อนามัยโลก ชี้ โควิด-19 ใกล้จบ เตรียมประชุมพิจารณายกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉิน

องค์อนามัยโลก ระบุ โลกกำลังอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดที่จะจบโควิด-19 เตรียมประชุมเดือนตุลาคม พิจารณายกเลิกโควิด-19 เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินสาธารณสุขโลก ยอดเสียชีวิตสัปดาห์ก่อนต่ำสุดนับตั้งแต่มีการระบาด

ดร.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก หรือ WHO กล่าวเมื่อวานนี้ (14 ก.ย.65) ว่า โลกไม่เคยอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่านี้มาก่อน ในการจบการระบาดของโควิด-19 

นับเป็นการคาดการณ์ภาพรวมโควิด-19 ที่ดีที่สุดของผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก นับตั้งแต่โควิดเริ่มระบาดมานานกว่า 2 ปีครึ่ง ตั้งแต่เริ่มพบโควิดในจีนในช่วงปลายปี 2019 เป็นต้นมา 

โควิด-19 ทำให้องค์การอนามัยโลกต้องประกาศให้โควิด-19 เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินสาธารณสุขโลก และมีผู้เสียชีวิตไปแล้วเกือบ 6.5 ล้านคนทั่วโลก และยอดรวมผู้ติดเชื้อสะสมมากกว่า 600 ล้านคนทั่วโลก ทั้งยังส่งผลกระทบอย่างหนักหน่วงต่อเศรษฐกิจโลก รวมไปถึงระบบสาธารณสุขทั่วโลกด้วย

ผอ.องค์การอนามัยโลก ยังเปิดเผยข่าวดีล่าสุดอีกประการคือด้วยว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2020 เป็นต้นมา

นอกจากนี้ องค์การอนามัยโลกยังเตรียมจะประชุมคณะผู้เชี่ยวชาญในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ เพื่อตัดสินใจว่าจะยังคงจัดให้โควิด-19 เป็น "สถานการณ์ฉุกเฉินสาธารณสุขโลก" อีกต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นระดับการเตือนภัยโรคระบาดสูงสุดขององค์การอนามัยโลก

ขณะที่ "วัคซีนป้องกันโควิด-19" และยารักษาโควิดต่าง ๆ มีส่วนสำคัญที่ช่วยป้องกันการเสียชีวิตและอาการทรุดหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล นอกจากนี้ การเกิดเชื้อไวรัสโควิดกลายพันธ์ุ "โอมิครอน" รวมทั้งสายพันธ์ุย่อยต่าง ๆ ของโอมิครอน ส่งผลให้เชื้อโควิดมีความรุนแรงน้อยลง

แต่ด้วยจำนวนผู้เสียชีวิตทะลุ 1 ล้านคนในปีนี้เพียงปีเดียว ทำให้การระบาดของโควิด-19 ยังคงเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินสาธารณสุขของโลกอยู่ในขณะนี้

กีบรีเยซุส ย้ำด้วยว่า "แต่เรายังไปไม่ถึงจุดนั้น จุดที่สามารถยุติการระบาดของโควิดได้ ทว่าการสิ้นสุดการระบาดอยู่ในสายตาแล้ว และขณะนี้โลกอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุด ที่จะสามารถจบการระบาดของโควิดได้"

อีกทั้งยังเรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ยังคงต้องเฝ้าระมัดระวังต่อไป และกระตุ้นให้รัฐบาลทั่วโลกยังจำเป็นจะต้องเพิ่มความเข้มงวดให้แก่นโยบายสกัดการระบาดของโควิด ต้องฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่มเสี่ยงสูง และจะต้องตรวจหาเชื้อโควิดต่อไป 

อย่างไรก็ตาม ผอ.องค์การอนามัยโลก เปรียบเทียบการรักษานโยบายสกัดโควิดเข้มงวดต่อไปด้วยว่า "เหมือนกับการวิ่งมาราธอน และเรากำลังมองเห็นเส้นชัยอยู่ข้างหน้าแล้ว และเรากำลังจะชนะ ดังนั้น ในเวลานี้จะกลายเป็นเวลาที่เลวร้ายที่สุดไป ถ้าหากเราหยุดวิ่ง แทนที่จะทำเช่นนั้น นี่คือเวลาที่เราจะต้องอดทนวิ่งต่อไป เพื่อให้แน่ใจว่า เราจะไปถึงเส้นชัย และได้รับรางวัลทุกอย่างจากการทุ่มเททำงานอย่างหนักของเรา"

ภาพจาก แฟ้มภาพ AFP