จรวด Atlas V พาดาวเทียม Amazon Leo ขึ้นสู่วงโคจรโลก ยกระดับอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมทั่วโลก

การส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตไปยังพื้นที่ห่างไกลกำลังจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เมื่ออะแมซอน (Amazon) บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ เดินหน้าเปลี่ยนเกมอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมอย่างจริงจัง โดยจับมือร่วมกับ United Launch Alliance (ULA) ผู้ให้บริการปล่อยจรวดรายใหญ่ของสหรัฐฯ ส่งจรวด Atlas V พาดาวเทียมอินเทอร์เน็ต Amazon Leo จำนวน 27 ดวง ขึ้นสู่วงโคจรโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

การปล่อยจรวดครั้งนี้ เกิดขึ้นที่สถานีอวกาศเคปคานาเวอรัล (Cape Canaveral Space Force Station - CCSFS) ในรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2568 เวลา 03:28 น. ตามเวลาของสหรัฐฯ หรือตรงกับ 15:28 น. ตามเวลาประเทศไทย

ภารกิจสร้างเครือข่ายอินเทอร์เน็ตดาวเทียมเพื่อพื้นที่ห่างไกล

ภารกิจนี้นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของโครงการดาวเทียม Amazon Leo ซึ่งบริษัทได้วางแผนสร้างเครือข่ายดาวเทียมอินเทอร์เน็ตวงโคจรต่ำ (Low Earth Orbit – LEO) มากกว่า 3,000 ดวง เพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่มีความหน่วงต่ำ (Low Latency) ทั่วโลก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่โครงสร้างพื้นฐานยังเข้าไม่ถึง เช่น พื้นที่ชนบท เกาะห่างไกล และพื้นที่ประสบภัย 

ดาวเทียมชุดล่าสุดนี้ถือเป็นหนึ่งในหลายภารกิจที่ Amazon ต้องเร่งดำเนินการ หลังได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลให้ต้องปล่อยดาวเทียมจำนวนมากภายในกรอบเวลาที่กำหนด เพื่อให้เครือข่ายพร้อมใช้งานเชิงพาณิชย์ในอนาคตอันใกล้

โครงการใหญ่คู่แข่ง “Starlink”

ในภาพรวม Amazon Leo ถูกจับตามองว่าเป็นคู่แข่งโดยตรงของ Starlink จาก SpaceX ซึ่งมีดาวเทียมในวงโคจรมากกว่า 8,800 ดวง (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2568) ตามการติดตามของ โจนาธาน แมคโดเวลล์ (Jonathan McDowell) นักดาราศาสตร์ผู้รวบรวมข้อมูลเครือข่ายดาวเทียม 

ขณะที่ Amazon Leo ซึ่งพัฒนาโดย Amazon วางแผนสร้างเครือข่ายดาวเทียมอินเทอร์เน็ตวงโคจรต่ำมากกว่า 3,000 ดวง ตามแผนที่บริษัทได้ยื่นต่อ คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการสื่อสารของสหรัฐฯ (FCC) และประกาศอย่างเป็นทางการ

การปล่อยจรวดครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่ความสำเร็จด้านวิศวกรรมอวกาศ แต่เป็นสัญญาณชัดว่า Amazon กำลังเดินเกมเต็มรูปแบบในตลาดอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมระดับโลก