AUCT ราคารถมือสองฟื้น เดินเกมปั๊มรายได้ใหม่

#AUCT #ทันหุ้น - AUCT แนวโน้มผลงานในไตรมาส 3/2568 คาดดีขึ้น รับไฮซีซัน ชี้ราคารถยนต์มือสองในเดือนกันยายนปรับตัวเพิ่มขึ้น เริ่มเห็นสัญญาการฟื้นตัวยอดขายรถมือหนึ่ง พร้อมปรับกลยุทธ์ดันสัดส่วนรายได้ธุรกิจใหม่เพิ่มเป็น 30% จากเดิม 15-16%

                นายสุธี  สมาธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหการประมูล จำกัด  (มหาชน) หรือ AUCT ประกอบธุรกิจบริการจัดการประมูล เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 3/2568 ตามปกติจะดีขึ้นกว่าไตรมาส 2 เนื่องจากเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน รวมถึงพยายามทำให้ Success Rate ดีขึ้น ถ้าหากปริมาณรถน้อยลง แต่ Success Rate ดีขึ้นจะสามารถช่วยพยุงผลงานของบริษัทได้ โดยแนวโน้มตลาดรถยนต์มือสอง ประเมินว่าในช่วงครึ่งปีหลังตลาดจะยังค่อนข้างทรงตัว ซึ่งถือว่าน่าพอใจในระดับหนึ่ง

                สังเกตจากทิศทางรถยนต์ใหม่ป้ายแดง ทั้งรถสันดาปและรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เริ่มมีทิศทางเป็นเชิงบวกและขายได้มากขึ้น บ่งชี้ได้ว่าตลาดใกล้จะพ้นภาวะซบเซาแล้ว หากต้นน้ำเป็นบวกเชื่อว่ากลางน้ำ และปลายน้ำจะเห็นผลดีตามมาเป็นลำดับ ซึ่งในเดือนกันยายน 2568 เริ่มเห็นสัญญาณราคารถยนต์มือสองปรับตัวดีขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2568 ที่ราคาได้ปรับตัวลดลง

@ วางกลยุทธ์โต

                ทั้งนี้กลยุทธ์การเติบโตของบริษัทโดยพยายามให้น้ำหนักกับการหารายได้ ที่ไม่ได้มาจากค่าดำเนินการประมูลเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่รายได้หลักมาจากค่าธรรมเนียมการดำเนินการประมูล เพื่อนำมาชดเชยรายได้ที่หายไป ซึ่งปัจจุบันรายได้ที่ไม่ได้มาจากค่าดำเนินการประมูลประมาณ 15-16% และตั้งเป้าหมายที่เพิ่มสัดส่วนเป็น 2 เท่า อยู่ที่ 30% ภายใน 3-5 ปี

                ล่าสุดบริษัทได้ เปิดตัวสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) สาขารังสิต-คลอง 8 การเพิ่มบริการตรวจสภาพรถยนต์ ครบจบในที่เดียว ทั้งการตรวจสภาพรถยนต์ ต่อภาษีประจำปี  พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ และประกันภัยรถยนต์ทุกประเภท จะช่วยอำนวยความสะดวก ลดขั้นตอน และสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าประมูลและผู้ใช้รถทั่วไปได้เป็นอย่างดี เพื่อเป็นช่องทางให้คู่ค้าหรือพันธมิตร สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ เช่น สินเชื่อรถยนต์ หรือรีไฟแนนซ์ นอกจากนี้บริษัทจะใช้ประโยชน์จากสถานที่ที่เปิด ตรอ. ซึ่งอยู่ในลานประมูลอยู่แล้ว ทำให้ไม่มีค่าเช่าเพิ่มเติม อีกทั้งยังอยู่ระหว่างศึกษาแผนว่าจะเปิด ตรอ. เพิ่มขึ้นได้อย่างไร

@ ปล่อยสินเชื่อเพิ่ม

                ในส่วนของทิศทางดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มปรับตัวลง มองส่งผลกระทบทางอ้อมต่อบริษัท เนื่องจากการลดดอกเบี้ยจะส่งผลบวกต่อกลุ่มไฟแนนซ์ก่อนทำให้มีต้นทุนที่ลดลง รวมถึงลูกค้าที่เป็นผู้ซื้อจะมีกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นจากดอกเบี้ยธนาคารที่ลดล และถ้าไฟแนนซ์ปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้น ลูกค้าจะมีกำลังซื้อที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้เต็นท์สามารถขายรถยนต์ได้มากขึ้น

                ด้านนโยบายรัฐหลังจากที่มาตรการ “คุณสู้เราช่วย” หมดลงการบริหารจัดการหนี้และการยึดรถควรจะเข้าสู่ภาวะปกติ เนื่องจากโครงการนี้เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยชะลอปริมาณรถที่จะถูกยึด ปัจจุบันปริมาณรถที่ถูกยึดในตลาดยังไม่เยอะ จากการมีโครงการช่วยเหลือลูกหนี้ ถ้าหากโครงการช่วยเหลือหมดลง คาดว่าปริมาณรถยึดจะเพิ่มขึ้นและกลับเข้าสู่ระบบการประมูล คาดว่าจะเห็นภาพปริมาณรถยึดที่ชัดเจนขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้หรือต้นปีหน้า

                ขณะที่รัฐบาลมีแผนที่จะจัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) เพื่อช่วยซื้อลูกหนี้ที่มีปัญหา ซึ่งจะช่วยให้ลูกหนี้กลุ่มนี้กลับมามีความสามารถในการขอสินเชื่อได้อีกครั้ง และช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนของสินเชื่อ รวมถึงกำลังซื้อในภาพรวม