รีเซต

ไดโนเสาร์สายพันธุใหม่ คันคูลู (Khankhuuluu) ต้นตระกูล T-rex นักล่าผู้ยิ่งใหญ่

ไดโนเสาร์สายพันธุใหม่ คันคูลู (Khankhuuluu) ต้นตระกูล T-rex นักล่าผู้ยิ่งใหญ่
TNN ช่อง16
14 มิถุนายน 2568 ( 00:20 )
13

นักบรรพชีวินวิทยาได้ค้นพบหลักฐานชิ้นสำคัญที่ช่วยไขปริศนาวิวัฒนาการของไทรันโนซอรัส เร็กซ์ (Tyrannosaurus rex) สัตว์นักล่าผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก การค้นพบครั้งนี้มาจากฟอสซิลที่ถูกขุดพบในมองโกเลียตั้งแต่ยุค 1970 ซึ่งในที่สุดก็ได้รับการยืนยันว่าเป็นบรรพบุรุษที่ใกล้เคียงที่สุดเท่าที่เคยพบของ ทีเร็กซ์ (T. rex) ขนาดยักษ์

ความเป็นมาและข้อมูลของ "คันคูลู มองโกเลนซิส" 

การค้นพบนี้นำโดย จาเร็ด โวริส (Jared Voris) และดร. ดาร์ล่า เซเลนิสกี้ (Dr. Darla Zelenitsky) จากมหาวิทยาลัยคัลการี (University of Calgary) ซึ่งเป็นการเปิดมุมมองใหม่สู่การขึ้นสู่จุดสูงสุดของ ทีเร็กซ์ (T. rex)

ที่มาของภาพ
Reuters

สิ่งมีชีวิตนี้ คือ คันคูลู มองโกเลนซิส (Khankhuuluu mongoliensis) ซึ่งเป็นสายพันธุ์ไทแรนโนซอร์ยุคแรกเริ่ม เป็นสัตว์กินเนื้อขนาดกลางที่ว่องไว มีความยาวถึง 4 เมตร และสูง 2 เมตร ที่สะโพก มีน้ำหนักประมาณ 750 กิโลกรัม  มีชีวิตอยู่บนโลกเมื่อ 86 ล้านปีก่อน และคำว่า คันคูลู (Khankhuuluu) ในภาษามองโกเลียแปลว่า "เจ้าชายมังกร" (Dragon Prince) ซึ่งเป็นชื่อที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้มาก่อน "ราชาแห่งไดโนเสาร์ยักษ์" อย่าง ทีเร็กซ์ (T. rex)

เติมเต็มช่องว่างวิวัฒนาการ

การค้นพบ คันคูลู (Khankhuuluu) ถือเป็นการเติมเต็มช่องว่างที่สำคัญในแผนผังวิวัฒนาการของไทแรนโนซอร์ที่ยังไม่ชัดเจนมานานหลายปี ไทแรนโนซอร์เริ่มต้นจากสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กเมื่อประมาณ 150 ล้านปีก่อน ในยุคจูราสสิก และค่อย ๆ วิวัฒนาการจนมีขนาดมหึมาอย่าง ทีเร็กซ์ (T. rex) ในช่วงปลายยุคครีเทเชียส สิ่งที่น่าสนใจคือ ทีเร็กซ์ (T. rex) ถือกำเนิดขึ้นประมาณ 20 ล้านปีหลังจาก คันคูลู (Khankhuuluu) ซึ่งฟอสซิลใหม่นี้ได้เชื่อมโยงไทแรนโนซอร์รุ่นแรกกับลูกหลานขนาดยักษ์ของพวกมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ที่มาของภาพ
Reuters

ฟอสซิลของ คันคูลู (Khankhuuluu) ถูกค้นพบครั้งแรกในบายันชิรี ฟอร์เมชัน (Bayanshiree Formation) หรือชื่อเรียกชุดชั้นหินทางธรณีวิทยาในประเทศมองโกเลีย ซึ่งมีอายุอยู่ในช่วงปลายยุคครีเทเชียส ทางตะวันออกเฉียงใต้ของมองโกเลีย 

ในตอนแรกนักบรรพชีวินวิทยาเข้าใจผิดว่ามันคืออเล็กโทรซอรัส (Alectrosaurus) ซึ่งเป็นไทแรนโนซอร์ขนาดกลางอีกชนิดหนึ่ง แต่เมื่อ จาเร็ด โวริส (Jared Voris) เดินทางไปมองโกเลียในปี 2023 เขาได้สังเกตเห็นลักษณะเฉพาะของฟอสซิลนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระดูกจมูกที่กลวง ซึ่งบ่งชี้อย่างชัดเจนว่าเป็นบรรพบุรุษของไทแรนโนซอร์ยุคแรก

โดยลักษณะของ คันคูลู (Khankhuuluu) ที่ต่างออกไปคือเป็นนักล่าที่ผอมเพรียวและปราดเปรียว ไม่เหมือนกับลูกหลานขนาดยักษ์ของมัน กระโหลกศีรษะที่ยาวและตื้นของมันหมายความว่ามันไม่สามารถบดกระดูกได้ ทำให้มันเป็น นักล่าขนาดกลาง (Mesopredator) ที่อาศัยความเร็วและความคล่องตัวในการล่าเหยื่อ นอกจากนี้ มันยังมีเขาเล็ก ๆ ที่เป็นต้นแบบ ซึ่งคาดว่าเป็นบรรพบุรุษของเขาที่โดดเด่นยิ่งขึ้นในไทแรนโนซอร์ยุคหลัง เช่นอัลเบอร์โตซอรัส (Albertosaurus) หรือกอร์โกซอรัส (Gorgosaurus) ที่ใช้สำหรับการผสมพันธุ์หรือการข่มขู่


การอพยพข้ามทวีป

การศึกษาใหม่ยังให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการย้ายถิ่นของไทแรนโนซอร์ โดยพบว่าพวกมันอพยพระหว่างเอเชียและอเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดความหลากหลายทางชีวภาพและวิวัฒนาการไปสู่สิ่งมีชีวิตขนาดมหึมาในช่วงปลายยุคครีเทเชียส ก่อนที่พวกมันจะสูญพันธุ์เมื่อ 66 ล้านปีก่อน

ทั้งนี้ ดร. ดาร์ล่า เซเลนิสกี้ (Dr. Darla Zelenitsky) จากมหาวิทยาลัยคัลการี (University of Calgary) กล่าวต่อประเด็นนี้ว่า "การศึกษาของเราให้หลักฐานที่มั่นคงว่าไทแรนโนซอร์ขนาดใหญ่พัฒนาขึ้นครั้งแรกในอเมริกาเหนือ อันเป็นผลมาจากการอพยพครั้งนี้" 

ที่มาของภาพ
Reuters


การค้นพบ คันคูลู (Khankhuuluu) ชี้ให้เห็นว่ามันเป็นบรรพบุรุษสุดท้ายที่รู้จักของไทแรนโนซอร์ขนาดใหญ่ที่พบในบันทึกฟอสซิลของเอเชีย เชื่อกันว่าเมื่อประมาณ 85 ล้านปีก่อน คันคูลู (Khankhuuluu)  หรือญาติใกล้ชิดของมันได้อพยพจากเอเชียไปยังอเมริกาเหนือผ่านสะพานเชื่อมแผ่นดิน จากนั้นบันทึกฟอสซิลก็ชี้ให้เห็นว่าไทแรนโนซอร์ยังคงอยู่ในอเมริกาเหนือเพียงอย่างเดียวเป็นเวลาหลายล้านปี โดยมีการวิวัฒนาการและเติบโตที่นั่น

โดยงานวิจัยนี้ถูกตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์เนเจอร์ (Nature) https://www.nature.com/articles/s41586-025-08964-6

ข่าวที่เกี่ยวข้อง