รีเซต

เช็กด่วน! เคจีไอ ประมาณการ Q3/63 หุ้น MTC-SAWAD-SINGER

เช็กด่วน! เคจีไอ ประมาณการ Q3/63 หุ้น MTC-SAWAD-SINGER
ทันหุ้น
30 ตุลาคม 2563 ( 10:06 )
143
เช็กด่วน! เคจีไอ ประมาณการ Q3/63 หุ้น MTC-SAWAD-SINGER

ทันหุ้น-สู้โควิด : บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) จับกระแส "กลุ่มนอนแบงก์" คาดว่าสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นของ MTC จะช่วยขับเคลื่อนกำไร ในขณะที่ SAWAD จะได้อานิสงส์จากรายได้พิเศษที่เกิดจากการขาย NPL และการกลับรายการ LLP ของ BFIT ส่วน SINGER ก็จะได้อานิสงส์จากโมเมนตั้มการเติบโตของสินเชื่อ และยอดขายเครื่องช้ไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม มองว่า yield สินเชื่อของทุกบริษัทยังคงถูกกดดัน แต่จะถูกชดเชยด้วยต้นทุนทางการเงินที่ลดลง ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจะเพิ่มขึ้น ถึงแม้จะแนะนำซื้อ MTC และ SINGER แต่ก็แนะนำให้รอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว

 

MTC- กำไรสุทธิ จะอยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท (+2% QoQ และ +19%) ใน 3Q63F  และ 3.8 พันล้านบาท (+22%) ใน 9M63F

ประมาณการของเราใช้สมมติฐานดังนี้ 1.) สินเชื่อเพิ่มขึ้น 5%QoQ และ 15% YoY 2.) yield สินเชื่อลดลง และ SG&A เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล 3.) ต้นทุนทางการเงินลดลง และไปชดเชยกับ margin ที่ถูกกดดันและ 4.) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น เราคาดว่า yield สินเชื่อจะลดลงเนื่องจาก 1.) มีการจัดแคมเปญสินเชื่อรถมอเตอร์ไซค์ดอกเบี้ยถูกที่ 21.25% (จากเดิม 21.55%) และสินเชื่อรถยนต์ดอกเบี้ยถูกที่ 19% (จากเดิม 20.55%) 2.) การให้ soft loan แก่ลูกค้าที่ประสบปัญหา ดังนั้น เราจึงคาดว่า yield สินเชื่อจะลดลง 25bps QoQ เหลือ 21.2% แต่ margin น่าจะยังทรงตัว เพราะการปล่อยกู้ soft loan ที่ได้จากธนาคารออมสินประมาณ 5.0 พันล้านบาทที่อัตรา 2%  ฉุดให้ต้นทุนทางการเงินลดลง

 

SAWAD - กำไรสุทธิ จะอยู่ที่ 906 ล้านบาท (-8% QoQ และ -4%) ใน 3Q63F  และ 2.9 พันล้านบาท (+9%) ใน 9M63F

เราคาดว่ากำไรจะหดตัวทั้ง QoQ และ YoY เนื่องจากอัตราการเติบโตของกำไร BFIT (บริษัทลูกที่ SAWAD ถือหุ้น 82% ซึ่งปล่อยกู้สินเชื่อ yield สูงที่มีที่ดินเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน) ลดลง เราคาดว่า yield สินเชื่อจะลดลง 50bps QoQ และ 260bps YoY ในขณะที่ค่าใช้จ่ายกันสำรองจะเพิ่มขึ้น QoQ จากฐานที่ต่ำใน 2Q63 และลดลงเล็กน้อยแม้ว่า  BFIT มีการกลับรายการสำรองฯเป็นรายได้ใน 3Q63

 

SINGER - กำไรสุทธิใน 3Q63 จะโต 202% YoY แต่ลดลง 17% QoQ ส่วนใน 9M63 จะโต 140% 

เราคาดว่ากำไรสุทธิของ SINGER ใน 3Q63F จะอยู่ที่ 96 ล้านบาท (-17% QoQ และ +202% YoY) และใน 9M63F จะอยู่ที่ 298 ล้านบาท (+140%) โดยกำไรที่ลดลง QoQ เป็นเพราะฐานสูง และผลประกอบการที่สูงตามฤดูกาลใน 2Q63 จากยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สูงเป็นพิเศษ (โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศ) บวกกับการตั้งสำรองที่ต่ำเป็นพิเศษ ส่วนกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก YoY สะท้อนถึงรายได้จากการขายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นถึง 60% YoY, รายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจากสินเชื่อ และ ค่าใช้จ่ายกันสำรองลดลง

 

Valuation and action

การที่ ธปท. เข้ามาแทรกแซงโดยการลดเพดานดอกเบี้ยเงินกู้สินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อจำนำทะเบียนลง 2-4%, การกำหนดระดับค่าธรรมเนียมในการติดตามหนี้ และเบี้ยปรับ รวมถึงการที่ธนาคารออมสิน GSB เข้ามาในตลาดและกำหนดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนต่ำลง ทำให้เราคิดว่าธุรกิจ ไม่ดีเหมือนในอดีต โดยการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น และกฎเกณฑ์ควบคุมที่เข้มงวดขึ้นส่งผลให้สภาวะการแข่งขันเข้มข้นมากขึ้น และจะเป็นปัจจัยที่กดดัน yield สินเชื่อในระยะต่อไป Non-banks จึงจำเป็นต้องพยายามบีบค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลง ซึ่งปัจจัยนี้จะกดดันให้มีการ de-rate มูลคค่าหุ้นในกลุ่มลงอีก ถึงแม้เราจะแนะนำให้ซื้อ MTC และ SINGER แต่เราก็แนะนำให้รอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว

 

ด้านความเสี่ยง คือ NPL เพิ่มขึ้น ค่าธรรมเนียมในการติดตามหนี้ลดลง และมีการปรับลดเพดานเงินกู้สินเชื่อผู้บริโภค

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง