รีเซต

“ม็อบ” ยุคนี้ยังจำเป็นไหม? ชุมนุมสาธารณะยังมีความหมายแค่ไหนในยุคโซเชียล

“ม็อบ” ยุคนี้ยังจำเป็นไหม? ชุมนุมสาธารณะยังมีความหมายแค่ไหนในยุคโซเชียล
TNN ช่อง16
21 มิถุนายน 2568 ( 22:50 )
10

“ม็อบ” ยุคนี้ยังจำเป็นไหม? 

การชุมนุมในพื้นที่สาธารณะยังมีความหมายแค่ไหนในยุคโซเชียลมีเดีย

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การรวมตัวของประชาชนในพื้นที่สาธารณะหรือที่เรียกกันว่า “ม็อบ” ได้เปลี่ยนแปลงทั้งในรูปแบบ ความถี่ และเป้าหมายอย่างเห็นได้ชัด จากเดิมที่การชุมนุมใหญ่เป็นกลไกหลักในการผลักดันประเด็นสาธารณะ ปัจจุบันโลกออนไลน์กลายเป็นเวทีสำคัญที่ประชาชนใช้แสดงออก แสดงความคิดเห็น และเคลื่อนไหวทางการเมืองมากขึ้น


จากข้อมูลของโครงการ Mob Data Thailand จำนวนการชุมนุมในประเทศไทยในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาแสดงแนวโน้มที่ผันผวน โดยในปี 2563 มีการชุมนุม 779 ครั้ง เพิ่มขึ้นเป็น 1,516 ครั้งในปี 2564 จากนั้นลดลงเหลือ 753 ครั้งในปี 2565 และอยู่ที่ 514 ครั้ง (ถึงวันที่ 15 ธันวาคม) ในปี 2566 โดยในปีหลังสุดนี้ กรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ที่มีการชุมนุมมากที่สุด 343 ครั้ง เทียบกับ 171 ครั้งในต่างจังหวัด ส่วนประเด็นหลักที่ถูกหยิบยกขึ้นในการเคลื่อนไหว ได้แก่ การเรียกร้องสิทธิประกันตัว, การเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาล, กฎหมายและความยุติธรรม รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม


ขณะที่การชุมนุมในพื้นที่จริงลดน้อยลง โลกออนไลน์กลับมีบทบาทที่ขยายตัวมากขึ้น ตามรายงาน Digital 2025: Thailand โดย We Are Social และ DataReportal พบว่า คนไทยใช้อินเทอร์เน็ตเฉลี่ยวันละ 9 ชั่วโมง 20 นาที โดยมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากถึง 63.2 ล้านคน คิดเป็น 88% ของประชากร และมีผู้ใช้โซเชียลมีเดียประมาณ 49.1 ล้านคน หรือ 68.3% ของประชากร ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพลเมืองจำนวนมากมีช่องทางแสดงความเห็นผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง

แพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมสูงในประเทศไทย ได้แก่ Facebook (48.1 ล้านบัญชี), TikTok (44.38 ล้านบัญชี) และ X หรือ Twitter (14.68 ล้านบัญชี) โดยเฉพาะ Twitter ซึ่งถูกใช้เป็นพื้นที่หลักในการแสดงออกทางการเมืองในช่วงปี 2563–2567 ด้วยแฮชแท็กต่าง ๆ เช่น #ถ้าการเมืองดี, #ยกเลิก112, #ประเทศกูมี, #ม็อบ18กรกฎา และอื่น ๆ ที่เคยไต่อันดับเทรนด์ในระดับประเทศหลายครั้ง



อย่างไรก็ตาม การแสดงออกทางการเมืองในทั้งสองเวที—ทั้งบนถนนและในโซเชียล—ต่างก็มีข้อจำกัดของตนเอง ข้อมูลจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2563 ถึง 31 พฤษภาคม 2567 มีประชาชนอย่างน้อย 1,954 คน ถูกดำเนินคดีทางการเมืองใน 1,296 คดี ในจำนวนนี้รวมถึงเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีอย่างน้อย 286 ราย และมีผู้ถูกดำเนินคดีภายใต้ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 อย่างน้อย 193 คนใน 106 คดี สะท้อนให้เห็นว่าแม้การแสดงออกจะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน แต่ก็ยังอยู่ภายใต้กรอบข้อกฎหมายที่มีผลต่อการตัดสินใจเข้าร่วมกิจกรรมสาธารณะของประชาชน

ด้วยปัจจัยทั้งหมดนี้ คำถามเรื่อง “ความจำเป็น” ของม็อบในยุคปัจจุบันอาจไม่มีคำตอบเดียว ความพร้อมของประชาชน โอกาสในการเข้าถึงเวทีแสดงความเห็น ช่องทางการรับฟังของภาครัฐ และการตอบสนองต่อข้อเรียกร้อง คือปัจจัยร่วมที่กำหนดว่าการเคลื่อนไหวในพื้นที่สาธารณะจะยังคงเป็นเครื่องมือที่ใช้ได้จริงหรือไม่

ในบางกรณี เสียงจากโซเชียลมีเดียสามารถส่งผลเชิงสัญลักษณ์หรือสร้างแรงกระเพื่อมต่อการเปลี่ยนแปลงระดับหนึ่ง แต่ในบางสถานการณ์ ประชาชนอาจยังรู้สึกว่าการรวมตัวในพื้นที่จริงเป็นช่องทางเดียวที่เสียงของพวกเขาจะถูกได้ยินอย่างมีน้ำหนัก

สุดท้ายแล้ว บทบาทของ “ม็อบ” ไม่ได้อยู่ที่คำว่า “จำเป็นหรือไม่” แต่อยู่ที่ว่า สังคมไทยมีระบบอื่นที่สามารถรองรับความเห็นต่างและจัดการความขัดแย้งอย่างสันติและมีประสิทธิภาพเพียงพอหรือยัง หากระบบนั้นยังไม่เกิดขึ้นหรือไม่เข้มแข็งพอ การชุมนุมในพื้นที่สาธารณะก็อาจยังคงเป็นทางเลือกหนึ่งของประชาชนในอนาคต


อ้างอิง 

รายงานสถานการณ์การชุมนุมสาธารณะจากโครงการ Mob Data Thailand (ดูรายงานเดือนพ.ค.–มิ.ย. 2567 และสรุปปี 2566–2567 ได้จากเว็บไซต์ MobDataThailand)

รายงาน Digital 2025: Thailand โดย We Are Social และ DataReportal (สรุปแนวโน้มการใช้โซเชียลมีเดียและ engagement ในประเด็นการเมือง/สิทธิพลเมือง)

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง