื้น

นางสาวปวีณา  จริยฐิติพงศ์  รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เปิดเผยความคืบหน้าการศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) กับกลุ่มคิงเพาเวอร์ว่า AOT ยึดแนวทางการพิจารณาตามหลักความจริง เบื้องต้นไม่น่าจะนำไปสู่การยกเลิกสัญญา แต่จะปรับเงื่อนไขในสัญญาอย่างไร ต้องรอผลการศึกษาจากที่ปรึกษา ประกอบการพิจารณาอีกครั้ง

“การทำงานร่วมกันในช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมาเป็นไปอย่าง “Professional Deal” แนวทางการดำเนินงานคือการพิจารณาจากความเป็นจริง หาก AOT เรียกเก็บค่าตอบแทนสูงเกินไปจน King Power อยู่ไม่ได้ แล้วต้องยกเลิกสัญญา กลายเป็นว่าคนใหม่เข้ามาเสนอให้น้อยลง อาจทำให้ AOT เสียหาย ในทางกลับกัน หากมีการ “เอื้อ” ประโยชน์มากเกินไป เช่นแก้สัญญาจน King Power ร่ำรวย แต่ AOT ไม่ได้เงินก็จะถูก ปปช. เข้ามาตรวจสอบ”

พร้อมกันนี้ ยืนยันว่าจะมุ่งสร้างรายได้ของ AOT ให้เติบโตจากพันธกิจหลัก คือธุรกิจการบิน (Aero) อาทิ การปรับขึ้นค่าบริการผู้โดยสารขาออก (Passenger Service Charge : PSC),  ค่าบริการสนามบิน (Landing and Parking Fees), ค่าบริการเครื่องอำนวยความสะดวกภาคพื้น ซึ่งได้นำเสนอผลการศึกษาให้กับกรมท่าอากาศยาน  กระทรวงคมนาคมตามขั้นตอน

“การปรับขึ้นค่า PSC ครั้งแรก ก็ยังไม่ได้รับการอนุมัติเนื่องจากยังไม่มีคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) เมื่อเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีทาง AOT จึงได้เสนอใหม่ครั้งเดียวเป็นการปรับขึ้นที่มากกว่า 200 บาทเพื่อความรวดเร็วไม่ เนื่องจากปัจจุบัน AOT ต้องแบกภาระขาดทุนจากค่า PSC มาเป็นระยะเวลานาน”

@ปรับพอร์ต

นายดิษฐนพ  วัธนเวคิน  นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) คาดการณ์ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น AOT ที่อ่อนตัวลงวานนี้ (6 ต.ค.2568) ว่า เกิดจากแรงขายเก็งกำไรของนักลงทุน ที่คาดหวังการปรับขึ้นค่า PSC ของ AOT ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา  ซึ่งผู้บริหาร AOT ก็ชี้แจงผ่านสื่ออย่างต่อเนื่องว่าขั้นตอนการดำเนินงานต้องใช้ระยะเวลาระยะหนึ่ง

ในเชิงปัจจัยพื้นฐาน AOT รายได้ และกำไรงวดไตรมาส 1/2568-2569 ยังคงมีแนวโน้มฟื้นตัวโดดเด่น QoQ หนุนจากช่วงไฮซีซันของการเดินทางท่องเที่ยว ปริมาณผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยานจึงเร่งตัวขึ้น จึงคงคำแนะนำ “ถือ” แม้ราคาซื้อ-ขาย ณ ปัจจุบันสูงกว่าราคาประเมินตามปัจจัยพื้นฐานที่ 30 บาท เนื่องจากยังมี Up Side จากการปรับค่า PSC 200 บาท และประเด็นอื่นๆ ซึ่งจะเริ่มชัดเจนภายในเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน 2568 นี้ ซึ่งหากสามารถปรับเพิ่มค่า PSC ได้ราคาเหมาะสมปี 2569 ที่ 43.50 บาท หากไม่สามารถปรับขึ้นค่า PSC ได้แต่สามารถเจรจากับ King Power ได้ในอัตราค่าตอบแทนไม่ต่ำเท่ากับปี 2561 ราคาเหมาะสมปี 2569 จะอยู่ที่ 32.50 บาท

@แนะ “ซื้อ” เป้า 47 บาท

 บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด  (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์คาดว่า AOT จะปรับขึ้นค่า PSC สำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศอีก 200 บาท และผู้โดยสารในประเทศอีก 100 บาท ฝ่ายวิเคราะห์คาดว่า AOT จะเริ่มใช้ได้ราวเดือนเมษายน 2569  โดยหากอิงจากประมาณการจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศปี 2569 ที่ 82.6 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6.9% YoY  และผู้โดยสารในประเทศ 53.0 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6.1% YoY จะเพิ่มรายได้อีก 6.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% YoY  เราคาดว่าจะหนุนรายได้จาก PSC ในปี 2570 เพิ่มขึ้นอีก 21% YoY ที่สำคัญสัดส่วนรายได้จากธุรกิจการบินและไม่ใช่การบินจะกลับมาอยู่ที่ 61:39 ในปี 2567 สามารถชดเชยรายได้จากดิวตี้ฟรีที่หายไปปีละ 6 พันล้านบาท

ขณะเดียวกันผู้บริหารยังมีแผนสร้างรายได้จากธุรกิจการบินอื่นๆ อาทิ การจัดเก็บรายได้จากค่าใช้บริการไฟฟ้า 400Hz, และเก็บ PC-AIR ที่อาคาร SAT-1 ซึ่งจะเพิ่มรายได้ 300 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ยังมีรายได้อีกกว่า 500 ล้านบาท จาก AOTGA ซึ่งได้ใบอนุญาตใหม่สำหรับบริการภาคพื้นและคลังสินค้า แนวทางเหล่านี้ช่วยขยายฐานรายได้ AOT ให้ครอบคลุมไม่ใช่แค่ผู้โดยสารแต่รวมถึงเครื่องบินและสินค้าขนส่ง มุ่งสร้างการเติบโตที่เน้นภาคบริการและมีความยืดหยุ่นสูง จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม ณ สิ้นเดือนกันยายน 2569 ที่ 47 บาท