วิกฤตความน่าเชื่อถือ BBC จากไดอานาถึงทรัมป์ ทำผู้บริหารออกยกชุด

มรสุมสำนักข่าว BBC สื่อระดับโลก ที่อยู่เคียงข้างสหราชอาณาจักรมานานกว่า 100 ปี หลังตัดต่อบิดเบือนสุนทรพจน์ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จนทำให้ผู้บริหารต้องลาออกยกชุด
แต่รู้ไหมว่า นี่ไม่ใช่เหตุการณ์แรกที่ BBC เคยถูกวิจารณ์เรื่องการบิดเบือนข่าว ความไม่เป็นกลาง ตลอดจนการได้มาของข้อมูลที่ไม่เหมาะสม
แล้วเหตุการณ์ที่ว่านี้ มีอะไรบ้าง ?
ใช้เอกสารปลอม เข้าถึงตัวเจ้าหญิงไดอานา
ย้อนไปปี 2020 มีการเปิดโปงว่า บทสัมภาษณ์เจ้าหญิงไดอานาในปี 1995 รายการ Panorama ของ BBC ซึ่งเคยสร้างกระแสไปทั่วโลก แท้จริงได้มาจากการหลอกลวง
มาร์ติน บาชีร์ ผู้สื่อข่าว BBC ใช้เอกสารปลอมหลอกให้เจ้าหญิงเชื่อว่าถูกคนรอบข้างหักหลัง เพื่อให้พระองค์ยอมเปิดใจพูดถึงปัญหาชีวิตสมรสและรักสามเส้าระหว่างพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และพระราชินีคามิลลา จนทำให้มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ในราชวงศ์ และได้มีการหย่าร้างขึ้น หลังรายการนี้ออกอากาศได้ 1 ปี
ทั้งนี้ สารคดี Panorama คือ รายการเดียวกันกับที่ตัดต่อคำพูดของทรัมป์เมื่อไม่นานมานี้
บาชีร์ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่กราฟิกทำ Statement ธนาคารปลอม เพื่อเอาไปโชว์ให้พระเชษฐาของเจ้าหญิงไดอาน่าดูว่า คนสนิทของเจ้าหญิงรับเงินมาเพื่อลวงข้อมูลเธอ และพระเชษฐาเจ้าหญิงไดอานาก็เชื่อสิ่งนี้ จึงทำให้บาชีร์ได้พบกับเจ้าหญิงไดอานา
เมื่อพระองค์เห็นหลักฐานต่าง ๆ นี้ จึงเกิดความระแวงมากขึ้น และคิดว่า ตนสามารถไว้วางใจบาชีร์ได้เท่านั้น นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เจ้าหญิงไดอานาให้สัมภาษณ์กับรายการนี้
อันที่จริงหลังการออกอากาศก็มีข้อสงสัยว่า บาชีร์เข้าถึงตัวเจ้าหญิงไดอานาได้อย่างไร เพราะพระองค์ค่อนข้างระวังตัวมาก จนทำให้เกิดการสอบสวนขึ้นในปี 1996 และตอนนั้น BBC แถลงว่า ไม่พบการกระทำผิดใด ๆ จากตัวบาชีร์
ต่อมา ปี 2020 ก็มีการขุดคุ้ยเรื่องนี้อีกครั้ง พร้อมกับที่เจ้าหน้าที่กราฟิก ซึ่งเป็นผู้ทำเอกสารธนาคารปลอมก็ออกมายอมรับ จึงทำให้เกิดการสอบสวนอีกรอบ และพิสูจน์ได้ว่า “บาชีร์” ใช้เอกสารปลอมจริง ซึ่งถือเป็นการละเมิดจริยธรรมสื่ออย่างร้ายแรง
รายงานการสืบสวน ยังพบว่า บาชีร์มีการกล่าวอ้างข้อมูลเท็จต่อราชวงศ์อย่างน้อย 38 ครั้ง เช่น บอกว่า โทรศัพท์เจ้าหญิงไดอานาถูกดักฟังจากหน่วยงาน MI5
ท้ายสุด บาชีร์ก็ออกมายอมรับว่า เขาได้ใช้เอกสารปลอมเพื่อเข้าถึงตัวเจ้าหญิงไดอานาจริง และลาออกจาก BBC แต่ก็แย้งว่า เอกสารปลอมที่เขาทำขึ้น ไม่ได้มีส่วนในการตัดสินใจให้สัมภาษณ์กับ BBC ของเจ้าหญิงไดอานา
ขณะที่ สำนักข่าว BBC ก็ออกแถลงการณ์ขอโทษราชวงศ์อังกฤษ พร้อมกับถอดบทสัมภาษณ์ดังกล่าวออกทันที
ถูกวิจารณ์รายงานข่าวตะวันออกกลางลำเอียง
แต่นี่ไม่ใช่เพียงเหตุการณ์เดียว ที่ BBC ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับการรายงานข่าว โดยเฉพาะข่าวความขัดแย้งบนภูมิภาคตะวันออกกลาง
สำนักข่าว Telegraph อ้างอิงคำพูดจาก เทรเวอร์ แอสเซอร์สัน ทนายความชาวอังกฤษ-อิสราเอล ระบุว่า สำนักข่าว BBC มีรูปแบบการรายงานข่าวที่อคติต่ออิสราเอล โดยพบว่า BBC ละเมิดแนวทางการทำข่าวของตัวเอง ที่เกี่ยวกับการรายงานอิสราเอล-ฮามาสทั้งหมด 1,553 ครั้ง
ยกตัวอย่างเช่น บทความข่าวของ BBC เรื่องวิกฤติการขาดน้ำในฉนวนกาซา อ้างถึงเด็กชายคนหนึ่งว่าป่วยหนักเพราะขาดสารอาหารและน้ำหลังเกิดสงคราม แต่ความจริงเด็กคนนี้ มีภาวะสมองพิการมาตั้งแต่เกิด ซึ่ง BBC ไม่ได้กล่าวถึงในตอนแรก ก่อนที่จะถอดบทความออกและแก้ไขใหม่โดยเพิ่มข้อมูลนี้ในภายหลัง
แม้จะถูกกล่าวหาว่า อคติต่ออิสราเอล แต่ขณะเดียวกับ BBC ก็ถูกพนักงานมากกว่า 100 คน รวมถึงคนในวงการสื่ออีกกว่า 200 คน ลงชื่อในจดหมายเปิดผนึกถึงผู้อำนายการ BBC ชี้ว่า BBC รายงานข่าวเอื้อประโยชน์ต่ออิสราเอลเช่นกัน
สำหรับประเทศไทย BBC ก็ถูกวิจารณ์เดือดบนโลกโซเชียลไม่แพ้กัน เมื่อสารคดี Thailand: The Dark Side of Paradise ถูกเผยแพร่ออกมา ซึ่งพยายามเผยด้านมืดของไทยออกมา แต่วิธีการนำเสนอ กลับถูกวิจารณ์จากชาวเน็ตว่า ไม่โปร่งใส จัดฉาก และบิดเบือนเนื้อหา จนทำลายภาพลักษณ์ประเทศไทย ทำให้มีทั้งคนไทย และชาวต่างชาติทำคลิปออกมาตอบโต้รายการดังกล่าวในภายหลัง
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
