PYLONผลงานมีแววนิวไฮ เป้าแบ็กล็อกแตะ1.5พันล.

#PYLON #ทันหุ้น – PYLON คาดไตรมาส 3 มีโอกาสโตดีกว่าไตรมาสที่ผ่านมา หวังมาตรการรัฐหนุนงานเพิ่ม เผยอยู่ระหว่างรอรับงานใหม่ คาดว่าจะทราบผลภายในเดือนตุลาคม หรือเดือนพฤศจิกายนนี้ มั่นใจจะรักษาระดับ Backlog ให้เกิน 1,500 ล้านบาทไปจนถึงสิ้นปี ทางด้านโบรกชี้มีลุ้น Backlog ทำนิวไฮ รับงานมาร์จิ้นดีขึ้นปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2568-2569 ขึ้น

ดร.ชเนศวร์  แสงอารยะกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON ผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานฐานราก เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า แนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 3/2568 ยังคงเติบโตใกล้เคียงหรือดีขึ้นจากไตรมาส 2/2568 และคาดว่าจะมีทิศทางดีขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 4/2568 ประกอบกับการมาของรัฐบาลชุดใหม่ ทำให้อุตสาหกรรมเริ่มมีความหวังมากขึ้น โดยโครงการต่างๆ ของกระทรวงคมนาคมที่ประกาศออกมา ไม่ว่าจะเป็นส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าหรือทางด่วน เป็นเรื่องที่ดี และหวังว่าโครงการเหล่านี้จะสามารถขับเคลื่อนให้ทันออกในปีหน้าได้ เพื่อให้งานมีความต่อเนื่อง

ทั้งนี้ยังรอรับงานใหม่เพิ่มเติม โดยเป็นงานเสาเข็ม และกำลังรอการอนุมัติจากลูกค้า คาดว่าจะทราบผลภายในเดือนตุลาคมหรือ เดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งงานที่เพิ่มเข้ามาจะทำให้มูลค่างานในมือ (Backlog) ขยายตัวได้อีกหลายร้อยล้านบาท จากปัจจุบันที่มี Backlog ประมาณ 1,400 ล้านบาท

*ผลงานปีนี้นิวไฮ

ดังนั้นคาดว่าปีนี้จะสามารถรักษาสถานะ Backlog ให้เกิน 1,500 ล้านบาทได้ และตั้งเป้าจะรับรู้รายได้จาก Backlog เฉลี่ยที่ 300-400 ล้านบาทต่อไตรมาส ส่งผลให้ผลประกอบการปีนี้จะเติบโตทำนิวไฮ (New High) ในรอบ 4-5 ปี

              ในส่วนภาพรวมอุตสาหกรรม ต้องยอมรับว่าภาคอสังหาริมทรัพย์โดยรวมดูไม่ดีนักมาหลายปี และอาจต่อเนื่องไปถึงปีหน้า กลุ่มงานที่บริษัทรับส่วนใหญ่เป็นงานเอกชน โดยจะเน้นไปที่ Commercial เช่น มิกซ์ยูส (Mixed Use), อาคารสำนักงาน, หรือโรงพยาบาล ส่วนงานภาครัฐบาลตอนนี้ที่ทำอยู่มีแค่สายสีส้ม แต่ยังคงพยายามปรับน้ำหนักการรับงานให้เท่ากัน

อย่างไรก็ดีด้านแรงงานปัจจุบันบริษัทมีจำนวนพนักงานอยู่ 18 ชุด คาดว่าถึงสิ้นปีหรือต้นปีหน้าจะสามารถเพิ่มไปถึงประมาณ 20 ชุดได้ ทั้งนี้การเพิ่มจำนวนชุดคนงานจะค่อยๆ ทยอยขึ้นตามงานที่มี และเพิ่มกำลังคนด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากเศรษฐกิจโดยรวมยังไม่มีสัญญาณบวกที่ชัดเจนนัก ส่วนปัญหาค่าแรงเนื่องจากข้อดีของงานเสาเข็ม คือ ระยะเวลาทำงานไม่ยาว ทำให้บริษัทสามารถปรับตัว และปรับต้นทุนได้เร็ว

@มาร์จิ้นดีขึ้น

นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพอุตสาหกรรมที่กลับสู่รอบที่ดี และมีงานรองรับเต็มกำลัง(Capacity) สำหรับครึ่งปีหลัง 2568 ล่าสุดบริษัทเริ่มต่อยอดหางานสำหรับปี 2569 มีโอกาสรับงานเอกชนใหญ่เป็นโครงการ Mixed use มูลค่างานเกือบ 500 ล้านบาท คาดว่าเริ่มงานเดือนมกราคม 2569 ระยะเวลา 11 เดือน ใช้เครื่องจักร 6 ชุด และทำให้ Backlog คาดจะกลับสู่ New High รวมถึงยังมีโอกาสรับงานเอกชนอีกโครงการมูลค่า 100-200 ล้านบาท คาดทราบผลไตรมาส 4/2568 และเริ่มงานไตรมาส 1/2569

ดังนั้นภาพอุตสาหกรรมกลับมาฟื้นตัวสถานะผู้ประกอบการเริ่มเลือกงานมากขึ้น  จากกำลังการใช้บางเครื่องจักรใกล้เต็มทำให้การแข่งขันเริ่มลดลง และ Margin จะเริ่มดีขึ้น โดยได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2568-2569 ขึ้นเฉลี่ย 109% จากการรับงานในปีนี้ได้สูงกว่าคาด รวมถึงเพิ่ม Margin ขึ้น  โดยกำไรใหม่ปี 2568-2569 คาดอยู่ที่ 204 ล้านบาท และ 211 ล้านบาท ตามลำดับ แนะนำ “Buy” ให้ราคาเป้าหมายใหม่ 3 บาท จากเดิม 2.60 บาท