IVLชูแผนฝ่ามรสุมศก. ลุ้นขายครึ่งปีหลังฟื้น
IVL รับเศรษฐกิจโลกยังท้าทายปรับกลยุทธ์ย้ายฐานผลิตธุรกิจ Fibersเข้าสู่ภูมิภาคเอเชีย เร่งดำเนินงานตามโครงการ OIympus มุ่งลดต้นทุนรวม ควบคู่รักษากระแสเงินสดสร้างความแข็งแกร่งระยะยาว มั่นใจปริมาณขาย – รายได้ช่วงครึ่งปีหลัง เติบโตดีกว่าช่วงครึ่งแรก นักวิเคราะห์ชี้ระยะสั้นเผชิญความท้าทายหลายด้านแนะรอจังหวะเป้า 36 บาท
นายดีลิป กุมาร์ อากาวาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL เปิดเผยว่า บริษัทคาดการณ์สภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกช่วงครึ่งหลังของปี 2566 จะยังมีแนวโน้มชะลอตัว กดดันจากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของอัตราดอกเบี้ย, ค่าแรงที่สูงขึ้น, ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในประเทศสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้ความต้องการซื้อสินค้า (Demand) เกิดการชะลอตัว จนฉุดการฟื้นตัวของเศรษฐกิจระดับมหภาคที่สำคัญให้ช้าลง
ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจและแรงกดดันด้านต้นทุนในทวีปยุโรป บริษัทได้ออกมาตรการเพื่อปรับปรุงความสามารถในการแข่งขันของพอร์ตโฟลิโอของบริษัทในระดับภูมิภาค โดยบริษัทได้เร่งดำเนินการตามแผนเพิ่มประสิทธิภาพของฐานการผลิตในกลุ่มธุรกิจ Fibers ให้มีความเหมาะสม ได้แก่ การลดกำลังคนลง 10%และลดต้นทุนคงที่ลง 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงจะพิจารณาย้ายฐานการผลิตไปยังโรงงานในทวีปเอเชียซึ่งมีต้นทุนที่ต่ำกว่า ควบคู่กับการกระตุ้นปริมาณขายในตลาดท้องถิ่น รวมถึงการขยายฐานการตลาดให้ครอบคลุมทุกตลาดสำคัญที่มีศักยภาพการเติบโตสูง
ขณะเดียวกันบริษัทยังคงเดินหน้า Project OIympus ซึ่งเป็นโครงการเพิ่มประสิทธิภาพในการลดต้นทุนสะสมโดยรวมเพิ่มขึ้น ควบคู่กับการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อประสิทธิภาพในระยะยาว อาทิ สร้างความคล่องตัวให้กับองค์กร เพิ่มประสิทธิภาพของทีมงาน
“บริษัทกำลังรวมศูนย์องค์กรเพื่อลดขั้นตอนในการทำงาน เพื่อความคล่องตัวในการทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพการใช้สินทรัพย์แล้วและลดปริมาณสินค้าคงเหลือ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการตัดสินใจและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันทั่วทั้งองค์กรโดยลดสภาวะการทำงานแบบ Siloรวมถึงมุ่งรักษากระแสเงินสดหมุนเวียนของบริษัทให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม”
@ครึ่งหลังเร่งตัว
นายดีลิป คาดการณ์ผลการดำเนินงานงวดครึ่งหลังของปี 2566 มีแนวโน้มเติบโตได้ดีกว่าช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ที่ผ่านมา หนุนจากปริมาณการขาย (Volume) กลุ่มธุรกิจ Combined PET สอดคล้องกับความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ทั่วโลก ขณะเดียวกันบริษัทสามารถขยายกำลังการผลิตในกลุ่มธุรกิจ Integrated Oxides and Derivatives (IOD)ในสหรัฐอเมริกา อีกทั้งราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่มีแนวโน้มเคลื่อนไหวผันผวนใน “ขาขึ้น” ยังเป็นปัจจัยสนับสนุนรายได้ของบริษัทให้เร่งตัวขึ้นในทิศทางเดียวกัน
พร้อมกันนี้ บริษัทคาคว่าแผนการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรยฐกิจของประเทศจีน และการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ในระดับสากลจะทำให้ห่วงโซ่ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีปรับตัวดีขึ้นในช่วงที่เหลือของปี 2566 และต่อเนื่องถึงปี 2567
“บริษัทคาดว่าปริมาณการขายในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 จะเพิ่มขึ้นได้ราว 7-8%เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ที่ผ่านมา หนุนจากธุรกิจ CPET อีกทั้ง สถานการณ์ Destocking ในกลุ่มธุรกิจ IOD ก็ทยอยลดลง รวมถึงการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมยานยนต์ จะเป็นปัจจัยหนุนยอดขายช่วงครึ่งหลังบริษัท โดยรายได้ของบริษัทก็มีแนวโน้มเร่งขึ้นราว 6-7% ตามความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบ”
@รอจังหวะเป้า 36 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์คาดการณ์กำไรงวดไตรมาส 3/2566 มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น QoQแต่ยังคงปรับลดลง YoY กดดันจากความท้าทายทั้งความอ่อนแอของเศรษฐกิจจีน-ยุโรป, ภาวะดอกเบี้ยสูง, กิจกรรมภาคการผลิตอยู่ระดับต่ำ ส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงานทั้งปี 2566 ยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ จึงประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 2566 ไว้ที่ 7.2 พันล้านบาท และจะเร่งตัวแตะระดับ 1.5 หมื่นล้านบาท ได้ในปี 2567 ระยะสั้นจึงแนะนำเพียง “รอจังหวะเข้าลงทุน” ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ที่ 36 บาท