ทรัมป์ระงับการอพยพ จากประเทศ ‘โลกที่สาม’ สั่งตรวจสอบกรีนการ์ดทั้งหมด

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า เขามีแผนจะ “ระงับการอพยพจากทุกประเทศในโลกที่สาม” หนึ่งวันหลังจากชาวอัฟกันถูกระบุว่าเป็นผู้ต้องสงสัยยิงทหารกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ 2 นายในกรุงวอชิงตัน ดีซี

ถ้อยแถลงของทรัมป์เป็นมาตรการล่าสุดในชุดข้อจำกัดด้านการอพยพที่เข้มงวดขึ้น โดยก่อนหน้านี้เขาได้สั่งให้รัฐบาลสหรัฐฯ ตรวจสอบคำขอกรีนการ์ดทั้งหมดจาก 19 “ประเทศที่น่าวิตก” อีกครั้ง หลังเหตุยิงดังกล่าว

ทรัมป์โพสต์ใน Truth Social เมื่อวานนี้ว่า “ผมจะหยุดการย้ายถิ่นจากทุกประเทศในโลกที่สามอย่างถาวร เพื่อให้ระบบของสหรัฐฯ ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ และยุติผู้ลักลอบเข้าเมืองที่รัฐบาลไบเดนรับเข้ามานับล้านคน”  แม้เขาจะไม่ได้ระบุคำว่า “โลกที่สาม” หมายถึงประเทศใด แต่โดยทั่วไปใช้เรียกประเทศกำลังพัฒนาในกลุ่มโลกตอนใต้

ทรัมป์ยังกล่าวว่าเขาจะนำตัวออกจากประเทศทุกคนที่ไม่เป็นประโยชน์สุทธิแก่สหรัฐฯ หรือไม่สามารถรักประเทศของเราได้ เขาเสริมด้วยว่า สหรัฐฯ จะยุติสวัสดิการและเงินสนับสนุนของรัฐบาลกลางทั้งหมดที่มอบให้กับ “ผู้ที่ไม่ใช่พลเมือง” และจะเพิกถอนสัญชาติเผื่อผู้อพยพที่บ่อนทำลายความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ และเนรเทศชาวต่างชาติที่เป็นภาระต่อรัฐ มีความเสี่ยงด้านความมั่นคง หรือไม่สอดคล้องกับอารยธรรมตะวันตก

โจเซฟ เอดโลว์ ผู้อำนวยการสำนักงาน USCIS ระบุเมื่อวานนี้ว่า ตามคำสั่งของประธานาธิบดี เขาได้สั่งการตรวจสอบกรีนการ์ดทุกใบของชาวต่างชาติจากทุกประเทศที่น่าวิตกอย่างเต็มรูปแบบและเข้มงวดที่สุด การปกป้องประเทศนี้และประชาชนอเมริกันเป็นสิ่งสูงสุด และประชาชนอเมริกันไม่ควรต้องแบกรับต้นทุนของนโยบายตั้งถิ่นฐานที่ประมาทของรัฐบาลก่อนหน้า

เอดโลว์ไม่ได้อธิบายว่าประเทศใดบ้างที่เข้าข่าย แต่สำนักงานของเขาได้ชี้ไปยังประกาศของประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ที่จำกัดการเดินทางเข้าสหรัฐฯ ของประชาชนจาก 19 ประเทศ ได้แก่ อัฟกานิสถาน เฮติ อิหร่าน เมียนมา เวเนซุเอลา และเยเมน

หน่วย USCIS ก่อนหน้านี้ได้ประกาศระงับคำร้องขอเข้าเมืองของชาวอัฟกันทั้งหมดโดยไม่มีกำหนด “ระหว่างการทบทวนมาตรการตรวจสอบความปลอดภัยเพิ่มเติม”

ข้อจำกัดด้านผู้อพยพชุดใหม่นี้เกิดขึ้นในขณะที่ จานีน ปีร์โร อัยการสหรัฐฯ ประจำเขตโคลัมเบีย ระบุผู้ต้องสงสัยในเหตุยิงทหารกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิว่าเป็น ราห์มานุลเลาะห์ ลากันวัล ชายชาวอัฟกันวัย 29 ปี ซึ่งเคยทำงานร่วมกับกองกำลังสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถาน