รถพ่วงหลับใน ชนสิบล้อ-เก๋งจอดติดไฟแดงเจ็บติดคาซาก 4 ราย
เวลา 05.30 น. วันที่ 16 กันยายน2563 พ.ต.ท.รัชพล บุญวิเชียร สว.สอบสวน สภ.ธัญบุรี รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันจำนวนหลายคันมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายรายถูกอัดก๊อปปี้ติดคาซากรถ ที่เกิดเหตุ แยกสัญญาณไฟแดงคลองเจ็ด ถนนรังสิต-นครนายก ขาออกจึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งพร้อมอุปกรณ์ตัดถ่าง รถกู้ชีพรพ.ธัญบุรี
ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อเชฟโรเลตสี ดำทะเบียน ฌถ-7802กทม.ถูกรถบรรทุกสิบล้อยี่ห้ออีซูซุสีขาวหมายเลขทะเบียน70-2058 เพชรบุรี ที่บรรทุกยางมะตอยเต็มคันชนเข้าที่บริเวณท้ายรถภายในรถนั่งส่วนบุคคลจนได้รับความเสียหาย พบผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 รายอัดก๊อปปี้ติดคาซากรถ ทราบชื่อนายอเนก บุตรโท อายุ 68 ปี ผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย นายประสิทธิ์ สวนกัน อายุ 83 ปี บาดเจ็บที่ขาทั้งสองข้าง(พ่อตาผู้ขับขี่) นางสุดารัตน์ บุตรโท อายุ 61 ปี (ภรรยา )นั่งเบาะหลังถูกอัดก๊อปปี้ติดคาซากได้รับบาดเจ็บสาหัส อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งใช้อุปกรณ์ตัดถ่างให้ความช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลธัญบุรี ห่างกันเล็กน้อยพบรถบรรทุกพ่วงตู้คอนเทรลเนอร์ยี่ห้ออีซูซุสีขาวทะเบียนหัวลาก79-0232กทม.ตัวพ่วงไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนชนเข้าที่ท้ายรถบรรทุกสิบล้อส่งผลให้ผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บสาหัสติดคาซากรถอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งใช้อุปกรณ์ตัดถ่างให้ความช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลธัญบุรีเป็นชายไทยอายุประมาณ35-40ปี
สอบสวนเบื้องต้นนายอเนก บุตรโท ผู้ขับขี่รถยนต์นั่งส่วนบุคคลให้การว่า ขณะเกิดเหตุตนเองและครอบครัวเดินทางออกจากบ้านพักที่คลองหกธัญบุรี เพื่อจะเดินทางไป รพ.มศว.ที่องครักษ์ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุตนเองได้จอดติดสัญญาณไฟแดง โดยมีรถบรรทุกสิบล้อจอดต่อท้ายเวลาผ่านไปประมาณ10-20วินาทีก็ถูกชนอย่างแรงจากด้านหลังจนพ่อตาและภรรยาตนเองได้รับบาดเจ็บ ส่วนตนเองได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย
ทางด้านนายจุมพล แก้วจรูญ อายุ 49ปี คนขับรถบรรทุกสิบล้อให้การว่า ขณะเกิดเหตุตนเองบรรทุกยางมะตอเต็มคันจากอ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เพื่อจะนำไปส่งที่ จ.นครนายก โดยจอดติดสัญญาณไฟแดงต่อท้ายรถเก๋งก่อนจะมีรถพ่วงมาชนท้ายอย่างแรง รถตนเองจึงพุ่งไปชนรถคันหน้าจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บส่วนตนเองไม่ได้รับบาดเจ็บ คาดผู้ขับขี่รถของคู่กรณีหลับใน
พ.ต.ท.รัชพล บุญวิเชียร ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานและสอบปากคำผู้ขับขี่พยานบุคคล พร้อมทั้งจะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง พร้อมประสานรถยกทำการยกรถออกนอกเส้นทางเพื่อเปิดการจราจรระบายรถที่ติดสะสมจำนวนมาก