เอกชนจี้รบ.เคลียร์ม็อบ ชี้คดีบอส-บ่อนพระราม3 เพิ่มชนวน ต้องทำให้ถูกต้อง
เอกชนจี้รบ.เจรจาม็อบ ชี้คดีบอส-บ่อนพระราม3 เพิ่มชนวน สะเทือนกฎหมายไทย ต้องทำให้ถูกต้อง
นายเกียรติศักดิ์ จิระขจรวงศ์ นายกสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ของม็อบในประเทศที่มีหลากหลายกลุ่มทำให้ภาคเอกชนมีความกังวลว่าจะกระทบต่อเศรษฐกิจไทยที่กำลังชะงักจากสถานการณ์โควิด-19 กังวลว่าหากสถานการณ์ของม็อบทวีความรุนแรงอาจส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลด้วย ดังนั้นอยากให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหา ทั้งนี้ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลและอาจทำให้ปริมาณม็อบเพิ่มขึ้นยังมาจาก 2 ประเด็นสำคัญ คือ คดีของบอส นายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทกระทิงแดง และกรณีของบ่อนพระราม 3 ประเด็นเหล่านี้หากรัฐบาลไม่สามารถทำให้กระบวนการยุติธรรมได้รับการยอมรับจะส่งผลเสียต่อรัฐบาลเอง ส่งผลเสียต่อสำนักงานอัยการ กระทบต่อกฎหมายไทย จนกระทบต่อความเชื่อมั่นของคนไทยทั้งประเทศ สุดท้ายก็จะวนกลับมาที่ระบบเศรษฐกิจของประเทศ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยากให้ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ที่เตรียมเข้าทำงานอย่างเป็นทางการ เร่งช่วยเหลือผู้ประกอบการภาคธุรกิจ โดยเฉพาะเอสเอ็มอีให้เข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ(ซอฟท์โลน) ต่างๆ โดยเฉพาะซอฟท์โลน 5 แสนล้านบาทของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ที่กลไกที่มีอยู่ทำให้เอสเอ็มอีจำนวนไม่สามารถเข้าถึงได้ นอกจากนี้อยากให้รัฐเปิดโอกาสให้เอสเอ็มอีผู้ผลิตชิ้นส่วนที่มีศักยภาพ สินค้าได้มาตรฐานทัดเทียมต่างชาติ สามารถเข้าไปมีส่วนในการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐที่แต่ละปีมีวงเงินไม่ต่ำกว่า 1.3 ล้านล้านบาท เพราะเอสเอ็มอีไทยมีศักยภาพสู้ต่างชาติได้ แต่อาจมีต้นทุนราคาที่สูงกว่าสินค้าจากต่างชาติอยู่บ้าง แต่อยากให้ภาครัฐมองถึงประโยชน์ที่ประเทศจะได้รับมากกว่า โดยเฉพาะการสร้างงาน การสร้างเม็ดเงินที่ช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจไทยให้หมุนเวียนได้