รีเซต

คลังชี้คนละครึ่ง-เพิ่มเงินคนจน ดันบริโภคเอกชนเพิ่มเกือบ1%

คลังชี้คนละครึ่ง-เพิ่มเงินคนจน ดันบริโภคเอกชนเพิ่มเกือบ1%
ทันหุ้น
6 ตุลาคม 2568 ( 07:33 )
10

#คลัง #ทันหุ้น – คลังประเมิน “คนละครึ่ง-เพิ่มเงินคนจน” หนุนบริโภคภาคเอกชนเพิ่มเกือบ 1% ธุรกิจค้าปลีก-อาหารเครื่องดื่ม-เอสเอ็มอีรับอานิสงส์ สรรพากรได้ภาษีเพิ่ม 6 พันล้านบาท ชงมาตรการเข้าครม.อังคารนี้

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเผยว่า กระทรวงการคลังได้คาดการณ์ผลจากมาตรการคนละครึ่งพลัสและการเพิ่มเงินให้กับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะช่วยเพิ่มการบริโภคภาคเอกชนได้ราว 0.87% หรือเกือบ 1% จากเม็ดเงินที่ใส่เข้าไปในระบบ 6.7 หมื่นล้านบาท

*กระตุ้นการบริโภค

ทั้งนี้ ผลจากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐดังกล่าว จะทำการบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้นจากกรณีฐาน ( Baseline) โดยมาจากผลของการเพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทำให้การบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 0.35% และมาตรการคนละครึ่ง ทำให้การบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้น  0.52% ขณะที่ทั้ง 2 มาตรการนี้ จะทำให้จีดีพีเพิ่มขึ้นราว 0.3%

โดยเม็ดเงินจะกระจายตัวสู่เศรษฐกิจฐานรากเป็นหลัก ดังนั้น ภาคเศรษฐกิจที่จะได้รับอานิสงส์โดยตรงจากทั้งสองมาตรการดังกล่าวและมีนัยสำคัญ ได้แก่ ภาคการค้าปลีก (โดยเฉพาะร้านค้ารายย่อย), กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มบริการส่วนบุคคล ซึ่งครอบคลุมผู้ประกอบการรายย่อย (SMEs) ในวงกว้าง

นอกจากนี้ มาตรการคนละครึ่งและการเพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ไปกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย จะทำให้การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มของกรมสรรพากร ได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย โดยคาดว่า ภาษีมูลค่าเพิ่มจะได้เพิ่มขึ้นจากใช้จ่ายดังกล่าวราว 6 พันล้านบาท โดยมีสมมติฐานการคำนวณจากฐานการบริโภคภาคเอกชนประมาณการที่ 10 ล้านล้านบาท และอัตรา VAT 7%

ทั้งนี้ จากการคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจของสำนักงานเศรษฐกิจการคลังเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมนี้ คาดว่า การบริโภคภาคเอกชนจะขยายตัวที่ 3.1% ต่อปี ในช่วงคาดการณ์ที่ 2.6% ถึง 3.6%)

*33 ล้านคนรับอานิสงส์

สำหรับมาตรการคนละครึ่งพลัสและการเพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะมีประชาชนที่ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้ 33 ล้านคน แบ่งเป็น 1.ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13 ล้านคน ที่จะได้รับเงินเพิ่มอีก 1,700 บาทต่อคน เมื่อรวมกับที่ได้รับต่อเดือน 300 บาท รวมเป็น 2,000 บาทต่อคน โดยสามารถใช้เงินซื้อสินค้าในร้านค้าธงฟ้าของกระรวงพาณิชย์ จะทยอยซื้อหรือซื้อครั้งเดียว 2 พันบาทก็ได้ แต่ต้องใช้ให้หมดภายธันวาคมนี้

2.ประชาชนที่ไม่ได้อยู่ในระบบภาษี 9 ล้านคน จะได้รับวงเงิน จากโครงการคนละครึ่ง วงเงินคนละ 2 พันบาท โดยรัฐออกให้ 50% แต่ไม่เกิน 200 บาทต่อวัน โดยต้องใช้จ่ายให้หมดภายธันวาคมนี้

3.ประชาชนที่อยู่ในระบบภาษี มี 11 ล้านคน ได้รับวงเงินใช้จ่ายคนละ 2,400 บาท โดยรัฐออกให้ 50% แต่ไม่เกิน200บาทต่อวัน ต้องใช้จ่ายให้หมดภายในธันวาคมนี้

ทั้งนี้ โครงการเพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ครม.ได้อนุมัติโครงการไปแล้วเมื่อวันอังคารที่ 30 กันยายนนี้ ส่วนโครงการคนละครึ่ง ที่จะเข้าครม.ในวันที่ 7 ตุลาคมนี้ และจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน 20-26 ตุลาคม และประชาชนจะเริ่มใช้โครงการนี้ได้ในวันที่ 29 ตุลาคมนี้นั้น เม็ดเงินที่จะใช้รวมกันราว 6.7 หมื่นล้านบาท ส่วนร้านร้านที่จะเข้าร่วมโครงการสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่ 15 ตุลาคมจนถึงจบโครงการในเดือนธันวาคมนี้

สำหรับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เตรียมผลักดันออกมาในระยะนี้ คือ โครงการคนละครึ่งพลัส วงเงินดำเนินการรวม 6.6 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น การดำเนินการผ่านการเพิ่มวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.4 ล้านราย วงเงิน 22,000 ล้านบาท  โดยจะใช้เม็ดเงินจากงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 25,000 ล้านบาท และงบกลางอีก 19,000 ล้านบาท คาดว่าเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนได้ วันที่ 20-26 ตุลาคม 2568 ขณะที่ร้านค้าลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2568 โดยสามารถลงทะเบียนได้จนกว่าจะจบโครงการ และเริ่มใช้จ่ายได้ตั้งแต่ 29 ตุลาคม จนถึงสิ้นเดือน ธันวาคม 2568

เบื้องต้นคาดว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 4/2568 จะขยายตัวได้เพียง 0.3% แต่จากการเร่งผลักดันโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านการบริโภค โดยเฉพาะคนละครึ่งพลัส และการเพิ่มวงเงินในบัตรสวัสดิการ จะช่วยทำให้เศรษฐกิจขยายตัวเป็นบวกเพิ่มอีก 0.2-0.4% ขณะเดียวกันยังมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ ทั้งการกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรอง การเร่งรัดการเบิกจ่ายของภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และท้องถิ่น เชื่อว่าจะช่วยทำให้เศรษฐกิจโตใกล้เคียงอีก 0.7% ดังนั้นจึงมั่นใจว่า เมื่อรวมผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งหมดแล้ว เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4/2568 จะโตเกิน 1%

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง