ศรีลังกายังเครียด! สั่งตร.ใช้กระสุนจริง ยิงพวกก่อปัญหา สกัดจลาจลรุนแรง
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า สถานการณ์ในศรีลังกายังตึงเครียดหนักที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงเปิดเผยว่า กองกำลังฝ่ายความมั่นคงราว 85,000 นาย ได้รับคำสั่งให้โจมตีและใช้กระสุนปืนจริงยิงผู้ใดก็ตามที่ก่อการปล้นทรัพย์สินสาธารณะหรือกระทำสิ่งใดที่เป็นอันตรายถึงชีวิต เพื่อป้องกันการก่อจลาจลรุนแรงขึ้นอีก หลังจากคืนก่อนยังมีการลอบวางเพลิงโจมตีเกิดขึ้นหลายจุด
ตำรวจระบุว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 8 รายนับจากเกิดเหตุความรุนแรงเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม จากปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนกับกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านประธานาธิบดีโคฐานภยะ ราชปักษะ ของศรีลังกา หลังจากนำพาประเทศเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายที่สุดนับจากได้รับเอกราช
แม้จะมีการบังคับใช้เคอร์ฟิวและกองกำลังฝ่ายความมั่นคงได้รับคำสั่งให้ยิงผู้สร้างปัญหาได้ แต่โรงแรมหรูแห่งหนึ่งที่เป็นของเครือญาติตระกูลราชปักษะก็ได้ถูกจุดไฟเผาเมื่อเย็นวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงระดับสูงชี้ว่า หากสถานการณ์ไม่ถูกควบคุม ก็อาจเกิดภาวะอนาธิปไตยขึ้นได้
เดิมเคอร์ฟิวที่ถูกประกาศขึ้นในวันที่ 9 พฤษภาคมหลังเกิดเหตุจลาจลรุนแรง มีกำหนดจะถูกยกเลิกในเช้าวันที่ 11 พฤษภาคม แต่ก็ได้มีการขยายเคอร์ฟิวออกไปอีก 24 ชม.เนื่องจากยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นต่อเนื่อง นอกจากจะมีการจุดไฟเผาโรงแรมหรูในเย็นวันก่อน ตำรวจยังยิงปืนขึ้นฟ้าใน 2 จุด เพื่อสลายม็อบที่พยายามจะจุดไฟเผารถยนต์ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเพิ่มการอารักขาความปลอดภัยให้กับผู้พิพากษาหลายคนที่ถูกระบุว่าตกเป็นเป้าหมายของความรุนแรงด้วย
เหตุความไม่สงบในศรีลังกาล่าสุดเกิดขึ้นหลังจากกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลได้ใช้อาวุธทั้งไม้และกระบองเข้าทำร้ายกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่ชุมนุมประท้วงอย่างสงบในกรุงโคลอมโบมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้วจากความไม่พอใจปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจและเรียกร้องให้ประธานาธิบดีราชปักษะลาออก
เหตุความไม่สงบขยายวงไปทั่วประเทศที่มีบ้านพักของนักการเมืองพรรคร่วมรัฐบาลหลายสิบหลังถูกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบจุดไฟเผาและยังพยายามจะบุกเข้าไปในบ้านพักของนายมหินทา ราชปักษะ นายกรัฐมนตรีผู้เป็นพี่ชายของประธานาธิบดีศรีลังกาด้วย จากเหตุความรุนแรงและความกดดัน ได้ส่งผลให้นายมหินทายื่นใบออกจากตำแหน่งไป
สหรัฐอเมริกาได้ออกมาแสดงความห่วงกังวลเช่นเดียวกับข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ และ สหภาพยุโรป ต่อสถานการณ์ความรุนแรงในศรีลังกาที่มีการระดมกำลังทหารเข้ามารักษาความสงบด้วย