'สหภาพ อสมท' จี้ 'เขมทัตต์' ตอบปมเงินชดเชยคลื่น 2600
‘สหภาพ อสมท’ จี้ ‘เขมทัตต์’ ตอบปมเงินชดเชยคลื่น 2600
สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ออกแถลงการณ์ถึงกรณีเงินชดเชยจากการเรียกคืนคลื่นความถี่ย่าน 2600 เมกะเฮิรตซ์ โดยมีเนื้อหาระบุว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่า ที่ประชุม กสทช. กำหนดวงเงินชดเชยคลื่นความถี่ย่าน 2600 เมกะเฮิรตซ์ ให้ อสมท จำนวน 3,235 ล้านบาท นั้น และให้แบ่งเอกชนครึ่งหนึ่ง โดยอ้างหนังสือมอบอำนาจของประธานกรรมการ อสมท และการใช้อำนาจของนายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท นั้น
สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ อสมท ขอยืนยันว่า เป็นการใช้อำนาจที่มิชอบ และไม่เป็นไปตามข้อบังคับและระเบียบของ อสมท และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และยังขัดต่อนโยบายของนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และขัดต่อบัญชาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่สั่งการชัดเจนให้ดำเนินการอย่างรอบคอบในการรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ
ทั้งนี้ สหภาพแรงงาน อสมท มีจุดยืนชัดเจนในเรื่องการชดเชยว่า ต้องดูข้อเท็จจริงว่า เอกชนลงทุนเท่าใด มีแผนธุรกิจ และได้ผลกระทบอย่างไร
ดังนั้น การตัดสินใจเสนอให้แบ่งเอกชนครึ่งหนึ่งจึงเป็นเรื่องที่นายเขมทัตต์ พลเดช ต้องมีเหตุผลอธิบาย ต่อสังคม และประชาชน รวมถึงพนักงาน
อย่างไรก็ตาม ในการตัดสินเสนอส่วนแบ่งให้เอกชนครึ่งหนึ่งของนายเขมทัตต์ พลเดช ถือว่าเป็นการกระทำที่สวนทางกับคำพูดของตัวเอง เพราะก่อนหน้านี้ เคยออกแถลงการณ์ตอบโต้สหภาพแรงงาน อสมท ว่ามิใช่หน้าที่ อสมท ในการแบ่งเงินชดเชย และให้สัมภาษณ์สื่อว่าไม่มีอำนาจก้าวล่วง กสทช. เพราะคืนคลื่นให้ กสทช. ไปแล้ว
สหภาพแรงงาน อสมท จึงเห็นว่าการกระทำครั้งนี้ เป็นพฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายขาดสำนึกต่อการทำหน้าที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ที่ต้องรักษาผลประโยชน์ของ อสมท ผู้ถือหุ้น และประเทศชาติ
สำหรับท่าทีจากนี้สหภาพแรงงาน อสมท จะรอผลสอบสวนที่ได้ยื่นต่อนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีควบคู่กับการดำเนินการในช่องทางต่างๆ เพื่อให้เกิดบรรทัดฐานและความถูกต้อง เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของ อสมท และประเทศชาติต่อไป