รีเซต

ลดแล้วลดอีก! กกร.หั่นเป้าตัวเลขจีดีพีปีนี้ใกล้ติดลบ 10% หลังการระบาดโควิดยังเพิ่มสูงขึ้น

ลดแล้วลดอีก! กกร.หั่นเป้าตัวเลขจีดีพีปีนี้ใกล้ติดลบ 10% หลังการระบาดโควิดยังเพิ่มสูงขึ้น
ข่าวสด
5 สิงหาคม 2563 ( 15:39 )
66

 

ลดแล้วลดอีก! ยิ่งกว่าซัมเมอร์เซล กกร.หั่นเป้าตัวเลขจีดีพีปีนี้ใกล้ติดลบ 10% เนื่องจากในช่วงที่เหลือของปี 2563 ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่อง โดยมีแรงฉุดหลักจากเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยหลังการระบาดของโควิด-19

 

ลดแล้วลดอีก!กกร.หั่นจีดีพี - นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ว่า ที่ประชุมกกร. มีมติปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2563 ลงมาเป็นติดลบ 9% ถึงติดลบ 7% จากเดิมคาดไว้ติดลบ 8% ถึงติดลบ 5% และการส่งออกลงมาที่ติดลบ 12% ถึง ติดลบ 10% จากเดิมคาดไว้ติดลบ 10% ถึงติดลบ 7% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังคงคาดการณ์ ไว้ตามเดิมที่ติดลบ 1.5 ถึงติดลบ 1%

 

ทั้งนี้ เนื่องจากในช่วงที่เหลือของปี 2563 ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่อง โดยมีแรงฉุดหลักจากเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยหลังการระบาดของโควิด-19 ยังเพิ่มสูงขึ้นและบางประเทศพบจำนวนผู้ติดเชื้อรอบใหม่ เช่น จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม ฮ่องกง เป็นต้น ส่งผลให้การค้าและการเดินทางระหว่างประเทศคงยากที่จะฟื้นตัวกลับมาได้เร็ว อีกทั้งเงินบาทที่ผันผวนและเริ่มมีทิศทางแข็งค่ายังส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออก ประกอบกับกำลังซื้อครัวเรือนและภาคธุรกิจที่ชะลอตัว ประกอบกับความไม่แน่นอนในตลาดการจ้างงาน ยังเป็นปัจจัยลบที่กดดันการใช้จ่ายในประเทศอย่างต่อเนื่อง

 

“แม้เครื่องชี้เศรษฐกิจในเดือนมิ.ย. 2563 จะหดตัวน้อยลง แต่เศรษฐกิจไทยโดยรวมก็ยังอ่อนแออยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นการส่งออก การท่องเที่ยว และการใช้จ่ายภายในประเทศ เห็นได้จากไตรมาส 2/2563 ที่ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยคงจะหดตัวในอัตราเลขสองหลัก กกร.จึงมีความเป็นห่วงเศรษฐกิจไทยในช่วงข้างหน้าที่ยังขาดแรงขับเคลื่อนสำคัญจากภาคการท่องเที่ยวและการส่งออก ขณะที่มาตรการเยียวยาเศรษฐกิจและสังคมจากภาครัฐกำลังจะสิ้นสุดลง และสถานการณ์การจ้างงานก็ยังเปราะบาง”

 

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า นายสุพันธุ์ กล่าวว่า กกร. จะจัดตั้งคณะทำงาน กกร. ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เพื่อจัดเตรียมแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ควบคู่กับจัดตั้งคณะกรรมการปฏิรูปเศรษฐกิจผลักดันแผน 4 เรื่องให้เกิดผลได้จริง ได้แก่ 1. การส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวเชิง Wellness 2. การยกระดับการเกษตรมูลค่าสูง

 

3. การเพิ่มโอกาสของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กในธุรกิจเป้าหมาย และ 4. การยกระดับสู่การเป็นศูนย์กลางด้านการค้าและการลงทุนของภูมิภาค และจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการภาษีเพื่อจัดทำข้อเสนอมาตรการทางภาษีสรรพากร ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

 

นายสุพันธุ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจดังกล่าวได้ข้อสรุปแล้ว จะนำไปหารือและเสนอให้มีมาตรการช่วยเหลือจากทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ของรัฐบาลในเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม ทางภาคเอกชนยังอยากเสนอให้รัฐบาลจัดตั้งคณะทำงานที่มีรูปแบบเดียวกับศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) โดยดึงภาคเอกชนเข้าไปทำงานเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจร่วมกัน ซึ่งคณะทำงานชุดนี้ควรรีบจัดตั้งโดยเร็วที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง