เปิดรายชื่อจังหวัดที่ "ฉีดวัคซีนโมเดอร์นา" จาก "สภากาชาดไทย" มีได้ที่ไหนบ้าง เช็กเลย
แม้จะมีกระแสข่าววัคซีนโมเดอร์นาถูกตัดยอดมาจากการนำเข้าขององค์การเภสัชกรรม ซึ่งทางสภากาดยืนยันว่าไม่ได้เป็นการตัดยอดออกมาตามที่เข้าใจ แต่เป็นการสั่งจองไว้ก่อนแล้ว แยกจากวัคซีนจำนวน 4 ล้านโดส และล่าสุดทางบริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด ได้ส่งหนังสือถึงสภากาชาดไทย ระบุว่าวัคซีน “โมเดอร์นา” ที่ดีลร่วมองค์การเภสัชกรรม จำนวน 1 ล้านโดสของกาชาด ส่งภายในปี 64 ขณะที่สภากาชาดฯ สั่งจองเพิ่มอีก 5 ล้านโดสส่งมอบปี 65 เป็นวัคซีนที่ครอบคลุม VOC หรือสายพันธุ์ที่น่ากังวล โดยยอดปีหน้าอยู่ระหว่างเตรียมการด้านเอกสาร และพิจารณาข้อสัญญาต่อไป
ตามที่ได้รับการติดต่อจากสภากาชาดไทยตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อขอจองวัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์น่า จำนวน 1 ล้านโดส โดยเริ่มส่งภายในไตรมาส 4 ของปี 2564 และขอทำสัญญาซื้อขายโดยตรงกับทางบริษัทฯ แต่เนื่องจากทางบริษัทฯ ยังไม่สามารถทำสัญญาโดยตรงกับสภากาชาดไทยสำหรับวัคซีนที่จะมาถึงภายในปีนี้จึงจำเป็นต้องซื้อผ่านองค์การเภสัชกรรม ซึ่งทางบริษัทฯได้แจ้งองค์การเภสัชกรรมให้ทราบแต่ต้นว่าวัคซีน 1 ล้านโดส ในปี 2564 นี้เป็นของสภากาชาดไทย
สำหรับความต้องการสั่งจองวัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์นา เพิ่มเติมจากสภากาชาดไทย จำนวน 5 ล้านโดส วัคซีนนี้จะส่งมอบภายในปี 2565 จะเป็นวัคซีนที่ครอบคลุม Variants of Concern (VOC) (สายพันธุ์น่ากังวล) ทางบริษัทฯ ได้ประสานงานแจ้งการจองปริมาณดังกล่าวไปยังผู้ผลิตเป็นที่เรียบร้อยแล้วและในขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมการด้านเอกสารและพิจารณาข้อสัญญาในลำคับต่อไป ทั้งนี้จะเป็นการสั่งซื้อตรงจากบริษัทฯ โดยไม่ต้องผ่านองค์การเภสัชกรรม
ทาง TrueID จึงได้รวบรวมโควต้าวัคซีนโมเดอร์นานตามจังหวัดที่ได้รับพิจารณาจากสภากาชาดไทยมาไว้ที่นี่แล้ว
เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2564 สภากาชาดไทย ออกประกาศกรณีการจัดสรรวัคซีนโควิด “โมเดอร์นา” ว่า ตามที่สภากาชาดไทยได้มีหนังสือแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เรื่องขอความร่วมมือในการแจ้งจองวัคซีนสำหรับฉีดให้แก่ประชาชนกลุ่มเปราะบางและกลุ่มอื่น ๆ โดยไม่คิดมูลค่า ตามแนวทางการบริหารจัดการวัคซีนสำหรับประชาชนของสภากาชาดไทย โดยกำหนดให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดสั่งจองเข้ามายังสำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด สภากาชาดไทย ภายในเวลา 12.00 น. ของวันที่ 21 กรกฎาคม 2564 นั้น
สภากาชาดไทย ขอเรียนให้ทราบว่า ขณะนี้มีองค์การบริหารส่วนจังหวัดทั้งสิ้น 38 จังหวัดที่ดำเนินการแจ้งการจองวัคซีนเข้ามายังสภากาชาดไทย ประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ เชียงใหม่ ชลบุรี ราชบุรี อุดรธานี สระบุรี มหาสารคาม สิงห์บุรี ลำพูน กระบี่ แพร่ สมุทรสาคร เพชรบูรณ์ นครปฐม ร้อยเอ็ด นครนายก พะเยา กาฬสินธุ์ พระนครศรีอยุธยา น่าน นราธิวาส ศรีสะเกษ สุพรรณบุรี อุทัยธานี เชียงราย สุโขทัย อ่างทอง ภูเก็ต อุตรดิตถ์ มุกดาหาร ตาก ชุมพร พังงา ลพบุรี สุรินทร์และปัตตานี
โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดทั้ง 38 จังหวัด ได้นำเสนอแผนการฉีดวัคซีนตามกลุ่มเป้าหมายที่สภากาชาดไทยกำหนด และผ่านการพิจารณาจากผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดได้เซ็นกำกับรับรองส่งมายังสภากาชาดไทย เพื่อพิจารณาจัดสรรโควต้าวัคซีน พร้อมชำระเงินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (ราคา 1,100 บาท/โดส) ซึ่งสภากาชาดไทยจะทยอยจัดสรรวัคซีนให้ไปดำเนินการฉีดให้แก่ประชาชน โดยไม่คิดมูลค่าได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นไป
แนวทางการบริหารจัดการวัคซีนสำหรับประชาชนของสภากาชาดไทย
1. องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ต้องจัดทำ “แผนการขอรับการจัดสรรวัคซีน” เพื่อนำวัคซีนไปฉีดให้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ตามที่สภากาชาดไทยกำหนด พร้อมจำนวนคนในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 5 กลุ่ม ตามลำดับ ได้แก่
1) คนพิการ ผู้ป่วยติดเตียง สตรีตั้งครรภ์ ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มาก่อน
2) ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มาก่อน
3) บุคลากรทางการแพทย์และพยาบาล ในถิ่นทุรกันดาร
4) ผู้ที่ทำงานประจำอยู่ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ครูผู้สอนในโรงเรียนอนุบาล หรือครู อาจารย์ ผู้ที่ทำหน้าที่สอนหนังสือในโรงเรียน ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มาก่อน
5) บุคลากรที่ต้องออกปฏิบัติงานสัมผัสประชาชน ตามโครงการฉีดวัคซีนขององค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มาก่อน และบุคคลที่ยังไม่สามารถรับการฉีดวัคซีนได้ เนื่องจากติดขัดระเบียบหรือกฎหมาย
2. องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ต้องเสนอ “แผนการขอรับการจัดสรรวัคซีน” โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด
3. เงื่อนไขที่สำคัญ ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ต้องดำเนินการ ดังนี้
1) องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการกับสภากาชาดไทย ต้องสนับสนุนงบประมาณค่าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 Moderna ราคา 1,100 บาท/โดส ให้แก่สภากาชาดไทย เพื่อนำไปจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 Moderna มาให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)
2) องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ต้องจัดบริการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมาย โดยไม่คิดมูลค่าและห้ามนำไปจำหน่ายโดยเด็ดขาด
3) เมื่อสภากาชาดไทย แจ้งการจัดสรรโควต้าให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) แล้ว ขอให้ชำระเงินเต็มตามจำนวนที่ได้รับอนุมัติจากสภากาชาดไทย ภายในวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 ก่อนเวลา 12.00 น.
4) สภากาชาดไทยจะทยอยจัดสรรวัคซีนได้ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นไป
ข้อมูลจาก สภากาชาดไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เช็ก! ‘วัคซีนโมเดอร์นา’ ที่จองไว้ จะได้ฉีดไหม หลังกระแส ‘สภากาชาดไทย’ ตัดโควต้าวัคซีน?
- เปิดข้อเท็จจริง! สภากาชาดไทยชี้แจงสั่งจองวัคซีน'โมเดอร์นา'ไว้ก่อนแล้ว
- สภากาชาดไทย ปิดดีลซื้อโมเดอร์นา 1 ล้านโดส ฉีดให้ประชาชนฟรี!
- เช็ก! โรงพยาบาลรับจองฉีดวัคซีนทางเลือก "โมเดอร์นา" มีที่ไหนบ้าง
- สรุปปมร้อนวัคซีนโมเดอร์นา “องค์การเภสัชกรรม” ปะทะ “หมอบุญ” เดือดกว่านี้ไม่มีแล้ว!
- "วัคซีนป้องกันโควิดกลายพันธุ์" ที่ไทยต้องมีต้านสายพันธุ์เดลต้า-อัลฟา ที่ระบาดหนัก!
- ส่องวัคซีนโควิด-19 “โมเดอร์นา- Moderna” หลังอย.ขึ้นทะเบียนในไทยแล้ว
- สรุปปมเอกสารขอ "โมเดอร์นา" สภากาชาดไทย ให้กำลังพล-ครอบครัว ย้ำเอกสารจริงแต่ไม่ทางการ