MTC ตั้งเป้าปี 67 พอร์ตสินเชื่อโต 20% เตรียมจ่ายปันผล 0.21 บาท 16 พ.ค.นี้
#MTC #ทันหุ้น-MTC ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อปี 67 เติบโต 20% มั่นใจคุม NPL ไม่เกิน 3.2% ขณะที่ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายเงินปันผลงวดปี 2566 เป็นเงินสดในอัตรา 0.21 บาทต่อหุ้น กำหนดวันขึ้นเครื่องหมาย XD 29 เม.ย. และจ่ายให้กับผู้ถือหุ้น 16 พ.ค.นี้
นายปริทัศน์ เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทฯตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อในทุกๆผลิตภัณฑ์ เพิ่มขึ้น 20% พอร์ตสินเชื่อคงค้างเพิ่มจาก 143,318 ล้านบาท เป็น 170,000 ล้านบาท เพื่อกระจายการเข้าถึงแหล่งเงินทุนผ่านสาขาที่มีอยู่กว่า 7,500 แห่ง โดยมุ่งสร้างความเท่าเทียมทางการเงินให้ครอบคลุมทั่วประเทศ พัฒนาการบริการลูกค้าให้เกิดความประทับใจในทุกมิติและเป็นมาตรฐานระดับสากล และวางเป้าหมายคุมสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้ไม่เกิน 3.2% โดยมีแผนการจัดหาเงินทุนผ่านการกู้ยืมจากสถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศ และการออกหุ้นกู้
ทั้งนี้ MTC มุ่งมั่นยกระดับการบริการสินเชื่อให้เป็นแหล่งเงินทุนที่มีคุณภาพในมาตรฐานระดับโลก (World-class Thai Microfinance) สอดรับความร่วมมือองค์การระหว่างประเทศหลายสถาบัน เช่น ความร่วมมือรัฐบาลญี่ปุ่น (JICA) และรัฐบาลเยอรมนี (KFW DEG) เพื่อระดมทรัพยากรทางการเงินเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง ภายใต้หลักธรรมาภิบาล เคารพในสิทธิ รักษาผลประโยชน์ และตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าให้เกิดความประทับใจสูงสุด
รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล กล่าวอีกว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ในวันที่ 23 เมษายน 2567 มีมติอนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสดจากงวดผลการดำเนินงานในปี 2566 (มกราคม-ธันวาคม 2566) ในอัตรา 0.21 บาท/หุ้น กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 29 เมษายน 2567 และจ่ายปันผลวันที่ 16 พฤษภาคม 2567
“ในปีที่ผ่านมาผลการดำเนินงานของ MTC ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ แม้ในภาพรวมตลาดจะมีการแข่งขันสูง รวมถึงผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และปัญหาความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี ถือเป็นปัจจัยกดดันกำลังซื้อและความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า” นายปริทัศน์
ที่ผ่านมา MTC ได้มีการปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ ด้วยการปล่อยสินเชื่อมีความรัดกุมมากขึ้น ควบคู่ไปกับการดูแลลูกค้าที่มีปัญหาชำระหนี้ ตามนโยบายแก้หนี้อย่างยั่งยืนของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2566 บริษัทฯ มีรายได้รวม 6,555 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.8% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนมีรายได้รวม 5,611 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,351 ล้านบาท โดย ณ สิ้นปี 2566 พอร์ตสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 143,318 ล้านบาท เติบโต 18.8% เทียบกับปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 120,613 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมทั้งปี 2566 อยู่ที่ 24,526 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.2% เทียบกับปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 20,068 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิทั้งปี 4,906 ล้านบาท