รีเซต

หลอดเลือดหัวใจตีบ อาการเริ่มต้นโรคหัวใจ

หลอดเลือดหัวใจตีบ อาการเริ่มต้นโรคหัวใจ
TNN ช่อง16
29 ตุลาคม 2567 ( 14:52 )
10
หลอดเลือดหัวใจตีบ อาการเริ่มต้นโรคหัวใจ

หลอดเลือดหัวใจตีบ เป็นอีกหนึ่งโรคที่มีความรุนแรงและสามารถทำให้เสียชีวิตได้ โดยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบเป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ที่ทำให้ผู้ป่วยทั่วโลกรวมถึงผู้ป่วยในไทยต้องเสียชีวิตรองลงมาจากโรคมะเร็ง 


โดยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ คือ ภาวะที่เยื่อบุผนังหลอดเลือดหัวใจหนาตัวขึ้นเนื่องจากเกิดการสะสมของสารต่าง ๆ และคราบไขมัน (Plaque) ส่งผลให้หลอดเลือดหัวใจตีบแคบลง การไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจลดน้อยลงและอาจทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดที่สร้างผลกระทบรุนแรงต่อสุขภาพ



สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ แบ่งปัจจัยเสี่ยงออกเป็น 2 กลุ่ม คือ ปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ และปัจจัยที่ควบคุมได้


โดยปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ ได้แก่

->อายุที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้หลอดเลือดหัวใจเกิดการเสื่อมสภาพและแคบเล็กลง ซึ่งผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบมักพบได้มากในกลุ่มวัยกลางคนไปจนถึงผู้สูงอายุ

->เพศ จากข้อมูลพบว่าเพศชายมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบได้มากกว่าเพศหญิงที่อยู่ในช่วงวัยก่อนหมดประจำเดือน

->พันธุกรรม หากมีประวัติบุคคลในครอบครัวเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบก็อาจเพิ่มความเสี่ยงทำให้เกิดโรคได้  



ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่ควบคุมได้ เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตไม่เหมาะสม ดังนี้

->การสูบบุหรี่ โดยสารพิษจำนวนมากกว่า 4,000 ชนิด ที่พบในบุหรี่มีส่วนทำให้เซลล์เยื่อบุผนังหลอดเลือดเสื่อมตัวก่อนวัยอันควรและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบได้มากถึง 2-4 เท่า

->มีไขมันในเลือดสูง ระดับคอเลสเตอรอลสูง ที่เกิดจากการรับประทานอาหารประเภทแป้ง น้ำตาล และไขมันมากเกินจำเป็น ทำให้มีปริมาณไขมันสะสมเพิ่มขึ้น

->ภาวะความดันเลือดสูงเป็นระยะเวลานานจะส่งผลให้หัวใจทำงานหนัก และกล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างซ้ายหนาตัวผิดปกติ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ

->โรคอ้วนหรือน้ำหนักตัวเกิน มีอาการอ้วนลงพุง

->โรคเบาหวาน ที่เกิดจากมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงชนิดเรื้อรังส่งผลให้เซลล์เยื่อบุหลอดเลือดหัวใจเสื่อมสภาพลงอย่างรวดเร็ว

->ความเครียดสะสม การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ



ทั้งนี้ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบมักไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า โดยจะมีอาการของโรคเมื่อเข้าสู่ระยะรุนแรงแล้ว ดังนี้

->ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บแน่นหน้าอก คล้ายมีของหนักทับที่หน้าอก อาจปวดร้าวจากหน้าอกขึ้นคางหรือปวดร้าวไปบริเวณแขนซ้าย

->รู้สึกเหนื่อยง่ายโดยเฉพาะตอนที่ต้องออกแรง เช่น ยกของ ถือของหนัก ๆ หรือออกกำลังกายเบา ๆ

->ระดับความดันเลือดต่ำลงเฉียบพลัน

->ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน มีเหงื่อออกมาก

->ในระยะรุนแรงที่สุดอาจทำให้มีภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ส่งผลให้ผู้ป่วยหมดสติหรือหัวใจหยุดเต้น



การรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะใช้วิธีรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตามระดับความรุนแรงของโรค แบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่

1.หลอดเลือดตีบตันเพียงบางส่วน แพทย์จะพิจารณาให้การรักษาด้วยการใช้ยาควบคู่ไปกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้เหมาะสมมากขึ้น

2.หลอดเลือดตันมาก หากตรวจพบการตีบแคบของหลอดเลือดในระดับมากขึ้นจะใช้วิธีการรักษาด้วยการทำบอลลูนและใส่ขดลวดหัวใจเพื่อช่วยขยายหลอดเลือดและทำให้มีเลือดไหลไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้อย่างเหมาะสม  

3.ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อการทำบอลลูนและใส่ขดลวดหัวใจ มีความจำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัดทำบายพาสหัวใจเพื่อต่อเส้นเลือดที่เป็นทางเบี่ยงขึ้นมาใหม่ทำให้มีเลือดไหลเวียนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้มากขึ้น


 

ทั้งนี้แม้ว่าโรคหลอดเลือดหัวใจตีบจะเป็นโรครุนแรงและอาจทำให้เสียชีวิตได้ แต่สามารถดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดจะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุขไปได้อีกยืนยาว


 


ข้อมูลจาก : คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

ภาพ : ทีมกราฟิก TNN



ข่าวที่เกี่ยวข้อง