มีผลแล้ววันนี้ปลด"พืชกระท่อม"พ้นยาเสพติด ชาวบ้านซื้อ-ขายเสรี
วันนี้ ( 24 ส.ค. 64 )เป็นวันแรกที่กฎหมายถอดพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษประเภท 5 มีผลบังคับใช้ ซึ่งมีผลทำให้ประชาชนสามารถนำพืชกระท่อมมาใช้ประโยชน์ในรูปแบบวิถีชาวบ้านได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ทั้งการบริโภค ปลูกและ ซื้อขายได้โดยไม่จำกัดจำนวน หรือจะขายให้อุตสาหกรรมต่างๆ ก็สามารถดำเนินการได้ แต่กฎหมายจะต้องมีบัญญัติตามมาเล็กน้อยเช่น ห้ามขายให้ผู้ใดบ้าง อาทิ เด็กต่ำกว่า 18 ปี สตรีมีครรภ์ และห้ามจำหน่ายในบางสถานที่ เช่น วัด
สำหรับผู้ที่ถูกดำเนินคดี และถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ 1,038 คน จะได้รับการปล่อยตัว รวมถึงในชั้นตำรวจ และอัยการ ประมาณ 1 หมื่นคน จะถือว่าไม่เคยกระทำความผิด
นายสมศักดิ์ ระบุด้วยว่า การปลดล็อกกระท่อม จะทำให้พืชกระท่อมเป็นพืชเศรษฐกิจ จากเดิมที่แอบขายันในราคากิโลกรัมละ 500 -600 บาท เมื่อปลอล็กแล้ว ก็จะต้องทำให้ราคากระท่อมไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 200 บาท
สำหรับ “กระท่อม” มีสรรพคุณทางยา แก้ท้องเสีย ท้องเฟ้อ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ช่วยให้นอนหลับ และระงับประสาท ในพืชกระท่อม พบว่ามีสารสำคัญ เรียกว่า ไมทราไจนีน ที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้รู้สึกชา กดความรู้สึกเมื่อยล้าขณะทำงาน ช่วยให้กระปรี้กระเปร่า และยังพบสารเซเว่นไฮดร็อกซีไมทราไจนีน (7-hydroxymitragynine) ที่มีฤทธิ์ยับยั้งการตอบสนองต่อความเจ็บปวด
ส่วนการใช้พืชกระท่อมของต่างประเทศพบว่า ใช้เป็นยารักษาอาการเรื้อรังต่างๆ เช่น ช่วยลดความดันโลหิต บรรเทาเบาหวาน แก้ไอ แก้ระบบย่อยอาหารไม่ปกติ และกำจัดพยาธิในเด็ก และใช้เป็นการกระตุ้นร่างกายให้ทำงานหนักได้ และมีรายงานจากต่างประเทศกล่าวถึงการเริ่มศึกษาใบกระท่อมช่วยอาการซึมเศร้า และโรควิตกกังวลด้วย