Dogecoin แค่ของเล่นอีลอน มัสก์ หรือเงินดิจิทัลที่ถูกใช้งานมากขึ้นในอนาคต ?
เหรียญดิจิทัลโดชคอยน์ (Dogecoin) กลับมาอยู่ในกระแสอีกครั้งหลังจากอีลอน มัสก์เปลี่ยนโลโก้ของทวิตเตอร์ (Twitter) โซเชียลเน็ตเวิร์กยอดนิยมทำให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอีลอน มัสก์ อาจกำลังวางแผนนำเหรียญโดชคอยน์ (Dogecoin) มาใช้ในกิจกรรมบางอย่างบนทวิตเตอร์ (Twitter) จากเหรียญดิจิทัลที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นมุกตลกกำลังกลายเป็นเรื่องไม่ตลกอีกต่อไป
ก่อนหน้านี้อีลอน มัสก์โดนฟ้องในข้อกล่าวหาปั่นราคาเหรียญโดชคอยน์ (Dogecoin) ในช่วงปี 2021 โดยมีมูลค่าความเสียหายมากถึง 2.58 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 88 ล้านบาท โดยกลุ่มนักลงทุนที่เข้าซื้อเหรียญโดชคอยน์ในขณะนั้นที่ราคากำลังพุ่งสูง หลังจากอีลอน มัสก์ ทวีตข้อความเกี่ยวกับเหรียญดอชคอยน์บ่อยครั้งจนทำให้ราคาเหรียญโดชคอยน์พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง 36,000% ในช่วงเวลา 1-2 ปี
หลังจากราคาเหรียญโดชคอยน์พุ่งอย่างเป็นประวัติกาลมาได้ระยะหนึ่ง ราคาก็เริ่มตกต่ำดิ่งลงมาอย่างรุนแรงเพราะเกิดการเทขายจำนวนมากส่งผลให้นักลงทุนกลุ่มดังกล่าวขาดทุนและเสียหาย
ในช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาทนายความของอีลอน มัสก์ได้ยื่นเรื่องคำร้องให้ศาลยกคำฟ้องดังกล่าว ทนายความของอีลอน มัสก์ แก้ต่างในศาลว่าการทวีตข้อความของอีลอน มัสก์เป็นสิทธิส่วนบุคคลและข้อความไม่มีเจตนาให้นักลงทุนเข้าซื้อเหรียญโดชคอยน์แต่อย่างใด นอกจากนี้ราคาของเหรียญโดชคอยน์ที่พุ่งสูงก็สร้างผลกำไรให้นักลงทุนคนอื่น ๆ จำนวนมากเช่นเดียวกัน
จุดเริ่มต้นของเหรียญโดชคอยน์ (Dogecoin) เกิดขึ้นจากความสนุก ๆ ในกลุ่มนักพัฒนาเหรียญดิจิทัล 2 คน ชื่อว่า Billy Markus และ Jackson Palmer ในปี 2013 ด้วยแนวคิดที่ตรงกันข้ามกับเหรียญบิตคอยน์ (Bitcoin) ที่ถูกผลิตออกมาเพียง 21 ล้านเหรียญเท่านั้น ในขณะที่โดชคอยน์ (Dogecoin) ถูกโปรแกรมให้ผลิตออกมาไม่จำกัด ปัจจุบันนักพัฒนาทั้ง 2 คน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับโครงการพัฒนาเหรียญโดชคอยน์
แม้ว่าเหรียญโดชคอยน์ (Dogecoin) จะถูกผลิตออกมาได้ไม่จำกัดจำนวนแต่การผลิตเหรียญใหม่ ๆ จะมีจำนวนลดลงเรื่อย ๆ เนื่องจากการใช้สมการกำหนดเอาไว้ใน Proof of Work (PoW) หรืออัลกอริทึมที่ถูกเขียนโปรแกรมเอาไว้ในระบบบล็อกเชน (Blockchain) และด้วยการทำงานในลักษณะของเทคโนโลยีบล็อกเชน การประมวลผลและจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ส่งผลให้การปลอมจำนวนเหรียญโดชคอยน์หรือการทำธุรกรรมปลอมนั้นทำได้ยาก
เหรียญโดชคอยน์ (Dogecoin) ปัจจุบันถูกใช้งานในวงจำกัดและยังไม่ถูกใช้งานแพร่หลายมากนัก การไหลเวียนส่วนใหญ่ของเหรียญโดชคอยน์อยู่ในตลาดซื้อขายเงินดิจิทัลต่าง ๆ ย้อนไปในช่วงปี 2021 บริษัทรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเทสลา (Tesla) เคยรับชำระสินค้าของที่ระลึกเป็นเหรียญโดชคอยน์อยู่ระยะหนึ่ง ก่อนกระแสดังกล่าวจะเงียบหายไปและปัจจุบันบนหน้าเว็บไซต์เหลือรับชำระเฉพาะเงินดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น
ตัวอย่างการใช้งานเหรียญโดชคอยน์ (Dogecoin) ลักษณะอื่น ๆ เช่น การบริจาคให้กับองค์กรต่าง ๆ เพื่อใช้งานการกุศลในสหรัฐอเมริกา การซื้อขายที่เกิดขึ้นในเกมออนไลน์ การใช้เหรียญโดชคอยน์เพื่อให้ทิป (Tips) เงินพิเศษในสินค้าและบริการต่าง ๆ การใช้เหรียญโดชคอยน์ซื้อสินค้าและบริการในรูปแบบแทนเงินสกุลหลักปัจจุบันยังไม่ได้รับการยอมรับในหลายประเทศ เนื่องจากขัดต่อข้อกฎหมายที่ยังไม่สามารถใช้เงินดิจิทัลซื้อสินค้าได้
สำหรับอนาคตของเหรียญโดชคอยน์ (Dogecoin) กับบริการต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นบนทวิตเตอร์ในตอนนี้ยังขาดความชัดเจนและไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการใด ๆ นอกจากการเปลี่ยนโลโก้ของทวิตเตอร์บนเว็บไซต์ให้กลายเป็นเหรียญโดชคอยน์ (Dogecoin) หากอีลอน มัสก์กำลังวางแผนนำเหรียญโดชคอยน์ (Dogecoin) มาใช้ในกิจกรรมบางอย่างบนทวิตเตอร์ (Twitter) จริงตามข้อสันนิษฐานอาจต้องพบกับปัญหาด้านต่าง ๆ เช่น ข้อกฎหมายที่ยังไม่อนุญาตให้ทำธุรกรรมทางการเงินด้วยเหรียญโดชคอยน์ (Dogecoin) ในหลายประเทศ
อย่างไรก็ตามอาจยังมีความเป็นไปได้ในบางกรณี เช่น การใช้เหรียญโดชคอยน์เพื่อให้ทิป (Tips) สำหรับนักสร้างเนื้อหาออนไลน์ (Content Creator) หรือสะสมเพื่อรับรางวัลก็อาจสามารถทำได้เนื่องจากไม่ได้ถูกใช้งานเพื่อการซื้อขายแลกเปลี่ยน ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการคาดการณ์เบื้องต้นและคงต้องรอติดตามกันต่อไปว่าอีลอน มัสก์ ทวิตเตอร์และเหรียญโดชคอยน์จะมีบทสรุปเป็นอย่างไร
ที่มาของข้อมูลและรูปภาพ