#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
วันนี้ (4 พฤษภาคม 2567) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เปิดเผยความคืบหน้า ตามที่รัฐบาลได้เดินหน้านโยบาย “30 บาท รักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เริ่มในระยะที่ 3 จำนวน 33 จังหวัดนั้น สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ดำเนินการจัดเตรียมความพร้อมในส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นระบบการเชื่อมต่อข้อมูลการบริการและการเบิกจ่ายในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง 30 บาท โดยเฉพาะ “หน่วยบริการนวัตกรรมบริการสาธารณสุขวิถีใหม่” ที่ สปสช. ได้ร่วมกับสภาวิชาชีพด้านการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อเพิ่มเติมความสะดวกในการรับบริการ ประกอบด้วย ร้านยา คลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่น คลินิกเทคนิคการแพทย์ชุมชนอบอุ่น คลินิกเวชกรรมชุมชนอบอุ่น คลินิกทันตกรรมชุมชนอบอุ่น คลินิกกายภาพบำบัดชุมชนอบอุ่น และคลินิกแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่นข้อมูลล่าสุดมีหน่วยบริการนวัตกรรมบริการสาธารณสุขวิถีใหม่ ใน 33 จังหวัดที่ได้สมัครขึ้นทะเบียนร่วมเป็นหน่วยบริการกับ สปสช. แล้วจำนวน 2,325 แห่ง ดังนี้ 1. คลินิกเวชกรรมชุมชนอบอุ่น จำนวน 81 แห่ง 2. คลินิกทันตกรรมชุมชนอบอุ่น จำนวน 84 แห่ง 3. ร้านยา จำนวน 1,452 แห่ง 4. คลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่น จำนวน 562 แห่ง 5. คลินิกเทคนิคการแพทย์ชุมชนอบอุ่น จำนวน 44 แห่ง 6. คลินิกกายภาพบำบัดชุมชนอบอุ่น จำนวน 74 แห่ง และคลินิกแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่น จำนวน 28 แห่ง โดยประชาชนที่อยู่ใน 33 จังหวัดที่เริ่มดำเนินการในระยะที่ 3 สามารถเข้ารับบริการโดยใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาทได้ ไม่เสียค่าใช้จ่าย สำหรับภาพรวมการดำเนินการเปิดรับหน่วยบริการนวัตกรรมสาธารณสุขวิถีใหม่ ตั้งแต่ระยะที่ 1 -3 รวมทั้งสิ้น 45 จังหวัดนั้น มีหน่วยบริการที่ร่วมเป็นหน่วยนวัตกรรมบริการสาธารณสุขวิถีใหม่กับ สปสช. ใน 45 จังหวัดนำร่อง 3,633 แห่งแล้ว สำหรับจำนวนการรับบริการใช้สิทธิบัตรทองที่หน่วยบริการนวัตกรรมบริการสาธารณสุขวิถีใหม่นั้น จากผลการดำเนินงานในช่วง 2 ระยะที่ผ่านมา พบว่า สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งเพื่อช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ฯ ได้ โดยจากข้อมูลในระบบเบิกจ่ายของ สปสช. ในระยะที่ 1 มีประชาชนเข้ารับบริการที่หน่วยบริการนวัตกรรมบริการสาธารณสุขวิถีใหม่จำนวน 257,984 คน เป็นจำนวน 387,932 ครั้ง ส่วนในระยะที่ 2 มีประชาชนเข้ารับบริ
อ่านต่อ >90
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
วันนี้ (7 พ.ค. 67) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้ขยายระยะเวลายกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยวให้แก่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางสัญชาติอินเดียและไต้หวันเป็นกรณีพิเศษและเป็นการชั่วคราวอีก 6 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.-11 พ.ย.67 จากเดิมที่สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 10 พ.ค.67 โดยสามารถอยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกิน 30 วันน.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า การดำเนินการดังกล่าวจะทำให้รัฐสูญเสียรายได้รวมประมาณ 2,158 ล้านบาท แต่การอำนวยความสะดวกในการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย และไต้หวันที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยในช่วงระยะเวลาดังกล่าว จะช่วยเพิ่มรายได้ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยในภาพรวม โดยเฉพาะด้านความเชื่อมโยงระหว่างประชาชนที่เป็นรากฐานความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายภาพจาก: AFP
อ่านต่อ >#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
วันนี้ ( 6 พ.ค. 67 )ผู้สื่อข่าวรายงานว่าปริมาณน้ำในคลองกระบี่ใหญ่ แหล่งน้ำสำหรับผลิตน้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาคสาขากระบี่ ลดลงต่อเนื่อง จากสถานการณ์ภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วงนานกว่า 2 เดือน ทำให้ปริมาณน้ำไม่เพียงพอ สูบไปผลิตน้ำประปา จึงต้องยังคง ใช้มาตรการประหยัดน้ำดิบโดยแบ่งโซนสลับการจ่ายน้ำวันเว้นวันอย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่จะต้องสิ้นสุดในวันที่ 6 พฤษภาคมนี้ขณะที่ปริมาณน้ำในสระเก็บน้ำ พื้นที่ 80 ไร่ ขณะนี้ปริมาณน้ำเหลือเพียง ประมาณ 1.6 แสนลูกบาตรเมตรเท่านั้น จาก จำนวนความจุ 6 แสนลูกบาตรเมตร โดยโรงผลิตน้ำประปา ของการประปาส่วนภูมิภาค สาขากระบี่ มีกำลังผลิต 1650 ลบม./ชั่วโมง ผู้ใช้น้ำ 34,505 ราย มีความยาวแนวท่อรวม 950 กิโลเมตร ทำให้เกิดผลกระทบระหว่างหยุดและจ่ายน้ำ ใช้เวลานานกว่าน้ำจะถึงปลายท่อหรือโซนสูง ส่งผลกระทบต่อการไหลของน้ำประปา โดยเปิดให้รถบรรทุกน้ำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มาเติมน้ำ ที่โรงผลิตน้ำประปา ตำบลกระบี่ใหญ่ อำเภอเมืองกระบี่ นำไปแจกจ่ายให้กับประชาชน ที่น้ำประปาไม่ไหล ส่วนพื้นที่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ ซึ่งปัจจุบันผู้ผลิตน้ำประปาของเอกชนบนเกาะต้องยุติการจ่ายน้ำ ตั้งแต่วันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมาเนื่องจากน้ำในอ่างพื้นที่กว่า 5 ไร่ แห้งขอด ทำให้ผู้ประกอบการร้านค้าขนาดกลางถึงเล็ก และโรงแรมที่พักบางส่วนต้องปิดกิจการชั่วคราว เพราะไม่มีน้ำใช้ หากต้องการน้ำต้องซื้อน้ำจากฝั่งซึ่งมีราคาแพง จึงยังเหลือผู้ประกอบการโรงแรมรายใหญ่เพียง 3 - 4 ราย ที่เปิดให้บริการ เพราะมีบ่อบาดาลของตัวเองผู้สื่อข่าวสอบถามผู้ประกอบการในพื้นที่ ให้ข้อมูลว่าแม้แต่บ่อบาดาลของโรงแรมขนาดใหญ่บนเกาะ ปัจจุบันปริมาณน้ำก็เริ่มแห้งขอดใกล้หมดแล้วเช่นกัน โดยคาดการณ์กันว่าภายในเดือนนี้ หากไม่มีฝนตกลงมาเติม สถานประกอบการบนเกาะพีพี ทั้งโรงแรมที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร อาจต้องปิดกิจการกันไปชั่วคราวก่อน โดยปัจจุบันนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักบนเกาะก็เริ่มลดลง เป็นผลกระทบมาจากสถานการณ์ภัยแล้ง ประกอบกับเข้าช่วงโลว์ซีซั่นของแต่ละปีด้วยข้อมูลจาก: ผู้สื่อข่าวภูมิภาตจังหวัดกระบี่ ภาพจาก: ผู้สื่อข่าวภูมิภาตจังหวัดกระบี่
อ่านต่อ >20
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เตือนเฝ้าระวัง น้ำทะเลหนุนสูงและน้ำเค็มรุกล้ำแม่น้ำ ช่วงวันที่ 5 - 15 พฤษภาคม 25671. เสี่ยงน้ำท่วมบริเวณชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว บริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม นนทบุรี กรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ 2. เฝ้าระวังน้ำเค็มรุกล้ำส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค และการเกษตร- แม่น้ำเจ้าพระยา ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และปทุมธานี - แม่น้ำแม่กลอง ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม - แม่น้ำท่าจีน ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร และนครปฐม - แม่น้ำบางปะกง ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา และปราจีนบุรีข้อมูลจาก สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติภาพจาก TNN ONLINE
อ่านต่อ >451
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
วันนี้ (4 พฤษภาคม 2567) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เปิดเผยความคืบหน้า ตามที่รัฐบาลได้เดินหน้านโยบาย “30 บาท รักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เริ่มในระยะที่ 3 จำนวน 33 จังหวัดนั้น สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ดำเนินการจัดเตรียมความพร้อมในส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นระบบการเชื่อมต่อข้อมูลการบริการและการเบิกจ่ายในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง 30 บาท โดยเฉพาะ “หน่วยบริการนวัตกรรมบริการสาธารณสุขวิถีใหม่” ที่ สปสช. ได้ร่วมกับสภาวิชาชีพด้านการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อเพิ่มเติมความสะดวกในการรับบริการ ประกอบด้วย ร้านยา คลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่น คลินิกเทคนิคการแพทย์ชุมชนอบอุ่น คลินิกเวชกรรมชุมชนอบอุ่น คลินิกทันตกรรมชุมชนอบอุ่น คลินิกกายภาพบำบัดชุมชนอบอุ่น และคลินิกแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่นข้อมูลล่าสุดมีหน่วยบริการนวัตกรรมบริการสาธารณสุขวิถีใหม่ ใน 33 จังหวัดที่ได้สมัครขึ้นทะเบียนร่วมเป็นหน่วยบริการกับ สปสช. แล้วจำนวน 2,325 แห่ง ดังนี้ 1. คลินิกเวชกรรมชุมชนอบอุ่น จำนวน 81 แห่ง 2. คลินิกทันตกรรมชุมชนอบอุ่น จำนวน 84 แห่ง 3. ร้านยา จำนวน 1,452 แห่ง 4. คลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่น จำนวน 562 แห่ง 5. คลินิกเทคนิคการแพทย์ชุมชนอบอุ่น จำนวน 44 แห่ง 6. คลินิกกายภาพบำบัดชุมชนอบอุ่น จำนวน 74 แห่ง และคลินิกแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่น จำนวน 28 แห่ง โดยประชาชนที่อยู่ใน 33 จังหวัดที่เริ่มดำเนินการในระยะที่ 3 สามารถเข้ารับบริการโดยใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาทได้ ไม่เสียค่าใช้จ่าย สำหรับภาพรวมการดำเนินการเปิดรับหน่วยบริการนวัตกรรมสาธารณสุขวิถีใหม่ ตั้งแต่ระยะที่ 1 -3 รวมทั้งสิ้น 45 จังหวัดนั้น มีหน่วยบริการที่ร่วมเป็นหน่วยนวัตกรรมบริการสาธารณสุขวิถีใหม่กับ สปสช. ใน 45 จังหวัดนำร่อง 3,633 แห่งแล้ว สำหรับจำนวนการรับบริการใช้สิทธิบัตรทองที่หน่วยบริการนวัตกรรมบริการสาธารณสุขวิถีใหม่นั้น จากผลการดำเนินงานในช่วง 2 ระยะที่ผ่านมา พบว่า สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งเพื่อช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ฯ ได้ โดยจากข้อมูลในระบบเบิกจ่ายของ สปสช. ในระยะที่ 1 มีประชาชนเข้ารับบริการที่หน่วยบริการนวัตกรรมบริการสาธารณสุขวิถีใหม่จำนวน 257,984 คน เป็นจำนวน 387,932 ครั้ง ส่วนในระยะที่ 2 มีประชาชนเข้ารับบริ
อ่านต่อ >90
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
วันนี้ (7 พ.ค. 67) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้ขยายระยะเวลายกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยวให้แก่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางสัญชาติอินเดียและไต้หวันเป็นกรณีพิเศษและเป็นการชั่วคราวอีก 6 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.-11 พ.ย.67 จากเดิมที่สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 10 พ.ค.67 โดยสามารถอยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกิน 30 วันน.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า การดำเนินการดังกล่าวจะทำให้รัฐสูญเสียรายได้รวมประมาณ 2,158 ล้านบาท แต่การอำนวยความสะดวกในการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย และไต้หวันที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยในช่วงระยะเวลาดังกล่าว จะช่วยเพิ่มรายได้ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยในภาพรวม โดยเฉพาะด้านความเชื่อมโยงระหว่างประชาชนที่เป็นรากฐานความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายภาพจาก: AFP
อ่านต่อ >#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
วันนี้ ( 6 พ.ค. 67 )ผู้สื่อข่าวรายงานว่าปริมาณน้ำในคลองกระบี่ใหญ่ แหล่งน้ำสำหรับผลิตน้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาคสาขากระบี่ ลดลงต่อเนื่อง จากสถานการณ์ภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วงนานกว่า 2 เดือน ทำให้ปริมาณน้ำไม่เพียงพอ สูบไปผลิตน้ำประปา จึงต้องยังคง ใช้มาตรการประหยัดน้ำดิบโดยแบ่งโซนสลับการจ่ายน้ำวันเว้นวันอย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่จะต้องสิ้นสุดในวันที่ 6 พฤษภาคมนี้ขณะที่ปริมาณน้ำในสระเก็บน้ำ พื้นที่ 80 ไร่ ขณะนี้ปริมาณน้ำเหลือเพียง ประมาณ 1.6 แสนลูกบาตรเมตรเท่านั้น จาก จำนวนความจุ 6 แสนลูกบาตรเมตร โดยโรงผลิตน้ำประปา ของการประปาส่วนภูมิภาค สาขากระบี่ มีกำลังผลิต 1650 ลบม./ชั่วโมง ผู้ใช้น้ำ 34,505 ราย มีความยาวแนวท่อรวม 950 กิโลเมตร ทำให้เกิดผลกระทบระหว่างหยุดและจ่ายน้ำ ใช้เวลานานกว่าน้ำจะถึงปลายท่อหรือโซนสูง ส่งผลกระทบต่อการไหลของน้ำประปา โดยเปิดให้รถบรรทุกน้ำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มาเติมน้ำ ที่โรงผลิตน้ำประปา ตำบลกระบี่ใหญ่ อำเภอเมืองกระบี่ นำไปแจกจ่ายให้กับประชาชน ที่น้ำประปาไม่ไหล ส่วนพื้นที่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ ซึ่งปัจจุบันผู้ผลิตน้ำประปาของเอกชนบนเกาะต้องยุติการจ่ายน้ำ ตั้งแต่วันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมาเนื่องจากน้ำในอ่างพื้นที่กว่า 5 ไร่ แห้งขอด ทำให้ผู้ประกอบการร้านค้าขนาดกลางถึงเล็ก และโรงแรมที่พักบางส่วนต้องปิดกิจการชั่วคราว เพราะไม่มีน้ำใช้ หากต้องการน้ำต้องซื้อน้ำจากฝั่งซึ่งมีราคาแพง จึงยังเหลือผู้ประกอบการโรงแรมรายใหญ่เพียง 3 - 4 ราย ที่เปิดให้บริการ เพราะมีบ่อบาดาลของตัวเองผู้สื่อข่าวสอบถามผู้ประกอบการในพื้นที่ ให้ข้อมูลว่าแม้แต่บ่อบาดาลของโรงแรมขนาดใหญ่บนเกาะ ปัจจุบันปริมาณน้ำก็เริ่มแห้งขอดใกล้หมดแล้วเช่นกัน โดยคาดการณ์กันว่าภายในเดือนนี้ หากไม่มีฝนตกลงมาเติม สถานประกอบการบนเกาะพีพี ทั้งโรงแรมที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร อาจต้องปิดกิจการกันไปชั่วคราวก่อน โดยปัจจุบันนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักบนเกาะก็เริ่มลดลง เป็นผลกระทบมาจากสถานการณ์ภัยแล้ง ประกอบกับเข้าช่วงโลว์ซีซั่นของแต่ละปีด้วยข้อมูลจาก: ผู้สื่อข่าวภูมิภาตจังหวัดกระบี่ ภาพจาก: ผู้สื่อข่าวภูมิภาตจังหวัดกระบี่
อ่านต่อ >20
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เตือนเฝ้าระวัง น้ำทะเลหนุนสูงและน้ำเค็มรุกล้ำแม่น้ำ ช่วงวันที่ 5 - 15 พฤษภาคม 25671. เสี่ยงน้ำท่วมบริเวณชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว บริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม นนทบุรี กรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ 2. เฝ้าระวังน้ำเค็มรุกล้ำส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค และการเกษตร- แม่น้ำเจ้าพระยา ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และปทุมธานี - แม่น้ำแม่กลอง ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม - แม่น้ำท่าจีน ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร และนครปฐม - แม่น้ำบางปะกง ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา และปราจีนบุรีข้อมูลจาก สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติภาพจาก TNN ONLINE
อ่านต่อ >451
#ข่าวทั่วไทย #TNN ช่อง16
วันนี้ (4 พฤษภาคม 2567) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เปิดเผยความคืบหน้า ตามที่รัฐบาลได้เดินหน้านโยบาย “30 บาท รักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เริ่มในระยะที่ 3 จำนวน 33 จังหวัดนั้น สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ดำเนินการจัดเตรียมความพร้อมในส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นระบบการเชื่อมต่อข้อมูลการบริการและการเบิกจ่ายในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง 30 บาท โดยเฉพาะ “หน่วยบริการนวัตกรรมบริการสาธารณสุขวิถีใหม่” ที่ สปสช. ได้ร่วมกับสภาวิชาชีพด้านการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อเพิ่มเติมความสะดวกในการรับบริการ ประกอบด้วย ร้านยา คลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่น คลินิกเทคนิคการแพทย์ชุมชนอบอุ่น คลินิกเวชกรรมชุมชนอบอุ่น คลินิกทันตกรรมชุมชนอบอุ่น คลินิกกายภาพบำบัดชุมชนอบอุ่น และคลินิกแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่นข้อมูลล่าสุดมีหน่วยบริการนวัตกรรมบริการสาธารณสุขวิถีใหม่ ใน 33 จังหวัดที่ได้สมัครขึ้นทะเบียนร่วมเป็นหน่วยบริการกับ สปสช. แล้วจำนวน 2,325 แห่ง ดังนี้ 1. คลินิกเวชกรรมชุมชนอบอุ่น จำนวน 81 แห่ง 2. คลินิกทันตกรรมชุมชนอบอุ่น จำนวน 84 แห่ง 3. ร้านยา จำนวน 1,452 แห่ง 4. คลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่น จำนวน 562 แห่ง 5. คลินิกเทคนิคการแพทย์ชุมชนอบอุ่น จำนวน 44 แห่ง 6. คลินิกกายภาพบำบัดชุมชนอบอุ่น จำนวน 74 แห่ง และคลินิกแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่น จำนวน 28 แห่ง โดยประชาชนที่อยู่ใน 33 จังหวัดที่เริ่มดำเนินการในระยะที่ 3 สามารถเข้ารับบริการโดยใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาทได้ ไม่เสียค่าใช้จ่าย สำหรับภาพรวมการดำเนินการเปิดรับหน่วยบริการนวัตกรรมสาธารณสุขวิถีใหม่ ตั้งแต่ระยะที่ 1 -3 รวมทั้งสิ้น 45 จังหวัดนั้น มีหน่วยบริการที่ร่วมเป็นหน่วยนวัตกรรมบริการสาธารณสุขวิถีใหม่กับ สปสช. ใน 45 จังหวัดนำร่อง 3,633 แห่งแล้ว สำหรับจำนวนการรับบริการใช้สิทธิบัตรทองที่หน่วยบริการนวัตกรรมบริการสาธารณสุขวิถีใหม่นั้น จากผลการดำเนินงานในช่วง 2 ระยะที่ผ่านมา พบว่า สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งเพื่อช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ฯ ได้ โดยจากข้อมูลในระบบเบิกจ่ายของ สปสช. ในระยะที่ 1 มีประชาชนเข้ารับบริการที่หน่วยบริการนวัตกรรมบริการสาธารณสุขวิถีใหม่จำนวน 257,984 คน เป็นจำนวน 387,932 ครั้ง ส่วนในระยะที่ 2 มีประชาชนเข้ารับบริ
อ่านต่อ >90