IVLสู้ศึกเศรษฐกิจถดถอย ปรับพอร์ตโกยขาขึ้นPET
#IVL #ทันหุ้น – IVL รับปี 2566 ปีแห่งความท้าทาย เดินหน้าปรับพอร์ตเน้นธุรกิจ C-PET ที่ได้รับอานิสงส์จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคเอเชีย วางแผนดึงศักยภาพผู้นำในอุตสาหกรรม และฐานการตลาดครอบคลุมทั่วโลกมาปรับกลยุทธ์รับมือ ด้านนักวิเคราะห์คาดปี 2566 กำไรเติบโตสะท้อนศักยภาพที่แท้จริงของทุกกลุ่มธุรกิจ แนะ “เก็งกำไร” เป้า 47 บาท
แหล่งข่าวในวงการอุตสาหกรรม กล่าวถึง บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL ว่า ยังคงเผชิญความท้าทายในการที่จะรักษาศักยภาพการเติบโตของกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในปี 2566 ให้เติบโตต่อเนื่องจากปี 2565 เนื่องจากยังมีแรงกดดันจากกลุ่มธุรกิจ Integrated Oxides and Derivatives (IOD)ซึ่งความต้องการใช้ยังไม่ฟื้นตัว สวนทางกับกำลังการผลิตที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเช่นเดียวกับ กลุ่มธุรกิจ Fibers กลุ่มผลิตภัณฑ์ Lifestyleซึ่งยังมีแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อและเศรษฐกิจถดถอยในทวีปยุโรป
ขณะที่กลุ่มธุรกิจ Combined PET (C-PET) ยอดขายมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่งวดไตรมาส 1/2566 จากปัจจัยฤดูกาล และจะเร่งตัวเข้าสู่ช่วงไฮซีซันทางธุรกิจฝั่งเอเชียในช่วงไตรมาส 2/2566 และเข้าสู่ช่วง Driving Seasonทางฝั่งยุโรปในช่วงไตรมาส 3/2566 ขณะเดียวกัน IVLจะได้ประโยชน์จากการปรับสัญญาราคาจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตลอดช่วงปี 2565 ที่ผ่านมา หนุนให้สามารถรักษาการเติบโตของอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin : GPM) ให้เติบโตในระดับที่น่าพึงพอใจ
ทั้งนี้บริษัทจะใช้จุดแข็งในฐานะผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินชีวิตประจำวัน, ความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมด้านความยั่งยืน ซึ่งมีฐานการตลาดในหลายภูมิภาคทั่วโลก และการจัดสรรเงินทุนอย่างมีระเบียบวินัยมาบูรณาการเพื่อกำหนดกลยุทธ์ทางธุรกิจแบบยืดหยุ่น สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางรัฐภูมิศาสตร์ที่ผันผวน
@ผลงานโค้งสุดท้ายอ่อนตัว
นายปรินทร์ นิกรกิตติโกศล รองผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวคาดการณ์ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4/2565 ของ IVL มีแนวโน้มอ่อนตัวเมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 3/2565 (QoQ) เนื่องจากเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซันของธุรกิจ อีกทั้งทางฝั่งยุโรปยังเผชิญต้นทุนพลังงานที่ทรงตัวสูง และสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว โดย IVL มี EBITDA จากยุโรปในสัดส่วน 13% ของ EBITDA รวม แต่ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) อย่างไรก็ตามช่วงครึ่งแรกของปี 2565 (1H/65) IVLมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น จึงประมาณการณ์กำไรสุทธิทั้งปี 2565 ที่ราว 4.7 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 79% YoY
สำหรับภาพรวมทางธุรกิจปี 2566 การภาพรวมการดำเนินธุรกิจของ IVL ยังต้องเผชิญความท้าทาย แต่ยังคงรักษาศักยภาพการทำกำไรให้เติบโตได้เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานในอดีตที่ผ่านมา หนุนจากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของธุรกิจในทวีปอเมริกาที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ ประกอบกับ IVLสามารถเจรจาปรับราคาขายต่อสัญญาขึ้นได้ ส่งผลให้สามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้ทรงตัวในระดับที่เหมาะสมได้ต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันการที่จีนมีนโยบายเปิดประเทศอย่างชัดเจน ส่งผลโดยตรงต่อความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์อย่างมีนัยสำคัญ เบื้องต้นคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม ราคาสเปรดปิโตรเคมี PET มีแนวโน้มเคลื่อนไหวสะท้อนปัจจัยพื้นฐาน เทียบกับปี 2565 ที่เร่งตัวสูงผิดปกติโดยบางช่วงเร่งตัวสูงถึง 300 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกาต่อตัน, ราคาเฉลี่ยพลังงานทั้งปี 2566 มีแนวโน้มอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับปี 2565, รวมถึงค่าระวางเรือที่เริ่มเคลื่อนไหวสอดคล้องกับความต้องการขนส่งมากขึ้น เป็นปัจจัยที่ยังคงท้าทายต่อศักยภาพการทำกำไรของ IVLอย่างมีนัยสำคัญ เบื้องต้นจึงประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 2566 ของ IVL ที่ 3.2 หมื่นล้านบาท ลดลง 47% YoY แต่ยังคงสะท้อนศักยภาพการเติบโตจากปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจของIVL เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต จึงคงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเหมาะสมที่ 47 บาท