รีเซต

เกิดอะไรขึ้นกับ BBC? จากสื่อมวลชนต้นแบบ สู่ดราม่ารายงานข่าวเท็จ

เกิดอะไรขึ้นกับ BBC? จากสื่อมวลชนต้นแบบ สู่ดราม่ารายงานข่าวเท็จ
TNN ช่อง16
11 พฤศจิกายน 2568 ( 18:55 )
4

วิกฤตที่เกิดขึ้นครั้งนี้ มีต้นเหตุมาจากบันทึกภายในของ BBC ที่รั่วไหล และหนังสือพิมพ์ The Telegraph นำเรื่องนี้ไปเผยแพร่ต่อ โดยเนื้อหาในรายงานจัดทำโดยอดีตที่ปรึกษาคนหนึ่งของ BBC ที่มีการเปิดเผยถึงความผิดพลาดของการทำงานของ BBC หลายอย่าง ตั้งแต่การรายงานข่าวสงครามในฉนวนกาซา ประเด็นเกี่ยวกับกลุ่ม LGBTQ และการตัดต่อคำพูดของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยเฉพาะเรื่องการตัดต่อคำพูดของทรัมป์ ในรายการสารคดีที่มีชื่อ Panorama ที่ทำให้ดูเหมือนว่าทรัมป์พูดยั่วยุให้ผู้สนับสนุนก่อจลาจลบุกยึดอาคารรัฐสภา ในเดือนมกราคม ปี 2021 จนทำให้ทรัมป์ออกมาเรียกร้องคำขอโทษอย่างเป็นทางการจากสำนักข่าว BBC พร้อมกับเรียกร้องค่าเสียหายอย่างเหมาะสม ไม่เช่นนั้น ทรัมป์จะดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์

เรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้ ทิม เดวี ผู้อำนวยการใหญ่ และเดโบรา เทอร์เนสส์ ซีอีโอฝ่ายข่าว ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นผู้บริหารที่อาวุโสที่สุดของสำนักข่าว BBC ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

บันทึกภายในของ BBC ยังมีการวิพากษ์วิจารณ์ความโอนเอียงในการรายงานข่าวที่เกี่ยวกับสิทธิคนข้ามเพศ การทำสงครามในฉนวนกาซาของอิสราเอล และการที่สำนักข่าว BBC ภาษาอาหรับ ที่เปิดพื้นที่ให้ผู้สื่อข่าวที่มีแนวคิดต่อต้านยิวรายงานข่าวที่ไม่เป็นกลาง

BBC ยังถูกกล่าวหาว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การรายงานข่าวของ BBC มีความโอนเอียงเข้าหากระแสโว้คอย่างชัดเจน ซึ่งอดีตพนักงานของ BBC คนหนึ่ง เปิดเผยกับ The Telegraph ว่า BBC กลายเป็นสถานที่ทำงานที่คนผิวขาวและชนชั้นกลาง กลายเป็นความผิดที่ต้องออกมาขอโทษตลอดเวลา

เมื่อไม่นานมานี้ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทาง BBC ก็เคยมีดราม่าเกิดขึ้นกับประเทศไทยเหมือนกัน เพราะตอนนั้น BBC ทำสารคดีเกี่ยวกับประเทศไทยเรื่อง Thailand: The Dark Side of Paradise ที่พยายามเล่าถึงด้านมือดของประเทศไทย เกี่ยวกับความไม่ปลอดภัยของนักท่องเที่ยว การคอร์รัปชัน ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการทำสารคดืที่เหมือนกับว่าตั้งธงไว้ในใจแล้ว ว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่อันตราย แล้วก็พยายามหาข้อมูล หรือสัมภาษณ์ผู้คนที่สนับสนุนเรื่องนี้แต่ด้านเดียว ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำให้เกิดกระแสโต้กลับ ทั้งคนไทย และคนต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทย หรือเคยมาเที่ยวไทยก็บอกว่า เมืองไทยไม่ได้เป็นแบบนี้ซะหน่อย ไม่ได้อันตรายอะไรแบบที่เห็นในสารคดี รวมทั้งแขกรับเชิญในรายการต่างก็บอกด้วยว่าพวกเขาถูกตัดต่อเสียงสัมภาษณ์จากการพูดอย่างหนึ่ง แต่ถูกตัดต่อจนคำพูดของแขกรับเชิญถูกบิดเบือนให้หมายความอีกอย่างหนึ่ง ก็เป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ทาง BBC ถูกตั้งคำถามเรื่องการทำงานที่ดูเหมือนจะมีอคติส่วนตัว และไม่เป็นมืออาชีพ

 


อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา BBC มีความพยายามจะแก้ไขเรื่องเหล่านี้ ด้วยการออกแนวทางการทำงานที่ถูกต้องของกองบรรณาธิการ การแต่งตั้งหัวหน้าคนใหม่ให้มาควบคุมการทำงานของแผนกต่าง ๆ รวมทั้งมาตรการตรวจสอบทางวินัยอื่น ๆ 

BBC เป็นสำนักข่าวที่มีสถานะพิเศษในประเทศอังกฤษ เพราะเป็นสื่อสาธารณะที่มีรายได้จากค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ที่เก็บจากครัวเรือนในประเทศอังกฤษ จึงถือว่า BBC ได้รับเงินสนับสนุนจากประชาชนโดยตรง จึงมีความรับผิดชอบในการปกป้องผลประโยชน์ของสาธารณะโดยตรง และต้องรักษาความเป็นกลางในการรายงานข่าว 

ทิม เดวี ผู้อำนวยการใหญ่ และเดโบรา เทอร์เนสส์ ซีอีโอฝ่ายข่าว ที่ตัดสินใจลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ยังคงยืนยันว่า BBC เป็นสำนักข่าวที่มีความน่าเชื่อถือและมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยเดวีกล่าวว่า โดยรวมแล้ว BBC ยังนำเสนอข่าวที่มีมาตรฐาน ส่วนเทอร์เนสส์ยืนยันอย่างหนักแน่นว่า แม้การทำงานของ BBC จะมีความผิดพลาดเกิดขึ้น แต่ข้อกล่าวหาที่ว่า BBC เป็นสำนักข่าวที่ลำเอียง ไม่เป็นเรื่องจริง 

สตีเฟน คูชัน ศาสตราจารย์ด้านสื่อสารมวลชน ที่มหาวิทยาลัยคาร์ดีฟ ไม่ได้มองว่า BBC เป็นสถาบันสื่อที่มีความลำเอียง แต่ปัญหาที่เกิดกับ BBC เกิดจากความผิดพลาดของบุคคล ที่บางครั้งการรายงานข่าวก็ไม่ได้นำเสนอข้อมูลรอบด้าน แต่ BBC เป็นสำนักข่าวที่มีความรับผิดชอบต่อประชาชนสูง เพราะได้รับเงินสนับสนุนจากประชาชนโดยตรง ซึ่งคูชันมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคงไม่รุนแรงเท่านี้ ถ้าหากว่าผู้บริหารของ BBC มีการรับมือและออกมาขอโทษเร็วกว่านี้ 

ส่วน เบธ จอห์นสัน ศาสตราจารย์ด้านสื่อโทรทัศน์จากมหาวิทยาลัยลีดส์ มองว่าปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นปัญหาภายในของกลุ่มผู้บริหารรุ่นใหม่ของ BBC ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนว่าตัวเองอยากจะเป็นสื่อแบบไหน แม้ BBC จะเป็นสื่อสาธารณะที่ได้รับเงินสนับสนุนจากประชาชน แต่ก็มีแนวทางที่อยากจะแข่งขันอุตสาหกรรมสื่อ ซึ่งเป้าหมายสองอย่างนี้ บางครั้งก็ทำให้เกิดความขัดแย้งในแนวทางการทำงาน ที่ทำให้การตัดสินใจของผู้บริหารขาดความเฉียบขาด และไม่มีทิศทางที่ชัดเจน แต่เธอมองว่า BBC ยังเป็นสำนักข่าวที่มีความสำคัญต่อคนอังกฤษ มีความเป็นอิสระ และมีมาตรฐาน แต่ก็ต้องมีการปฏิรูป ซึ่งคำถามสำคัญคือจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร และเพื่อผลประโยชน์ของใคร 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง