ทำอะไรได้บ้าง หลังปลดล็อก “ใบกระท่อม” ใช้ได้เสรี ปลูกกินได้
เป็นอีกก้าวหนึ่งขอคนไทย ในการปลดล็อก “พืชกระท่อม” "ใบกระท่อม" ออกจาก พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ 5 จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 24 ส.ค.นี้ ส่งผลให้ประชาชนสามารถปลูก บริโภคตามวิถีชาวบ้าน และสามารถซื้อขายใบพืชกระท่อมได้โดยไม่ผิดกฎหมาย รวมถึงจะปล่อยตัวผู้กระทำความผิดคดีเกี่ยวกับพืชกระท่อม โดยถือว่าไม่เคยกระทำความผิดด้วย
แต่การเปิดใช้ “ใบกระท่อม” ได้อย่างเสรี คนเคยทำผิด ถือว่าไม่เคยได้ทำนั้น ทำให้เราสามารถใช้ “ใบกระท่อม” ทำได้ทุกอย่างหรือไม่ TrueID จึงเรียบเรียงการใช้ “ใบกระท่อม” ให้ชัดเจน ว่ายังคงมีข้อห้ามอะไรบ้างที่จำกัดสิทธิการใช้กระท่อมอย่างเสรี
พืชกระท่อม เป็นพืชที่พบมากทางใต้ของประเทศไทย ไปจนถึงเขตชายแดน นิยมใช้ในกลุ่มของผู้ใช้แรงงาน ทำสวน ทำนา เพื่อให้ทำงานได้ไม่รู้สึกเมื่อยล้า ทนต่อการทำงานกลางแจ้ง ทนร้อน ทนแดด และสามารถทำงานได้ยาวนานมากขึ้น มักนำมาเคี้ยวใบสด หรือ ต้มเป็นชา นอกจากนี้ยังมีการใช้เพื่อลดอาการขาดยาจากสิ่งเสพติดอื่น เช่น ฝิ่นและมอร์ฟีน แต่ถูกกำหนดว่าผิดกฎหมาย ห้ามนำมาใช้เป็นเวลานาน และมีการผลักดันให้ปลูกได้มาเกือบศตรรษ
ปลดล็อก “ใบกระท่อม” ทำอะไรได้บ้าง
1.สามารถปลูก “พืชกระท่อม” ได้อย่างเสรี
2.สามารถนำ “ใบกระท่อม” มาบริโภค ต้ม ดื่ม เคี้ยวกินได้ ตามรูปแบบวิถีชาวบ้าน
3.สามารถขายได้โดยไม่จำกัดจำนวน ไม่ผิดกฎหมาย หรือจะส่งขายให้อุตสาหกรรมต่างๆ ก็สามารถดำเนินการได้
4.ผู้ที่ถูกดำเนินคดี กระทำความผิดคดีเกี่ยวกับพืชกระท่อม และถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ 1,038 คน จะได้รับการปล่อยตัว รวมถึงในชั้นตำรวจ และอัยการ ประมาณ 1 หมื่นคน จะถือว่าไม่เคยกระทำความผิด
ทำไม่ได้! แม้ปลดล็อก “ใบกระท่อม” แล้ว
1.เอาไปผสมยาเสพติดทำเป็น 4x100 ที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท เมื่อนำมาผสมเข้าด้วยกันจะออกฤทธิ์ที่เป็นอันตรายต่อร่างกายในระยะยาว
2.ห้ามขาย “ใบกระท่อม” ให้เด็กต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ซึ่งเป็นเยาวชน รวมถึงสตรีมีครรภ์
3.ห้ามจำหน่ายในบางสถานที่ เช่น วัด ในโรงเรียน
4.การนำเข้าส่งออก “ใบกระท่อม” ไปต่างประเทศในเชิงอุตสาหกรรม ยังคงต้องขออนุญาตก่อน
ส่วนการใช้พืชกระท่อมทางการแพทย์ การศึกษาวิจัย ในขณะนี้ ได้มีการเสนอร่าง พ.ร.บ.พืชกระท่อม พ.ศ.... ซึ่งอยู่ในกระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งร่างกฎหมายมีหัวใจการกำหนดมาตรการกำกับดูแลและป้องกันการนำพืชกระท่อมไปใช้ในทางที่ผิดภายหลังถอดให้โทษ โดยเฉพาะควบคุมไม่ให้เด็กและเยาวชนนำกระท่อมไปใช้ในทางที่ผิด และให้ชาวบ้านเข้าถึงการปลูกและแปรรูปพืชกระท่อมได้ สามารถรวมกลุ่มสหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน หรือเป็นรายบุคคลเพื่อจำหน่ายเองได้
ดังนั้น พ.ร.บ.พืชกระท่อม ฉบับนี้จึงถือเป็นกฎหมายที่มาจากวิถีชาวบ้านความต้องการของประซาชนโดยประชาชน เป็นผู้ได้ประโยชน์สูงสุดอย่างแท้จริง
การปลดล็อก “ใบกระท่อม” ครั้งนี้ถือเป็นปรับกฎหมายยาเสพติดให้สอดคล้องกับกฎหมายสากลที่ไม่ได้กำหนดให้พืชกระท่อมเป็นยาเสพติดให้โทษอีกต่อไป นอกจากนั้นยังเป็นการเพิ่มมูลค่า "พืชกระท่อม" ให้เป็นพืชเศรษฐกิจจากเดิมที่แอบขายในราคากิโลกรัมละ 500 -600 บาท เมื่อปลดล็อกแล้ว ก็จะต้องทำให้ราคากระท่อมไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 200 บาท
ข้อมูลจาก สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
--------------------
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- มีผลแล้ววันนี้ปลด"พืชกระท่อม"พ้นยาเสพติด ชาวบ้านซื้อ-ขายเสรี
- เปิดสรรพคุณ 'พืชกระท่อม' ที่จะปลดล็อก พ้นยาเสพติด มีผล 24 ส.ค.นี้
- ส่องสรรพคุณ “กระท่อม” พืชทางยา ปลดล็อคจากยาเสพติด
- กัญชงกับกัญชา เหมือนกันหรือไม่
- เคลียร์ชัด! 'กัญชา' ใครปลูกได้บ้าง? อย.ย้ำไม่เอื้อนายทุน
- รู้จัก "สายพันธุ์กัญชายอดนิยม" ทั้งไทยและเทศ