โรคหัวใจแฝง ภัยเงียบที่อาจคร่าชีวิตในไม่กี่วินาที

เหตุการณ์สะเทือนใจที่ถูกเผยแพร่โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Max Wowwow” ได้กลายเป็นอุทาหรณ์สำคัญให้กับสังคม หลังหญิงสาววัยทำงานซึ่งกำลังเต้นและสนุกสนานกับกลุ่มเพื่อน ค่อย ๆ ทรุดลงกับพื้นและเสียชีวิตกะทันหัน แม้จะได้รับการปั๊มหัวใจและนำส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้
ต่อมาจากรายงานทางการแพทย์ระบุว่า สาเหตุการเสียชีวิตคือ “ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ” ซึ่งเป็นสภาวะที่หัวใจเต้นผิดปกติจนไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงสมองและอวัยวะต่าง ๆ ได้เพียงพอ และเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตเฉียบพลันในผู้ที่ดูเหมือนแข็งแรงปกติ
หัวใจเต้นผิดจังหวะคืออะไร และทำไมถึงอันตราย?
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (Arrhythmia) คือภาวะที่หัวใจเต้นเร็วเกินไป ช้าเกินไป หรือเต้นไม่สม่ำเสมอ ส่งผลให้เลือดสูบฉีดไม่เพียงพอ หากชนิดของความผิดปกติรุนแรง เช่น ภาวะหัวใจเต้นสั่นพลิ้ว (Ventricular Fibrillation) อาจทำให้หมดสติและเสียชีวิตได้ภายในไม่กี่วินาทีแม้จะมีสุขภาพโดยรวมปกติก็ตาม
โรคนี้มักถูกเรียกว่า “โรคหัวใจแฝง” เพราะผู้ที่เป็นจำนวนมาก ไม่มีอาการเตือนมาก่อน หรือมีอาการเล็กน้อยจนมองข้าม เช่น
- ใจสั่น
- แน่นหน้าอก
- เวียนศีรษะ
- เหนื่อยง่ายผิดปกติ
- เป็นลมโดยไม่ทราบสาเหตุ
หลายกรณีเกิดขึ้นขณะออกแรง สนุกสนาน หรือทำกิจกรรมตามปกติ เช่น เต้น ออกกำลังกาย หรือดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งอาจไปกระตุ้นให้หัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรงขึ้น
ทำไมบางคนถึงเสียชีวิตระหว่างวิ่งหรือออกกำลังกาย ทั้งที่ดูแข็งแรงดี?
กรณีผู้ที่เสียชีวิตกะทันหันระหว่างวิ่ง ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่ใช้แรงสูง มักเกี่ยวข้องกับ โรคหัวใจและหลอดเลือดที่แฝงอยู่โดยไม่รู้ตัว ซึ่งเป็น “โรคเงียบ” ที่ไม่แสดงอาการชัดเจน แต่เมื่อหัวใจทำงานหนักขึ้น ก็อาจกระตุ้นให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันได้
1. โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน (Coronary Artery Disease – CAD)
เป็นสาเหตุอันดับหนึ่งที่พบในกลุ่มนักวิ่งหรือผู้ที่ออกกำลังกายหนัก
- เมื่อหลอดเลือดตีบ เลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่พอ แต่เจ้าตัวอาจไม่รู้ตัวเพราะอาการเตือนมักไม่เด่น
- เมื่อออกแรงหนัก หัวใจต้องการเลือดมากขึ้น แต่ได้รับไม่พอ จึงเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันหรือหัวใจหยุดเต้นได้ทันที
2. กล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ (Cardiomyopathy)
เช่น
- กล้ามเนื้อหัวใจหนา
- กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง
ความผิดปกติแบบนี้อาจไม่มีอาการมาก่อน แต่เมื่อหัวใจถูกเร่งด้วยการออกกำลังกายหนัก หัวใจจะบีบตัวไม่พอจนเกิดภาวะเฉียบพลันได้
3. ภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน (Heart Attack)
เกิดจากหลอดเลือดหัวใจอุดตันฉับพลัน บางรายเกิดแม้ไม่มีประวัติโรคหัวใจมาก่อน และสามารถเกิดขึ้นระหว่างวิ่งหรือหลังออกกำลังกายทันที
4. ความผิดปกติของหัวใจโดยกำเนิดที่ไม่เคยตรวจพบ
บางคนมีความผิดปกติเล็กๆ อยู่แล้ว เช่น
- ลิ้นหัวใจรั่ว
- ผนังหัวใจโต
- แต่ไม่แสดงอาการจนกระทั่งหัวใจถูกใช้งานหนัก
5. ปัจจัยเสี่ยงที่ไปซ้ำเติม
- พักผ่อนไม่พอ
- ดื่มแอลกอฮอล์ก่อนออกกำลังกาย
- ภาวะขาดน้ำหรือเกลือแร่
- ความเครียดสะสม
- อายุ 35 ปีขึ้นไป (เริ่มมีความเสี่ยงหลอดเลือดตีบโดยไม่รู้ตัว)
ปัจจัยเหล่านี้ทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น และอาจดึงให้ “โรคหัวใจแฝง” แสดงอาการรุนแรงจนเกิดภาวะเฉียบพลันได้
บทเรียนสำคัญที่สังคมควรตระหนัก
เหตุการณ์นี้สะท้อนว่า ความตายสามารถเกิดขึ้นได้ในเสี้ยววินาที และภาวะหัวใจผิดจังหวะไม่ใช่เรื่องไกลตัว ดังนั้นการดูแลสุขภาพหัวใจก่อนเกิดเหตุสำคัญกว่าทุกอย่าง โดยเฉพาะในผู้ที่มีอาการบ่งชี้แม้เพียงเล็กน้อย
สิ่งที่ควรทำเพื่อลดความเสี่ยง
- ตรวจสุขภาพหัวใจเป็นประจำ โดยเฉพาะ EKG หรือ Echocardiogram
- หลีกเลี่ยงการดื่มหนักหรืออดนอน
- ฟังสัญญาณร่างกาย เช่น ใจสั่น หน้ามืด เป็นลม
- หากมีประวัติคนในครอบครัวเสียชีวิตเฉียบพลัน ควรตรวจคัดกรองโรคหัวใจทางพันธุกรรม
- เรียนรู้การทำ CPR เพราะสามารถเพิ่มโอกาสรอดได้หลายเท่า
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
