อังกฤษ อนุมัติฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป
United Kingdom: รัฐบาลสหราชอาณาจักร ตัดสินใจฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ให้เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป ขณะที่รัฐบาลคาดหวังว่า การขยายการฉีดวัคซีน และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางสังคมเพียงเล็กน้อย อาจหลีกเลี่ยงความจำเป็นในการใช้มาตรการปิดเมืองในฤดูหนาวได้
นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ประกาศระหว่างการแถลงข่าว ระบุว่า การฉีดวัคซีนให้เด็กและการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 ให้ผู้ใหญ่ในกลุ่มเสี่ยง เป็นส่วนหนึ่งของ “ชุดเครื่องมือ” เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวที่จะถึงนี้
ขณะที่ ประธานเจ้าหน้าที่การแพทย์ของสหราชอาณาจักร แนะนำให้เด็กอายุ 12-15 ปี รับวัคซีนเข็มแรกของ Pfizer-BioNTech แม้ว่าคณะที่ปรึกษาด้านวัคซีนของรัฐบาล ระบุในเดือนนี้ว่า ขั้นตอนดังกล่าวจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แนดฮิม ซาฮาวี รัฐมนตรีวัคซีน กล่าวว่า รัฐบาลยอมรับคำแนะนำดังกล่าว และจะเริ่มฉีดวัคซีนให้เด็กในสัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ประเทศอื่น ๆ ซึ่งรวมทั้งสหรัฐ, แคนาดา, ฝรั่งเศส และอิตาลี เสนอฉีดวัคซีนต้านโควิดให้เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปแล้ว แต่สหราชอาณาจักรยังไม่ได้เสนอให้ฉีด โดยในปัจจุบันนี้ สหราชอาณาจักร ฉีดวัคซีนโควิดให้ประชาชนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ซึ่งผู้มีสิทธิ์เกือบ 90% ฉีดวัคซีนไปแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม
ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา คณะกรรมการร่วมว่าด้วยวัคซีนและภูมิคุ้มกันของสหราชอาณาจักร แถลงว่า ควรจะฉีดวัคซีนให้เด็กอายุ 12-15 ปีที่มีโรคประจำตัว แต่ไม่สนับสนุนให้ฉีดในเด็กที่สุขภาพแข็งแรง ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำมากที่จะติดเชื้อโควิดอาการรุนแรง โดยบอกว่า ประโยชน์โดยตรงต่อสุขภาพ มีเล็กน้อยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการฯ ชุดนี้ กล่าวว่า อาจมีปัจจัยทางสังคมที่กว้างขึ้นในการพิจารณา เช่น เรื่องการศึกษา หรือเด็กบางกลุ่ม อาจเป็นแหล่งแพร่เชื้อไปยังกลุ่มที่มีความเปราะบางมากกว่า
ส่วนคริส วิตตี ประธานเจ้าหน้าที่การแพทย์ของสหราชอาณาจักร แถลงในวันจันทร์ (13 กันยายน) ว่า การฉีดวัคซีนจะช่วยควบคุมการแพร่เชื้อไวรัสในโรงเรียน และช่วยด้านสุขภาพจิตของเด็กด้วยการลดผลกระทบต่อการศึกษา การฉีดวัคซีนในเด็ก เป็นเครื่องมือที่สำคัญและมีประโยชน์ในการต่อสู้กับไวรัส
ทั้งนี้ เบื้องต้นเด็กจะได้รับวัคซีนเข็มแรกจากทางโรงเรียน ขณะรัฐบาลสหราชอาณาจักร ยังไม่ได้ตัดสินใจว่า จะฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ให้พวกเขาหรือไม่
รัฐบาลพรรคอนุรักษ์นิยมของนายกรัฐมนตรีจอห์นสัน เผยว่า การฉีดวัคซีนอย่างแพร่หลาย จะช่วยควบคุมการระบาดของไวรัส ระหว่างฤดูหนาว ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่ไวรัสที่ทำให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจ แพร่เชื้อได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องใช้มาตรการจำกัดพื้นที่