บลจ.กสิกรไทยเห็นความเสี่ยง กระจายพอร์ตลงทุนเทอมฟันด์
ข่าววันนี้ บลจ.กสิกรไทย มองจีนออกมาสร้างความมั่นใจให้กับเศรษฐกิจ ส่งผลให้นักลงทุนเชื่อมั่นมากขึ้น แต่ภาพรวมการลงทุนทั่วโลกยังคงมีความผันผวน และความเสี่ยงจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน และเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง ดังนั้นมุมมองการลงทุนในกองเทอมฟันด์ยังเป็นทางเลือกเพื่อกระจายความเสี่ยง
นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด หรือ บลจ.กสิกรไทย กล่าวว่า สถานการณ์ตลาดในจีนดูผ่อนคลายลงหลังจากที่รัฐบาลจีนได้ออกมาแสดงท่าทีที่เป็นมิตรต่อตลาดมากขึ้น ทั้งการส่งสัญญาณที่อาจลดความเข้มงวดในการควบคุมกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยี รวมถึงการจัดการกับสถานการณ์โควิด-19 ที่มีความยืดหยุ่นขึ้น เพื่อลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจของจีน และพร้อมที่จะสนับสนุนการเติบโตของ GDP ให้เป็นไปตามที่ตั้งเป้าไว้ที่ 5.5% ในปีนี้ เป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ความผันผวนในระยะสั้นต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังคงมีสูง ทั้งจากปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน อัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับที่สูง รวมถึงดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารที่อยู่ในระดับต่ำ ดังนั้น ในภาวะที่ตลาดยังมีความไม่แน่นอนเช่นนี้ การลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีผ่านกองทุน Term Fund จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ลงทุน
ดังนั้น บลจ.กสิกรไทย เสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1YT ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (KFF1YT-BR) ประมาณการผลตอบแทน 0.70% ต่อปี โดยเริ่มต้นลงทุนขั้นต่ำ 500,000 บาท ซึ่งจะเปิดเสนอขายในระหว่างวันที่ 12 - 25 เมษายน 2565
นายนาวินกล่าวต่อไปว่า KFF1YT-BR เป็นกองทุน Term Fund ที่มีอายุโครงการประมาณ 1 ปี มีนโยบายการลงทุนแบบกระจุกตัว และมีความเสี่ยงจากการลงทุนในต่างประเทศ จึงเหมาะกับผู้ที่มีเงินลงทุนสูง โดยผู้ลงทุนต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับทรัพย์สินที่กองทุนเข้าไปลงทุน และสามารถยอมรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้
อย่างไรก็ดี ตราสารที่กองทุนเข้าไปลงทุนล้วนเป็นตราสารที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) ซึ่งมีความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ต่ำ ดังนั้น ผู้ลงทุนจึงวางใจได้ว่าเงินลงทุนจะได้รับการบริหารจัดการอย่างดีจากผู้จัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญ ควบคู่ไปกับการบริหารความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ
ทั้งนี้ คาดว่ากองทุน KFF1YT-BR จะเข้าลงทุนในเงินฝาก Bank of China, เงินฝาก Agricultural Bank of China (สาธารณรัฐประชาชนจีน) และเงินฝาก Commercial Bank of Qatar, เงินฝาก Qatar National Bank, เงินฝาก Doha Bank (ประเทศกาตาร์) รวมถึงตราสารหนี้ Sabah Development Bank Berhad (ประเทศมาเลเซีย) โดยกองทุนจะป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน