รีเซต

เปิดมาตรการเร่งด่วน อัพเสน่ห์หุ้นไทย4เดือน

เปิดมาตรการเร่งด่วน อัพเสน่ห์หุ้นไทย4เดือน
ทันหุ้น
7 ตุลาคม 2568 ( 08:30 )
2

#Taskforce #ทันหุ้น -  4 องค์กรใหญ่เปิด 4 ชุดมาตรการเร่งด่วนสร้างเสน่ห์ตลาดทุน QualityDemand - Attractive Supply - Trusted Market - Supportive Ecosystem ติดสปีด Quick win คลังชี้ต้องเห็นผลเร็ว ก.ล.ต. เผยคณะทำงาน Taskforce จะมีตั้งคณะทำงานชุดย่อยเสริม หวังเห็นรูปธรรมใน 4 เดือน ตลท. รุกดึงดูดกิจการ New Economy  ด้าน FETCO มองหุ้นไทยยังไปต่อสิ้นปีนี้ 1,415 จุด

คณะทำงานเพื่อพิจารณามาตรการปฏิรูปตลาดทุนไทย (Taskforce) ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจาก 1. สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. 2. คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. 3. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. และ 4. สภาธุรกิจตลาดทุนไทย หรือ FETCO ได้หารือพร้อมร่วมกันและเสนอ “ชุดมาตรการสร้างเสน่ห์ตลาดหุ้นไทย” ซึ่งมี 4 มาตรการหลักพร้อมแผนการดำเนินการที่สำคัญเร่งด่วนในแต่ละมาตรการ ดังนี้

@ 4 มาตรการ

Quality Demand ประกอบด้วย 1.การสร้างวัฒนธรรมการลงทุนระยะยาวผ่านบัญชีการลงทุนส่วนบุคคล ขยายฐานผู้ลงทุนกลุ่มใหม่ เพิ่มการให้บริการการลงทุนในตลาดหุ้นและผลิตภัณฑ์ของบริษัทหลักทรัพย์ รวมถึงสร้างศูนย์รวมข้อมูลพอร์ตของผู้ลงทุนและ 2.การส่งเสริมบทบาทผู้ลงทุนสถาบันในประเทศเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตลาดทุน

Attractive Supply ประกอบด้วย 1.การดึงดูดกิจการที่มีศักยภาพและคุณภาพเข้าสู่ตลาดทุนไทย 2.การยกระดับคุณภาพของบริษัทจดทะเบียนในปัจจุบัน ผ่านโครงการ Jump+ และ Value Up Program 3.การปรับขั้นตอนการออกและเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ให้มีประสิทธิภาพและทำให้ตลาดทุนไทยเป็นที่น่าสนใจและสามารถแข่งขันในระดับภูมิภาคได้ 4.การปรับปรุงเกณฑ์การเข้าถึงแหล่งระดมทุนของ SMEs และ New Economy ให้น่าสนใจ และ 5.การเปิดเผยข้อมูล ESG ตามมาตรฐาน ISSB และมุ่งผลให้เกิดการปฏิบัติจริง เพื่อดึงดูดผู้ลงทุนที่คำนึงถึงความรับผิดชอบด้าน ESG ในระดับสากล

Trusted Market ประกอบด้วย 1.การสร้างความเข้มแข็งในการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนและการบังคับใช้กฎหมาย 2.การยกระดับการกำกับดูแลผู้ประกอบวิชาชีพในตลาดทุน และ 3.การใช้เทคโนโลยีเพิ่มช่องทางเข้าถึงข้อมูลทางการเงินของบริษัทขนาดกลางและเล็ก

Supportive Ecosystem ประกอบด้วย 1.การเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุนในการสร้างผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลาย 2.นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มการเข้าถึงการลงทุนของผู้ลงทุนรายย่อยและเปลี่ยนผ่านตลาดทุนสู่ตลาดทุนดิจิทัล 3.ทบทวนหลักเกณฑ์การซื้อขายให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้ลงทุน และ 4.การให้ผู้ลงทุนต่างประเทศสามารถใช้สิทธิ e-Proxy ได้สะดวกยิ่งขึ้น

@คลังหวังผลเร็ว

ดร.วโรทัย  โกศลพิศิษฐ์กุล  ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สศค. กล่าวว่า ชุดมาตรการสร้างเสน่ห์ตลาดทุนไทยเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในระยะยาว เพราะเมื่อตลาดทุนสามารถดึงดูดและขณะเดียวกันก็ถือเป็นมาตรการ Quick Win ที่จะก่อให้เกิดผลลัพธ์เชิงประจักษ์ในระยะสั้น แต่ส่งผลต่อการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจในระยะยาว สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจด้านโยบายเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงการพัฒนาตลาดทุน

@ก.ล.ต.ใส่ใจดิจิทัล

ศ.ดร.พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า  ชุดมาตรการสร้างเสน่ห์ตลาดหุ้นไทย ที่เสนอโดยคณะทำงาน Taskforce ครอบคลุมทั้งฝั่งอุปสงค์และอุปทาน ซึ่งจะมีการตั้งคณะทำงานย่อยในการติดตามและผลักดันมาตรการต่อเนื่อง เพื่อเร่งขับเคลื่อนให้เกิดผลเป็นรูปธรรมในระยะสั้นด้วยแผนอันชัดเจนระยะ 4 เดือน อีกทั้งในระยะถัดไป ก.ล.ต. จะเดินหน้าพัฒนาตลาดทุนในส่วนอื่น ทั้งตลาดตราสารหนี้ หน่วยลงทุน ตลอดจนการเปลี่ยนผ่านตลาดทุนสู่ตลาดทุนดิจิทัล โดยจะมีการจัดตั้งคณะทำงานชุดอื่นเพิ่มเติมต่อไป ซึ่ง ก.ล.ต. พร้อมทำหน้าที่เป็นกลไกสำคัญในการสร้างความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมระหว่างหน่วยงานต่างๆ

              รวมถึงอาจทบทวน LiVE Exchange ให้ระดมทุนง่ายขึ้น เช่นเดียวกันกับบริษัทจำกัดก็จะผลักดันให้ระดมทุนได้ง่ายขึ้นเช่นผ่านคลาวด์ฟันดิ้ง ส่วนด้านข้อจำกัดหากเกี่ยวข้องกับหน่วยงานใดก็พร้อมจะเดินหน้าไปไปหารือประสานงานเช่นกับกระทรวงพาณิชย์เป็นต้น

นายอัสสเดช  คงสิริ  กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า ความมือของคณะทำงาน Taskforce ครั้งนี้ถือเป็นการยกระดับศักยภาพ เพิ่มขีดความสามารถและความน่าสนใจของตลาดทุนไทย เช่นการดึงดูดกิจการ New Economy ที่มีศักยภาพเข้าจดทะเบียน การยกระดับคุณภาพบริษัทจดทะเบียนผ่านโครงการ Jump+ การใช้เทคโนโลยีเพิ่มการเข้าถึงข้อมูลของผู้ลงทุน ไปจนถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลาย

@FETCO มองหุ้นไทย 1,415 จุด

              ดร.กอบศักดิ์  ภูตระกูล  ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า มั่นใจมาตรการเหล่านี้จะทำให้ตลาดหุ้นไทยเป็นหนึ่งในเสาหลักของการเติบโตของเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืนในอนาคต อย่างก็ตามในบางประเด็นได้แก่ Thai Individual Saving Account  หรือ TISA ซึ่งเกี่ยวข้องสิทธิประโยชน์ทางภาษี  จำเป็นต้องเข้าหารือกับกระทรวงการคลังด้วยโดย  FETCO มีการทำหนังสือเพื่อขอเข้า ไปคุยกับทางรัฐบาลเพิ่มเติม

              นอกจากนี้มองตลาดหุ้นไทยยังเป็นที่สนใจจากนักลงทุนต่างชาติมากขึ้นเรื่อยๆ สะท้อนจากระดับดัชนีหุ้นไทยในระยะที่ผ่านและประเมินหุ้นไทยจะปรับเพิ่มขึ้นได้อีก คาดปลายปีนี้อยู่ที่ 1,415 จุด

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง