'สหภาพฯ อสมท' ร้อง 3 หน่วยงาน สอบผู้บริหาร ปมแบ่งเงินค่าคลื่น 2600 ให้เอกชน
‘สหภาพฯ อสมท’ ร้อง 3 หน่วยงาน สอบผู้บริหาร ปมแบ่งเงินค่าคลื่น 2600 ให้เอกชน
สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) นำโดยนายสุวิทย์ มิ่งมล ประธานสหภาพแรงงาน อสมท เข้ายื่นหนังสือถึง 3 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาห (สคร.), สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของนายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และพล.ต.ท.จตุพล ปานรักษา ประธานกรรมการ อสมท ที่ใช้อำนาจโดยไม่ผ่านมติคณะกรรมการ อสมท เสนอให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แบ่งเงินเยียวยาค่าคลื่น 2600 เมกะเฮิรตซ์ ให้บริษัท เพลย์เวิร์ค จำกัด คู่สัญญาในการบริหารเนื้อหาและการตลาดโครงการโทรทัศน์บอกรับสมาชิกครึ่งหนึ่ง
นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า จะเร่งตรวจสอบให้ตามหนังสือที่ร้องขอมา
ขณะที่ นางพิมพา วภักดิ์เพชร ผู้ช่วยผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กล่าวว่า หวังว่าหน่วยงานในการกำกับดูแลจะใช้จ่ายเงินอย่างโปร่งใส ซึ่งกรณีนี้แปลกกว่ากรณีที่เคยมาร้องเรียน สตง. เพราะที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ร้องเรียนการใช้เงิน ไม่โปร่งใส แต่กรณี อสมท เป็นเรื่องเชิงนโยบายของผู้บริหาร โดยจะตรวจสอบอย่างเร่งด่วนเพื่อให้ความจริงปรากฏ
นายสุวิทย์ กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวของสหภาพแรงงาน อสมท สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา กสทช. มีมติให้ชดใช้ หรือจ่ายค่าตอบแทนในการเรียกคืนคลื่นความถี่ ย่าน 2500-2690 เมกะเฮิรตซ์ หรือเงินเยียวยาค่าคลื่น ให้ อสมท เป็นเงิน 3,235 ล้านบาท และให้ปฏิบัติตามหนังสือของ อสมท ที่เสนอให้แบ่งเงินดังกล่าวครึ่งหนึ่งเอง
โดยหนังสือฉบับดังกล่าว ของกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท ที่ส่งถึง กสทช. ฉบับนั้น ลงวันที่ 4 มิถุนายน 2563 อ้างประธานกรรมการ อสมท มอบอำนาจให้กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท เสนอแบ่งเงินเยียวยาค่าคลื่น ที่จะได้จาก กสทช. ให้คู่สัญญาของ อสมท ครึ่งหนึ่ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ กสทช. ยกหนังสือฉบับนี้มาเป็นเหตุผลให้ อสมท แบ่งเงินเยียวยาครึ่งหนึ่งจากจำนวนทั้งหมด 3,235 ล้าน ให้คู่สัญญา ตามหนังสือแจ้งความประสงค์ของ อสมท เมื่อ 10 มิถุนายน 2563
อย่างไรก็ตาม คู่สัญญาของ อสมท บริษัท เพลย์เวิร์ค จำกัด ทำสัญญากันเมื่อปี 2553 จะนำคลื่นความถี่ย่าน 2600 เมกะเฮิรตซ์ในการบริหารเนื้อหาและการตลาดโครงการโทรทัศน์บอกรับสมาชิก แต่เกิดการจัดตั้ง กสทช. ในปี 2554 จึงต้องขออนุญาตจาก กสทช. ทำให้ยังไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ มีเพียงการแถลงข่าวร่วมกัน 2 ครั้ง ที่อาคารที่ทำการของ อสมท ระหว่างคู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่าย
“การเคลื่อนไหวของ สหภาพแรงงานอสมท ยืนยันไม่ได้ก้าวล่วงคู่สัญญา แต่การเยียวยาต้องพิจารณาอย่างเป็นธรรมว่า คู่สัญญาได้ลงทุนและดำเนินการอะไรไปบ้าง ซึ่งยืนยันว่า เงินเยียวยาค่าคลื่นที่จะได้จาก กสทช. นั้น เป็นเงินที่ต้องนำเข้ารัฐ เพราะ อสมท เป็นรัฐวิสาหกิจที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)” นายสุวิทย์ กล่าว
ขณะเดียวกัน อสมท แจ้งต่อ ตลท. เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2563 ว่า นายธนาวัฒน์ สังข์ทอง มีหนังสือขอลาออกจากการเป็นกรรมการ อสมท และกรรมการเฉพาะเรื่องชุดต่างๆ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป เนื่องจากมีภารกิจอื่นที่ต้องปฏิบัติ นับเป็นกรรมการรายที่ 4 ที่ยื่นลาออก
หลังจากเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2563 อสมท แจ้งต่อ ตลท.ว่า กรรมการของบริษัท และกรรมการเฉพาะเรื่องชุดต่างๆ ได้มีหนังสือขอลาออก ประกอบด้วย 1.นายพิเศษ จียาศักดิ์ กรรมการอิสระ มีผลตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2563 2.ศาสตราจารย์ปาริชาต สถาปิตานนท์ กรรมการอิสระ มีผลตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2563 และ 3.นายมนตรี แสงหิรัญ กรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ มีผลตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2563 เนื่องจากมีภารกิจอื่นที่ต้องปฏิบัติ
พร้อมกันนี้ อสมท แจ้งต่อ ตลท. เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2563 ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ อสมท เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2563 ได้มีมติแต่งตั้ง นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เป็นเลขานุการบริษัท อสมท แทน นางสาวธนพร ทวีพาณิชย์ ผู้อำนวยการฝ่ายเลขานุการบริษัท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป