อังกฤษทำโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แบบ SMR เครื่องแรกของประเทศ จ่ายไฟได้สูงสุด 3 ล้านครัวเรือน

รัฐบาลสหราชอาณาจักร จับมือกับโรลส์-รอยซ์ (Rolls-Royce) พัฒนาโรงไฟฟ้าจากเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบแยกส่วนขนาดเล็ก (Small Modular Reactor: SMR) แห่งแรกของประเทศ ในเมืองวิลฟา (Wylfa) ทางตอนเหนือของเขตเวลส์ ที่คาดว่าจะจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับบ้านเรือนได้ประมาณ 3 ล้านหลัง เดินเครื่องปี 2026 นี้

รายละเอียดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ SMR แห่งแรกในอังกฤษ

เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบแยกส่วนขนาดเล็ก (Small Modular Reactor: SMR) เป็นรูปแบบเครื่องปฏิกรณ์ที่มีจุดเด่นคือขนาดเล็กกว่า และสร้างได้เร็วกว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แบบดั้งเดิม

โรงไฟฟ้าแบบ SMR จะก่อสร้างในเมือง Wylfa โดยหน่วยงานกำกับพลังงานนิวเคลียร์แห่งเกรตบริเตน (Great British Energy-Nuclear: GBE-N) ซึ่งใช้เครื่องปฏิกรณ์ของ Rolls-Royce SMR จำนวน 3 ตัว ให้กำลังการผลิตตัวละ 470 เมกะวัตต์ (MW) หรือทั้งโครงการจะได้กำลังการผลิตประมาณ 1.5 กิกะวัตต์ (GW) เทียบเท่าการผลิตด้วยกังหันลมกว่า 450 ตัว

แผนการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ SMR ในอังกฤษ

GBE-N ประเมินว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ SMR ในเมือง Wylfa จะเริ่มเดินเครื่องได้ภายในปี 2026 โดยมีเป้าหมายให้เครื่องปฏิกรณ์ SMR เริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบ (Grid) ได้ภายในช่วงกลางปี 2030 

และแม้ว่าโครงการเริ่มต้นในเมือง Wylfa จะประกอบด้วยเครื่องปฏิกรณ์ SMR เพียง 3 หน่วย แต่ GBE-N ประเมินว่า โรงไฟฟ้าที่เมือง Wylfa นั้นสามารถติดตั้งได้สูงสุด 8 หน่วย หรือเทียบเท่ากำลังการผลิตเกือบ 4 กิกะวัตต์ ในอนาคต

เบื้องหลังการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ SMR ในอังกฤษ

ทั้งนี้ Wylfa เคยเป็นที่ตั้งของสถานีไฟฟ้านิวเคลียร์วิลฟา (Wylfa nuclear power station) กำลังการผลิต 1,190 เมกะวัตต์ ซึ่งปิดตัวไปในปี 2015 ทำให้คนในพื้นที่มีความเกี่ยวข้องกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 

ด้วยเหตุนี้ การก่อสร้าง SMR ในเมือง Wylfa ซึ่งมีมูลค่ากว่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 97,000 ล้านบาท จะทำให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่กว่า 3,000 ตำแหน่ง และสามารถจ่ายไฟฟ้าให้กับชุมชนและเขตทางตอนเหนือของเวลส์ได้กว่า 3 ล้านครัวเรือน อีกทั้งยังช่วยให้ Rolls-Royce สามารถต่อยอดความสำเร็จของระบบ SMR เป็นการส่งออกสู่ต่างประเทศในอนาคตอีกด้วย