รีเซต

EASTสินเชื่อใหม่โต30% เน้นขยายฐานเมืองกทม.

EASTสินเชื่อใหม่โต30% เน้นขยายฐานเมืองกทม.
ทันหุ้น
19 พฤศจิกายน 2568 ( 15:34 )
10

#EAST #ทันหุ้น – EAST แนวโน้มผลงานไตรมาส 4/2568 คาดเติบโตต่อเนื่อง QoQ ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการเข้ามาถือหุ้นของกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น ทำให้มีต้นทุนเงินที่ต่ำและมีฐานเงินที่ใหญ่ขึ้น โดยคาดหวังว่าสินเชื่อใหม่ปีนี้ เพิ่มขึ้น 30% ปัจจุบันมีพอร์ตสินเชื่อรวมทั้งหมดประมาณ 7,000 ล้านบาท และคุม NPL ไว้ที่ระดับ 5% พร้อมวางกลยุทธ์การเติบโตผ่านช่องทางออนไลน์ ย้ำเน้นขยายตลาดตัวเมืองกรุงเทพฯ

นายดนุชา วีระพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ตะวันออกพาณิชย์ลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ EAST ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสอง และสินเชื่อให้เงินกู้แก่ผู้ประกอบการซื้อรถยนต์ เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า แนวโน้มไตรมาส 4/2568 คาดจะสามารถเติบโตได้ต่อเนื่องจากไตรมาส 3/2568 ที่บริษัทมีกำไรสุทธิ 24.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 233.98% YoY มีรายได้รวม 202.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.42% YoY โดยมีสาเหตุการเติบโตมาจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างฐานของทุนที่ดีขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นปี 2568 และมีภาพลักษณ์องค์กรที่ดีขึ้นจากการมีผู้ถือหุ้นใหญ่เข้ามาถือหุ้น อย่าง Itochu Corporation กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น

ทั้งนี้การเติบโตของกำไรส่วนหนึ่งมาจากการเพิ่มทุนของผู้ถือหุ้นใหม่ ส่งผลให้บริษัทมีต้นทุนการเงินที่ต่ำและมีฐานเงินที่ใหญ่ขึ้น ทำให้สามารถปล่อยสินเชื่อได้โดยไม่มีปัญหาเรื่องการเงิน ซึ่งการขยายสินเชื่อในไตรมาส 4/2568 และปีหน้าขึ้นอยู่กับภาวะการปล่อยสินเชื่อและยอดขายรถยนต์

@หวังสินเชื่อใหม่โต 30%

โดยบริษัทมองว่าโอกาสที่จะกระทบจากปัจจัยภายนอกจะน้อยกว่ารายอื่น เพราะจะปล่อยสินเชื่อเฉพาะลูกค้ารถญี่ปุ่นที่อยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นคนที่มีเงินเดือนประจำเป็นส่วนใหญ่ โดยสินเชื่อของบริษัทประกอบด้วยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสอง 50% ตัวอย่างเช่น Toyota, Honda, Nissan  

นอกจากนี้บริษัทไม่โฟกัสปล่อยรถจีนหรือรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เนื่องจากรถยนต์มือสองยังตีมูลค่าไม่ได้ในตลาด ส่วนที่เหลืออีก 50% จะเป็นสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ (Big Bike) ซึ่งบริษัทตั้งเป้าหมายว่า สินเชื่อใหม่ (New Loan) ในปี 2568 จะเติบโตขึ้น 30% จากปัจจุบันบริษัทมีพอร์ตสินเชื่อรวมทั้งหมดประมาณ 7,000 ล้านบาท

@คุม NPL ที่ 5%

อีกทั้งบริษัทมีความระมัดระวังเรื่องหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ซึ่งปัจจุบันมี NPL อยู่ที่ระดับ 5% อยู่ในจุดที่ควบคุมได้ ไม่ได้มากหรือน้อยจนเกินไป เพราะถ้าน้อยเกินไปจะถือว่า conservative เกินไป เนื่องจากสถานการณ์ตลาดรถยนต์ปัจจุบันทำให้การเปิดสินเชื่อไม่ใช่เรื่องง่าย โดยภาพรวมของตลาดรถมือสองเริ่มฟื้นตัว ตลาดได้ผ่านปัจจัยเรื่องราคาที่ปรับตัวลงมาแล้ว ส่วนยอดขายรถใหม่ราคาค่อนข้างนิ่ง  

อย่างไรก็ดีกลยุทธ์การเติบโตของบริษัทในอนาคตคือการโฟกัสลูกค้ากลุ่มกลางถึงระดับบน โดยเน้นปล่อยสินเชื่อผ่านทางออนไลน์ ซึ่งบริษัทเริ่มขยายช่องทางออนไลน์มากขึ้นกว่าหน้าร้าน ปัจจุบันสัดส่วนออนไลน์อยู่ที่ประมาณ 20% และกำลังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เพราะว่าทุกวันนี้มีการซื้อขายรถยนต์ออนไลน์ค่อนข้างเยอะ ขณะที่คนไปเดินดูรถในหน้าร้านน้อยลง แต่ทั้งนี้บริษัทยังคงยืนยันที่จะทำสินเชื่อในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นหลัก โดยจะควบคุมสินเชื่อได้ง่ายกว่าการทำสินเชื่อต่างจังหวัดที่มีปัจจัยเสี่ยงรวมถึงเรื่องภัยพิบัติ โดยเฉพาะอุทกภัย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง