6 สัญญาณเตือน "อาการหลับใน" ขณะขับรถ เป็นแบบนี้อย่าฝืนขับต่อ

"วันหยุดยาว" หลายคนต้องขับรถทางไกล เพื่อไปเที่ยวพักผ่อน หรือกลับภูมิลำเนา ซึ่งการขับรถนานๆ อาจส่งผลให้ร่างกายเหนื่อยล้า อ่อนเพลียได้ หากพักผ่อนไม่เพียงพอ ซึ่งส่งผลให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ 

สำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก (สนภ.) จึงได้ให้ความรู้ผ่านเพจเฟซบุ๊ก "ขับขี่ปลอดภัย by DLT" ซึ่งเป็นเพจรวมข้อมูลการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยและสร้างสรรค์บนโลกออนไลน์ของกรมการขนส่งทางบก โดยในวันนี้ได้ในคำแนะนำเกี่ยวกับ "สัญญาณเตือนอาการหลับใน"

โดยระบุว่า หลายครั้งที่อุบัติเหตุรุนแรงบนท้องถนนเกิดจากร่างกายเหนื่อยล้า ซึ่งทำให้ผู้ขับขี่ตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินขณะขับรถได้ช้าลง เนื่องจากความตื่นตัวและสมาธิน้อยกว่าปกติ วันนี้จึงนำ สัญญาณเตือน "หลับใน" เพื่อการขับขี่ปลอดภัย อย่าฝืนขับรถ มาให้ทุกคนสังเกตตัวเอง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันและนำเคล็ดไม่ลับ…ป้องกันขับรถหลับใน มาฝากกัน...

6 สัญญาณเตือนอาการหลับใน

1. หาวบ่อยๆ และหาวในเวลาใกล้เคียงกัน

2. ลืมตาไม่ขึ้น ปวดตา ตาล้า มองเห็นภาพไม่ชัด

3. รู้สึกหนักศีรษะ เหนื่อยล้า หงุดหงิด กระวนกระวาย

4. ใจลอย ไม่มีสมาธิ ไม่เห็นไฟจราจรเปลี่ยนไป หรือทำผิดป้ายจราจร

5. จำไม่ได้ว่าขับรถผ่านอะไรมาบ้าง ในช่วง 2-3 กิโลเมตรก่อน

6. ขับรถส่ายไป-มา ขับออกนอกเลน

อย่างไรก็ตาม เมื่อเช็กแล้วพบว่าหากมีอาการเหล่านี้อย่าฝืนขับต่อ โดยให้จอดรถนอนพัก 15 นาที หรือลงไปล้างหน้า เดินยืดเส้นยืดสาย ดื่มน้ำเย็นๆ จะช่วยทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นขึ้น และอย่าลืมเตรียมพร้อมก่อนเดินทาง ป้องกันหลับใน >> https://safedrivedlt.com/ป้องกันขับรถหลับใน/

เปิดเคล็ดไม่ลับ ขับรถไม่หลับใน

เตรียมพร้อมก่อนเดินทาง ป้องกันหลับใน

- ก่อนเดินทาง 2-3 วัน ให้งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน กาแฟ ชา โกโก้ ฯลฯ เพราะจะทำให้นอนไม่หลับ

- ควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอ นอนให้เป็นเวลาสม่ำเสมอ 7-9 ชั่วโมง ก่อนเดินทาง 2-3 วัน

- งดดื่มแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงยาที่มีฤทธิ์ทำให้ง่วงซึม ยากดประสาท เช่น ยาแก้แพ้ ยาลดน้ำมูก เป็นต้น หากเป็นยารักษาโรคที่ต้องกินประจำ ให้ขอคำปรึกษาแพทย์โดยตรง

- เตรียมของกินแก้ง่วง เช่น ผลไม้รสเปรี้ยว จะช่วยกระตุ้นประสาทให้สดชื่น หรือหมากฝรั่ง กระตุ้นการหมุนเวียนเลือด ทำให้สมองตื่นตัว เป็นต้น

เทคนิคขับรถ ไม่กลัวหลับใน

- ปรับท่านั่งให้ถูกต้อง ช่วยให้เกิดการตื่นตัว กระฉับกระเฉง ไม่เอนนอนมากเกินไป เพราะการเอนที่นั่งกึ่งนอนกึ่งขับ จะเร่งให้ง่วงนอนง่ายขึ้น

- จิบน้ำบ่อยๆ ช่วยให้กระปรี้กระเปร่ามากขึ้น เพราะการขาดน้ำทำให้อ่อนเพลีย เหนื่อยล้าง่าย

- หากเดินทางไกลควรหยุดพักรถทุกระยะ 150 กม. หรือทุกๆ 2 ชม. ให้ร่างกายไม่เมื่อยล้าเกินไป

- ปิดแอร์ เปิดกระจกช่วยได้ ทำให้รู้สึกสดชื่น กระฉับกระเฉงขึ้น

- ง่วงไม่ขับ อย่าฝืนขับต่อ นอนพัก 10-15 นาที หรือลงไปล้างหน้า ยืดเส้นยืดสาย จะช่วยทำให้รู้สดชื่นขึ้นได้

ข้อมูลจาก ขับขี่ปลอดภัย by DLT

ภาพจาก แฟ้มภาพ AFP