TKN ล็อกเป้าตลาดต่างแดน เพิ่มช่องทางขายโกยเงิน
#TKN #ทันหุ้น – TKN มั่นใจรายได้ทั้งปี2567 เติบโต 10% ตามเป้า เร่งออกสินค้ากระตุ้นยอดขายตลาดในต่างประเทศ ด้านตลาดจีนยังเติบโตได้ในอนาคต ช่วงที่เหลือของปีคาดปิดดิลพันธมิตรรายใหม่เสริมทัพช่วยโกยยอดขาย ส่วนตลาดในสหรัฐเริ่มวางจำหน่ายสินค้าที่วอลมาร์ท รวมถึงได้ช่องทางขายใหม่ในแคนาดาเพิ่ม
นายจิระพงษ์ สันติภิรมย์กุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN เปิดเผยว่า บริษัทยังมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจด้วย GO FIRM GO BOARD GO GLOBAL โดยแผนการบริหารจะมีความยืดหยุ่น เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันมีความผันผวนในหลายประเทศ โดยต้องปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ สำหรับการเติบโตของผลการดำเนินงานปีนี้ บริษัทยังเชื่อว่าจะทำได้ 10% ตามที่วางไว้ โดยมองว่าในช่วงครึ่งปีหลังยัง สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ภาพรวมตลาดในประเทศ ปัจจุบันสถานการณ์เศรษฐกิจยังชะลอตัว แต่เถ้าแก่น้อยก็ยังสามารถสร้างการเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี และการออกสินค้าใหม่ๆ อาทิ สาหร่ายอบ สาหร่ายโรยข้าว ซึ่งได้รับความนิยมมาก ปัจจุบันสร้างการเจริญเติบโตได้ค่อนข้างโดดเด่น
*หาพันธมิตรหนุนตลาดจีน
โดยแบ่งเป็นการเติบโตในตลาดต่างประเทศ ได้แก่ ประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของบริษัท ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้กลับไปเติบโตในระดับเดิม เหมือนก่อนช่วงเกิด โควิด-19 ช่องทางการขายการเปลี่ยนแปลง ซึ่งบริษัทก็ได้ติดตามและทำงานอย่างใกล้ชิดกับตัวแทนผู้จัดจำหน่าย(Distributor) ในประเทศจีน
เเละบริษัทยังมุ่งไปยังตลาดออนไลน์และเพิ่มช่องทางออนไลน์ใหม่ๆในประเทศจีนให้มากขึ้น โดยในช่วงครึ่งปีหลัง
บริษัทยังมองหาโอกาสการเติบโตเพิ่มเติมทั้งการหาพันธมิตรรายใหม่ในจีน ที่มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ อาทิ ทางด้านออนไลน์ เพื่อที่จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในตลาดประเทศจีนมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาคาดว่าน่าจะได้รับความชัดเจนในเร็วๆ
สำหรับแนวโน้มของธุรกิจในช่วงที่เหลือของปียอดขายที่ลดลงจากประเทศจีน มองว่าเป็นผลกระทบ ชั่วคราวเท่านั้น เนื่องจากแบรนด์เถ้าแก่น้อยในประเทศจีนถือว่ามีความแข็งแรง
*เพิ่มช่องทางขายในสัหรัฐ
ขณะที่ตลาดในสหรัฐ หลังจากที่บริษัทได้เข้าไปจัดจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า Costco ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้บริษัทก็จะมองไปยังช่องทางการขายด้านอื่น อาทิ วอลมาร์ท (Walmart) ห้างบริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่ในสหรัฐและหลายประเทศทั่วโลก และเดินหน้าขยายช่องทางการขยายไปยัง ร้านค้า ห้างสรรพสินค้าใน ตลาดสหรัฐฯเพิ่มเติม
นอกจากนี้ยังสามารถขยายช่องทางการขายไปยังประเทศแคนาดาได้เพิ่มผ่าน ซุปเปอร์มาร์เก็ตที่มีกว่า 400 สาขา ทั่วประเทศ รวมถึงบริษัทยังเดินหน้าขยายช่องทางการขายในประเทศอินโดนีเซียให้เพิ่มขึ้น ทั้งห้างสรรพสินค้าและตลาดออนไลน์ รวมถึงเติมสินค้าใหม่ๆ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญ
*รอต้นทุนสาหร่ายใหม่
สำหรับต้นทุนส่าหร่ายปี 2567 ถือว่ามีราคาที่สูงเป็นนิวไฮของวงการสาหร่าย เกิดจากดีมานด์และซัพพลาย ที่ไม่สมดุลกัน โดยต้นทุนสาหร่ายรอบใหม่ปี 2568 จะเริ่มในช่วงปลายพฤศจิกายน-ต้นธันวาคม 2567 โดยในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลเกาหลีได้ส่งเสริมพื้นที่การเพาะปลูกสาหร่ายเพิ่มขึ้น 3-5% ซึ่งก็ต้องรอดูผลผลิตว่าจะออกมามากน้อยแค่ไหนในช่วงตุลาคม-พฤศจิกายน 2567 นี้ แต่อาจจะยังไม่ได้ดึงราคาวัตถุดิบลงมามากนัก เนื่องจากความต้องการสาหร่าย ของบริษัทยักษ์ใหญ่ในเกาหลียังสูงอยู่
บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี จำกัด(มหาชน) ระบุว่า TKN วางแผนที่จะขยายธุรกิจในสหรัฐอเมริกามากขึ้น (ประมาณ 10% ของยอดขาย)ผ่านการเข้าสู่ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ เช่น Walmart และ Kroger ในไตรมาส4/2567นอกเหนือจากการขายใน Costco ในปัจจุบัน เราคาดว่าจะเพิ่มการเติบโตของยอดขายในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ไตรมาส4/2567 เป็นต้นไป
นอกจากนี้บริษัทกำลังวางแผนที่จะทำงานร่วมกับผู้จัดจำหน่ายในยุโรปมากขึ้น แม้ว่าแผนดังกล่าวยังไม่เป็นรูปธรรมก็ตาม ส่วนในประเทศจีน ซึ่งยอดขายอาจลดลง 2% และในปี2567 TKN วางแผนที่จะเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์เพิ่มเติม (เช่น Temu) เพื่อให้ทันกับแนวโน้มการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในจีน
ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นยังถูกกดดันเนื่องจากราคาวัตถุดิบสาหร่ายเพิ่มขึ้น 50% YTD อัตรากำไรขั้นต้นของ TKN อาจอยู่ภายใต้แรงกดดันในไตรมาส3/2567 เนื่องจากสาหร่ายทะเลราคาถูกสต๊อกเก่าถูกใช้หมดแล้ว ทั้งนี้ความเสี่ยงที่สำคัญคือราคาสาหร่ายทะเลมีความผันผวน ประเมินราคาพื้นฐานที่10.30บาท