รีเซต

นับหนึ่งไฟลิ่ง‘GFC’ ขายหุ้น 60 ล.เข้า mai

นับหนึ่งไฟลิ่ง‘GFC’  ขายหุ้น 60 ล.เข้า mai
ทันหุ้น
8 พฤษภาคม 2566 ( 22:36 )
27
นับหนึ่งไฟลิ่ง‘GFC’  ขายหุ้น 60 ล.เข้า mai

ก.ล.ต.ไฟเขียว นับหนึ่งไฟลิ่ง GFC ผู้นำให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีบุตรยาก เตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 60 ล้านหุ้น พร้อมเทรดตลาดเอ็มเอไอ ภายในปีนี้ เล็งนำเงินระดมทุนขยายสาขาใหม่ที่สุวรรณภูมิ พระราม 9 และสาขาย่อยในต่างจังหวัด

 

นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด เปิดเผย ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GFC ว่า ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้นับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนของ GFC ที่ได้ยื่นขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 60 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 27.27% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ คาดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในปี 2566 ในหมวดธุรกิจบริการ GFC

 

** ผู้นำการแพทย์

ทั้งนี้บริษัทถือเป็นหนึ่งในผู้นำให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีบุตรยากรายแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปัจจุบัน GFC มีทุนจดทะเบียนที่ออกและเรียกชำระแล้ว 80 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 160 ล้านหุ้น และภายหลังการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จะมีหุ้นสามัญเพิ่มเป็น 220 ล้านหุ้น และมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิ

 

บมจ.เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ (GFC) เป็นหนึ่งในผู้นำด้านการให้บริการทางการแพทย์ สำหรับผู้มีปัญหามีบุตรยากด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ของประเทศไทย ตั้งแต่ให้คำแนะนำและคำปรึกษา ตลอดจนการเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม โดยทีมแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ผู้ชำนาญการที่มีประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ ปัจจุบันบริษัทมีบริษัทย่อย จำนวน 2 บริษัท (กลุ่มบริษัท) 1. บริษัท จีโนโซมิกส์ จำกัด (GSM) ดำเนินธุรกิจการให้บริการตรวจพันธุกรรมของตัวอ่อน และ 2. บริษัท จีเอฟซี เฟอร์ทิลีตี กรุ๊ป จำกัด (GFCFG) เป็นบริษัทโฮลดิ้ง (Holding Company)

 

** โอกาสโตเพียบ

นายกรพัส อัจฉริยมานีกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ หรือ GFC เปิดเผยว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัท เพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถโอกาสการเติบโตในอนาคต สู่เป้าหมายการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ที่ดีที่สุด ภายใต้นวัตกรรมและเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ ที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย โดยจะเห็นได้จากการนำเทคโนโลยี Early Embryo Viability Assessment (EEVA) ซึ่งเป็นการนำระบบ AI จากประเทศสหรัฐอเมริกามาช่วยประเมินตัวอ่อน ซึ่งเป็นที่แรกในประเทศไทยในปี 2563 โดยได้พัฒนาให้สามารถแสดงผลข้อมูลเกี่ยวกับตัวอ่อน และวิเคราะห์คุณภาพของตัวอ่อนอย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำ ซึ่งสอดรับกับวิสัยทัศน์การเป็นหนึ่งในผู้นำ ด้านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ ในภูมิภาคอาเซียน ที่มีความมั่นคง ยั่งยืน และยึดมั่นในหลักจริยธรรม

 

สำหรับเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ เพื่อนำไปใช้ในการชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน  ที่ใช้ลงทุนขยายคลินิก GFC สาขาสุวรรณภูมิ พระราม 9 ตลอดจนการลงทุนในสาขาย่อยอื่นๆ ตามพื้นที่ต่างจังหวัดที่มีศักยภาพและมีฐานลูกค้าผู้มีบุตรยาก เพื่อขยายพื้นที่การให้บริการเพิ่มมากขึ้น ควบคู่กับการเพิ่มศูนย์ฝึกอบรม นักเทคนิคการแพทย์ ให้สอดคล้องกับการขยายตัวของกลุ่มบริษัท ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายตัวสำหรับรองรับการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้เข้ารับบริการรักษาภาวะมีบุตรยากทั้งชาวไทยและที่เป็นชาวต่างชาติในอนาคต

 

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนนำเงินที่ได้ไปใช้เป็นเงินลงทุนในธุรกิจ ที่เกี่ยวเนื่องเพื่อหาโอกาสธุรกิจใหม่ๆในอนาคต และนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน สำหรับการเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการของกลุ่มบริษัท

 

จากความทุ่มเทในการให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีบุตรยาก สะท้อนให้เห็นถึงผลการดำเนินงานของธุรกิจใน 3 ปีที่ผ่านมา ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2563 ถึงปี 2565 กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการให้บริการ 214.42 ล้านบาท 242.12 ล้านบาท และ 275.91 ล้านบาท ตามลำดับ

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง